กก พืชน้ำทำเครื่องจักสานชั้นเยี่ยม

6 สิงหาคม 2556 ไม้น้ำ 0

ต้นกก เป็นไม้ล้มลุก พบแพร่พันธุ์กระจายอยู่ทั่วโลก มีอยู่ประมาณ 4,000 ชนิด เจริญเติบโตได้ดีในที่ชื้นแฉะ ในหนอง คลอง บึง นาลุ่มที่มีน้ำขัง รวมถึงในดินโคลนหรือดินเหนียว หลายประเทศ จัดประเภทต้นกกเป็นวัชพืช

ชื่อสามัญ Umbrella plant
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cyperus involucratus Rottb.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Cyperus alternifolius L. subsp. flabelliformis (Rottb.) Kuk.
ชื่อวงศ์ : CYPERACEAE
ชื่ออื่นๆ : กกต้นกลม, กกขนาก, หญ้าลังดา, กกดอกแดง,กกลังกา

ลักษณะทั่วไป : เป็นพืชล้มลุกอายุหลายฤดู มีลำต้นใต้ดิน เจริญเติบโตเป็นกอ ลำต้นเหนือดินมีลักษณะเป็นก้านแข็งกลม สูงประมาณ 1.2-2.4 เมตร ใบมีขนาดสั้นแผ่เป็นกาบหุ้มส่วนโคนของลำต้น ดอกออกเป็นช่อกลมสีน้ำตาลแดงที่ปลายยอด มีใบประดับที่ปลายลำต้นเป็นเส้นกลมเล็กยาว 12-24 ซม. ห้อยโน้มลง 50-100 เส้น

  • ต้น : เป็นพรรณไม้ที่มีลำต้นออกเป็นกอมีหัวอยู่ใต้ดิน คล้ายจำพวกขิงหรือเร่ว ลำต้นมีความสูงประมาณ 100-150 ซม. ลักษณะของลำต้นตั้งตรงไม่มีกิ่งก้าน ลำต้นกลมมีสีเขียว
  • ใบ : ใบจะออกแผ่ซ้อน ๆ กัน อยู่ปลายยอดของลำต้น ลักษณะของใบเป็นรูปยาว ปลายใบแหลม กว้างประมาณ 1 ซม. ยาวประมาณ 18-19 ซม. ใบมีสีเขียว ริมขอบ ใบเรียบใต้ท้องใบสาก ลำต้นหนึ่งจะมีใบประมาณ 18-25 ใบ
  • ดอก : ดอกออกเป็นกระจุก อยู่รวมกันเป็นใบ ดอกมีขนาดเล็ก เป็นสีขาวแกมเขียว ก้านดอกเป็นเส้นเล็ก ๆ สีเขียว ยาวประมาณ 6-7 ซม. ดอกแก่เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน

ต้นกก มีรูปร่างคล้ายกับต้นหญ้ามาก โดยเฉพาะส่วนใบ จนแยกกันไม่ออก จนหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าคือต้นหญ้า แต่ลักษณะที่แตกต่างกันคือส่วนของลำต้นกก จะตันกว่า และมีลักษณะคล้ายรูป 3 เหลี่ยม เห็นเป็น 3 มุมชัดเจน และต้นกกบางชนิด จะมีลักษณะคล้ายกับมีผนังกั้นแบ่งเป็นห้องๆ นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นคือ จะไม่แตกกิ่งก้านเหมือนกับต้นพืชชนิดอื่นๆ แต่จะเรียงตัว แล้วอัดกันแน่นอยู่รอบโคนต้น ที่สำคัญต้นกกมีเส้นใยที่เหนียวทนทาน สามารถนำไปใช้ทอเป็นเสื่อ หรือกระเป๋า ได้อีกด้วย

kokyod
กกนั้นมีรูปร่างลักษณะและนิเวศวิทยาเหมือนหญ้ามาก มีลักษณะที่แตกต่างจากหญ้าคือ กกมักมีลำต้นตัน (solid) และเป็นสามเหลี่ยมหรือสามมุม (three-amgled) บางชนิดมีผนังกั้นแบ่งเป็นห้องๆ (septate) มีกาบใบอยู่ชิดกันมาก และที่สำคัญคือเกือบไม่มีลิ้นใบ (ligule) บางชนิดไม่มีเลย ลักษณะสำคัญอีกประการหนึ่งของกกคือ ดอกแต่ละดอกจะมี glume ห่อหุ้มหรือรองรับเพียงอันเดียว กกมีไหล (rhizome) เลื้อยไปใต้ดินและจากไหลก็จะแตกเป็นลำต้นเรียกว่า culm ที่ตัน (solid) โผล่พ้นขึ้นมาเหนือดิน และเมื่อผ่าลำต้นดูตามขวาง (cross-section) จะมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมหรือสามมุมดังได้กล่าวมาแล้ว ลำต้นกกจะไม่แตกกิ่งเหมือนพืชชนิดอื่น ใบของกกเหมือนกับใบของหญ้า แต่จะเรียงตัวอัดกันแน่นเป็นสามมุมหรือสามตำแหน่งรอบโคนต้นและมีกาบ (sheath) ห่อหุ้มลำต้นและไม่มีลิ้นใบ (ligule)

ช่อดอกกกจะเกิดที่ปลายลำต้นเป็นหลายแบบ เช่น panicle, umbel หรือ spike และมีดอกขนาดเล็กเป็นทั้งดอกที่สมบูรณ์และไม่สมบูรณ์เพศ โดยมีดอกรวมเรียกว่า spikelet ซึ่งประกอบด้วยดอกย่อย (floret) หนึ่งหรือหลายดอก แต่ละดอกมี glume หรือริ้วประดับ (bract) รองรับ ส่วนกลีบดอกหรือ perianth นั้นไม่มีหรืออาจมีแต่เปลี่ยนรูปร่างไปเป็นเกล็ด (scale) หรือขนแข็งเล็กๆ (bristle) ในดอกกกจะมีเกสรเพศผู้ (filament) แยกกันอยู่ ส่วนเกสรเพศเมียจะมีก้านแยกเป็นสอง-สามแฉก หรือบางครั้งแยกเป็นสอง-สามเส้น และมีรังไข่อยู่เหนือกลีบดอก (supreior) ภายในมีห้องเดียวและมีหนึ่งเมล็ด

kokdok

สรรพคุณ : ลำต้น ทำลายดีอันผูกไว้ซึ่งพิษ ขับน้ำดีให้ตกลำไส้ ใบ ฆ่าแม่พยาธิ ซึ่งเป็นตัวนำเชื้อโรคทั้งหมด ดอก แก้โรคในปาก เช่นปากเปื่อย หรือปากซีด ราก เป็นยาแก้ช้ำภายใน ขับเลือดเสียออกจากร่ากาย หัว เป็นยาแก้เสมหะเฟื่อง แก้ธาตุพิการ บำรุงธาตุ และ ทำให้อยากอาหาร
ส่วนที่ใช้ : ลำต้น, ใบ, ดอก, ราก, หัว

ประโยชน์
หลายชนิดใช้เป็นอาหารเช่น Eleocharis toberosa และ Scirpus toberosus และหลายชนิดใช้สานเสื่อทำกระจาด กระเช้า หมวก เช่น Scirpus mucronatus, Lepironia mucronata, Carex brizoides

การขยายพันธุ์ : กกลังกา เป็นพันธุ์ไม้มักจะขึ้นตามบริเวณที่ ๆ เป็นโคลนหรือน้ำ เช่นข้างแม่น้ำ ลำคลอง สระ หรือบ่อน้ำ มีการขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อ

การปลูกต้นกก
การเตรียมพื้นที่สำหรับปลูก

  1. การเลือกพื้นที่ กกชอบขึ้นในที่ดินเลน แต่ต้องอยู่ในที่ลุ่มมีน้ำขังอยู่เสมอ
  2. การเตรียมพื้นที่ เมื่อเลือกพื้นที่ดินสำหรับการปลูกกกได้แล้ว จัดการไถพรวนให้ดินร่วนซุย และให้หญ้าตายเช่นเดียวกับนาข้าว เพราะหญ้าเป็นศัตรูของกกเหมือนกับข้าวเหมือนกัน ทั้งต้องทำคันนาไว้สำหรับขังน้ำด้วยเหมือนกัน ที่ๆ ปลูกกกนี้เรียก นากก
  3. การปักดำ การดำนากกเหมือนการดำนาข้าว ใช้หัวกกที่ติดอยู่กับลำต้น ตัดปลายทิ้งให้เหลือยาวประมาณ 50 เซนติเมตร ซึ่งอาจซื้อมาหรือแยกจากนากกของตนเอง มัดเป็นกำ กำละประมาณ 50 ต้น ราคา ซื้อขายหัวกกมาทำพันธุ์นั้น ประมาณ 100 กำต่อ 1,200 บาท นำเอาพันธุ์กกเหล่านั้นแยกออกเป็นหัวๆ ดำลงในนากก ห่างกันประมาณ 20 25 เซนติเมตร อัตราการใช้หัวกกในการดำ พื้นที่ 1 ไร่ ประมาณ 500 กำ
  4. การบำรุงรักษา เมื่อเสร็จการดำแล้ว การบำรุงรักษาก็มีแต่งานเล็กๆ น้อยๆ เช่น
    4.1 การถอนหญ้า และวัชพืชต่างๆ การถอนหญ้าในนากกนานๆ จะมีการถอนกันสักครั้ง หนึ่ง เมื่อเห็นว่าหญ้าขึ้นมาก บางแห่งก็ไม่ต้องถอนเลย เพราะเมื่อกกขึ้นจนแน่นหนา หญ้าไม่สามารถจะขึ้นมาได้
    4.2 การพ่นยาฆ่าแมลง จะมีการพ่นยาฆ่าแมลงเป็นบางครั้งเพื่อป้องกันเพลี้ยไฟ ไรแดงลงเพื่อซึ่งจะทำให้ผิวของกกกลายเป็นสีแดง นำมาใช้ในการทอไม่ได้
    4.3 การใส่ปุ๋ย ตามปกตินากกเมื่อดำลงไปแล้วครั้งหนึ่งก็ไม่ต้องดำอีกหลายปีเพราะเมื่อตัดต้นกกไปแล้วหัวกกยังอยู่จะแทงหน่อขึ้นมาเป็นลำต้นอีก เมื่อเห็นว่ากกไม่งาม ก็จะใส่ปุ๋ยลงไป ในอดีตนั้นนิยมใช้ปุ๋ยคอก ขี้น้ำปลา แต่ปัจจุบันนี้เปลี่ยนเป็นปุ๋ยเคมี
    4.4 การซ่อมแซม เมื่อเห็นว่าพื้นที่ช่วงไหนกกห่างหรือหัวกกตาย ไม่มีลำต้นแทงหน่อขึ้น ก็จะแบกหัวกกในนาดำแซมลงไป มากน้อยตามแต่สมควร

การเก็บเกี่ยว
การเก็บเกี่ยวกก จะต้องตัดเมื่อกกไม่อ่อนหรือแก่เกินไป จะได้กกที่มีความทน มีคุณภาพดี ถ้ากกแก่ หรืออ่อนจนเกินไป เมื่อนำไปทอเสื่อจะทำให้เส้นกกขาด เสื่อที่ทอได้จะไม่สวย กกจะสวยงาม และโตเต็มที่เมื่ออายุประมาณ 60-70 วัน การตัดกกให้สังเกตจากสีของดอกกก กกอ่อนดอกจะเป็นสีขาวหรือสีเหลือง กกแก่จะเป็นสีน้ำตาลแก่หรือสีเกือบดำและตามลำต้นจะมีจุดผุด่างดำ กกที่เหมาะสำหรับทอเสื่อควรตัดขณะที่ดอกมีสีน้ำตาลอ่อนหรือสีน้ำตาล ดอกกำลังบานเต็มที่ ส่วนมากจะใช้เคียวเกี่ยว จะตัดลำต้นจนติดกับพื้นดินให้เหลือตอสั้นที่สุด ขณะเก็บเกี่ยวนั้น นิยมกำจัดวัชพืชไปด้วย เพื่อใช้หน่อกกโตขึ้นมาได้อีก เมื่อตัดกกเรียบร้อยแล้วก็ตัดส่วนใบทิ้งไป

VLUU L100, M100  / Samsung L100, M100

การคัดกก
วัดขนาดของลำต้นกกก่อนทำการตัด ขนาดที่ใช้อาจเป็น 5 คืบ 6 , 7 , 8 , 9 , 10 คืบ ตามแต่ขนาดของเสื่อที่จะทอ กกที่มีความยาวเต็มที่หรือยิ่งได้ความยาวเท่าไหร่ก็ยิ่งดี หลังจากคัดเลือกแล้วจึงตัดปลายของกกทิ้งเมื่อตัดกกเรียบร้อยแล้วก็ตัดส่วนใบทิ้งไปแล้วนำไปแยกขนาดตามความยาวของลำต้นกกก่อนทำการตัดขนาดที่ใช้อาจเป็น 5 , 6 , 7 , 8 , 9 , 10 คืบ ตามแต่ขนาดของเสื่อที่จะทอ กกที่มีความยาวเต็มที่หรือยิ่งได้ความยาวเท่าไหร่ก็ยิ่งดี หลังจากคัดเลือกแล้วจึงตัดปลายของกกทิ้ง

การจักหรือการซอยต้นกก
การผ่าแบ่งต้นต้นกกให้เป็นเส้น เรียกว่า การจัก เครื่องมือที่ใช้ในการจัก คือ มีด เล็กๆบางๆ ปลายแหลม มีความคมพอประมาณแต่ไม่ต้องคมมากเพราะความคมของใบมีด ขณะกรีดอาจตัดเส้นกกขาดได้ ทำให้เส้นกกไม่สวย ขนาดของเส้นกกที่นิยมใช้กันคือ 1 ลำต้น ต่อ 3-4 เส้น แต่ถ้าเส้นกกมีขนาดเล็กจะใช้ขนาด 2-3 เส้น จะจักเอาเฉพาะเปลือกข้างนอกให้มีเนื้อข้างในติดเล็กน้อย แต่พยายามอย่าให้ถูกน้ำค้างหรือน้ำฝน เมื่อตากแดดแล้วกกจะเปลี่ยนเป็นสีขาวนวล ก็พร้อมที่จะนำไปย้อมสีให้สวยงามตามต้องการ

kokmad

การตากแดด
เมื่อจักเรียบร้อยแล้วก็มาถึงขั้นตอนในการตากแดดให้แห้งที่จะสามารถนำไปทอได้
การตากกกในลักษณะต่าง ๆ กัน บางรายใช้กกตากเกลี่ยกระจายไปบนราวไม้ไผ่ในแนวนอน
หรือบางรายตากตามสถานที่ ๆ เป็นลานกว้าง หรือที่ ๆ มีความกว้างใหญ่พอที่จะเกลี่ยกกกับพื้น
ให้ถูกแดดได้อย่างทั่วถึง ควรเลือกสถานที่โล่งแจ้ง ไม่มีแสงแดดรำไรเพราะจะทำให้กกไม่ถูกแดด
อย่างทั่วถึง จะเกลี่ยกกให้กระจายทั่ว ๆ ให้ถูกแดดอย่างทั่วถึง ถ้าแดดแรง ตากประมาณ 4 – 5
วันก็ใช้ได้ ตากจนกกเปลี่ยนสีออกเหลือง แห้งสนิท เมื่อตากแดดแห้งดีแล้วก็นำมารวบไว้ตามขนาด
มัดเป็นกำ ๆ เก็บรวบรวมไว้ พร้อมที่จะนำไปย้อม

koktak
การทอเสื่อกก
ขั้นตอนการผลิต

ขั้นตอนที่ 1 การสอยต้นกก

  1. ตัดต้นกกสด
  2. คัดเลือกต้นกกที่มีขนาดเท่ากันไว้ด้วยกัน
  3. นำต้นกกที่คัดแล้วมาสอยเป็นเส้นเล็กโดยใช้มีดปลายแหลมคม(มีดแกะสลัก)
  4. นำเส้นกกที่สอยแล้วมาผึ่งแดด ให้แห้ง (ถ้าเป็นไปได้ต้องเป็นแดดที่กล้าจัด)

kokpah

ขั้นตอนที่ 2 การย้อมสี

  1. เลือกซื้อสีสำหรับย้อมกกสี่ต่าง ๆ ที่มีสีสันสวยงาม เช่น สีแดง สีชมพู สีเหลือง สีม่วง สีดำ สีเขียว เป็นต้น
  2. ก่อไฟโดยไฟที่ใช้ต้องสม่ำเสมอ
  3. นำปี๊ป หรือภาชนะใส่น้ำพอประมาณท่วมเส้นกกนำมาตั้งบนเตารอให้น้ำเดือด
  4. พอน้ำเดือดก็นำสีที่เลือกมาเทลง
  5. นำเส้นกกที่คัดเลือกแล้วลงย้อมจนเพียงพอที่จะใช้ในการทอ
  6. นำเส้นกกที่ย้อมสีแล้วลงล้างในน้ำเปล่าแล้วนำไปตากแดดที่จัดจนแห้ง
  7. นำเส้นกกที่ย้อมสีตากแห้งแล้วมากเก็บมัดรวมกัน โดยแยกเป็นสี แต่ละสี

VLUU L100, M100  / Samsung L100, M100

ขั้นตอนที่ 3 การทอเสื่อกกลายมัดหมี่ ลายถักเปียและลายบา

  1. นำโฮงที่ทำสำเร็จรูปแล้วมากาง (โฮงที่ใช้ขนาดทอคนเดียว)
  2. นำเชือกในลอนสำหรับทอเสื่อมาโยงใส่ฟืมจนเสร็จ
  3. ฟืมที่ใช้ต้องมีขนาดเท่ากับเส้นกกและฟืมแต่ละฟืมก็อาจจะใช้ทอลายไม่เหมือนกัน
  4. นำเส้นกกที่ย้อมสีตามจนแห้งแล้วนำมาทอเสื่อลายขิดหรือลายตามต้องการซึ่งมีหลายลายด้วยกัน
  5. นำเส้นกกที่สอยและย้อมสีแล้วเลือกว่าจะใช้สีใดบ้างที่จะทอเสื่อ
  6. เลือกลายแล้วเริ่มทอจนเป็นแผ่น
  7. พอทอเสร็จก็ตัดแล้วหลังจากนั้นก็นำไปตากแดดเพื่อให้สีไม่ออก
  8. หลังจากนั้นก็นำมาเก็บในที่ร่ม

VLUU L100, M100  / Samsung L100, M100
VLUU L100, M100  / Samsung L100, M100

ขั้นตอนที่ 4 การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเสื่อกกลายต่าง ๆ

  1. เสื่อที่ทอแล้วนำมาเย็บต่อเป็นผืนโดยใช้จักรเย็บ
  2. ออกแบบผลิตภัณฑ์ตามที่ต้องการ เช่น ออกแบบกระเป๋าต่างๆ ออกแบบที่รองจานฯลฯ
  3. นำกระดาษแข็งที่เตรียมไว้แล้ว มาตัดตามแบบที่ออกแบบไว้
  4. นำเสื่อที่ทอไว้แล้วมาตัดตามแบบที่ออกไว้
  5. นำเสื่อที่ตัดเอาไว้ตามแบบแล้วนำมาเย็บเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ได้ออกแบบเอาไว้

koksear
kokkong

ป้ายคำ :

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับหมวด ไม้น้ำ

แสดงความคิดเห็น