สมุนไพรกวาวเครือขาว จัดเป็นไม้เลื้อย หรือพืชในตระกูลถั่ว โดยเป็น 1 ใน 4 ชนิดของกวาวเครือทั้งหมด มีหัวอยู่ใต้ดิน ลักษณะกลม มีหลายขนาด ถ้าหัวที่มีอายุมากอาจหนักถึง 20 กิโลกรัม เมื่อเอามีดผ่าออกจะมียางสีขาวคล้ายน้ำนม เนื้อในจะมีสีขาวคล้ายมันแกว เนื้อเปราะ มีเส้นมาก ส่วนหัวเล็ก เนื้อในจะละเอียด มีน้ำมาก และนิยมเพาะปลูกหรือพบมากทางภาคเหนือและอีสานของประเทศ
กวาวเครือมี 4 ชนิด คือ
- กวาวเครือขาว เป็นไม้เถาเลื้อยพาดพันต้นไม้ใหญ่ มีหัวใต้ดินขนาดใหญ่ ทำหน้าที่สะสมอาหาร ลักษณะค่อนข้างกลม และคอดยาวเป็นตอนๆ ต่อเนื่องกันใบมีใบย่อย 3 ใบ ใบเล็กกว่าชนิดแดง หัวคล้ายมันแกว ขนาดของหัวจะขึ้นอยู่กับลักษณะดิน การใช้ทำยา จะเลือกหัวแก่ เอามีดปาดดูจะมียางสีขาวคล้ายน้ำนม เนื้อเปราะ มีเส้นมาก
- กวาวเครือแดง เป็นไม้เถาเลื้อยพันตามไม้ใหญ่ ใบใหญ่คล้ายใบของต้นทองกวาว ดอกใหญ่คล้ายดอกแคแสด เป็นพวงระย้าเหมือนดอกทองกวาว ฝักเล็กแบนบาง มีหัวลงใต้ดิน คล้ายหัวมันแกวใหญ่ ๆ เปลือกสีน้ำตาล ฝานเปลือกออก จะมีสีแดงสด ซึมออกมา เนื้อในสีขาว มีอายุยืน บางหัวใหญ่เท่าตัวคนก็มี มีรากเหง้า และลำต้นเลื้อยพันไปทั่วกับต้นไม้ใหญ่ข้างเคียง มีรากแขนงแยกจากเหง้า เลื้อยไปรอบ ๆ หลายเมตร สามารถคัดเลือกรากแขนงที่มีขนาดใหญ่เท่าขา ตัดออกมาทำยาสมุนไพรได้
- กวาวเครือดำ ลำต้นและเถาเหมือนกวาวเครือแดง แต่ใบและหัวมีขนาดเล็กกว่า มียางสีดำ ใช้ทำเป็นยา มีฤทธิ์แรงมาก
- กวาวเครือมอ ทุกส่วน ต้น เถา ใบ หัว เหมือนกับชนิดดำ แต่เนื้อในหัวและยางสีมอๆ ค่อนข้างจะหายาก เช่นเดียวกับชนิดดำ มีหัวเล็กขนาดมันเทศ
กวาวเครือขาว (Pueraria mirifica) หรือ White Kwao Krua กวาวเครือขาว
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pueraria candollei Graham ex Benth. var mirifica (Airy Shaw et Suvat.) Niyomdham. หรือ Pueraria candollei Graham ex Benth. var candollei จัดเป็นพืชในวงศ์ถั่ว (Leguminosae (Fabaceae) Papilionoideae) เช่นเดียวกับ กวาวเครือแดง (Butea superba Roxb.)
ชื่ออื่น(ของพืชที่ให้เครื่องยา) กวาวเครือ ทองเครือ ทองกวาว ตานจอมทอง จอมทอง กวาวหัว
ชื่อวิทยาศาสตร์ Pueraria candollei Graham ex Benth. var mirifica (Airy Shaw et Suvat.) Niyomdham., Pueraria candollei Graham ex Benth. var candollei
ชื่อวงศ์ Leguminosae (Fabaceae)-Papilionoideae
กวาวเครือขาวเป็นสมุนไพรไทยที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับเพศหญิง แต่สำหรับเพศชายก็สามารถรับประทานได้เช่นกัน เพราะมีสรรพคุณช่วยทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย และเป็นยาอายุวัฒนะ ซึ่งตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข จัดให้กราวเครือขาวเป็นตัวยาชนิดหนึ่งในตำรับยาบำรุงร่างกาย และได้รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนเป็นตำรับยาแผนโบราณและยาแผนโบราณสามัญประจำบ้าน ซึ่งสามารถรับประทานได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์
สรรพคุณกวาวเครือขาวสรรพคุณกวาวเครือขาว มีสารออกฤทธิ์สำคัญที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนของเพศหญิง (Phytoestrogens) ซึ่งได้แก่ miroestrol และ deoxymiroestrol ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นให้ลักษณะความเป็นผู้หญิงออกมา เช่น หน้าอกขยายใหญ่ขึ้นในระยะเวลา 2-3 เดือน ประมาณ 0.5 1 นิ้ว ซึ่งกระบวน การเหล่านี้จะทำให้หน้าอกขยายขึ้นเรื่อยๆ จนถึงระดับหนึ่งเมื่อหน้าอกกระชับแล้วกระบวนการเหล่านี้ก็จะสิ้นสุดลง และสาร miroestrol ยังช่วยให้เพิ่มความเปล่งปลั่งสดใสให้ผิวพรรณได้อีกด้วย ซึ่งการออกฤทธิ์ดังกล่าวนี้หากใช้ในปริมาณน้อย จะช่วยออกฤทธิ์กระตุ้นในเชิงบวก แต่ถ้าใช้ในปริมาณมากจะออกฤทธิ์ในการยับยั้งเสียเอง โดยฤทธิ์ของกราวเครือขาวนั้นไม่ถาวร ถ้าหยุดรับประทานฤทธิ์ของกราวเครือก็จะค่อยๆหมดไปภายใน 2-3 สัปดาห์ (และการเก็บรักษาที่นานเกินไป 5-10 ปี จะทำให้ฤทธิ์ก็จะค่อยๆเสื่อมลงเช่นกัน)
กราวเครือขาว ในปัจจุบันมีจำหน่ายในรูปของแคปซูลที่เป็นกระปุกหลากหลายยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัยของผู้ที่จะรับประทาน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แนะนำ ไม่ควรรับประทานผงกราวเครือขาวเกินวันละ 1-2 mg./ต่อน้ำหนักตัว 1 kg. (หรือรับประทานประมาณวันละ 50-100 mg.) ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากำหนดขนาดในการรับประทานว่าห้ามเกินวันละ 100 mg. สำหรับวิธีการรับประทานแบบแคปซูลส่วนมากจะแบ่งรับประทานเป็นวันละ 2 เวลา เช้า-เย็น ก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง (หรือตอนตื่นกับก่อนนอน) และเว้นช่วงที่มีประจำเดือนหรือต้องรอให้ประจำเดือนหมดก่อนแล้วค่อยเริ่มรับประทาน สำหรับผู้ที่รับประทานยาคุมแบบ 21 เม็ดก็ให้เว้นในช่วง 7 วันที่หยุดกิน แต่ถ้าเป็นแบบ 28 เม็ดก็ให้เว้นการรับประทานในช่วงที่กินเม็ดแป้ง 7 เม็ด (แต่อีกตำราบอกว่าไม่ควรรับประทานกราวเครือร่วมกับยาคุมกำเนิด เพราะอาจจะทำให้เกิดผลที่ขัดแย้งกัน ควรเลือกรับประทานอย่างใดอย่างหนึ่ง) หรืออีกวิธีใช้ผงกราวเครือขาวผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกขนาดเท่าเมล็ดพริกไทยรับประทานวันละ 1 เมล็ด
กวาวเครือขาวผลข้างเคียง
กวาวเครือขาวตำรายาแผนโบราณระบุไว้ว่า คนหนุ่มสาวห้ามรับประทาน (ในที่นี้คงจะหมายถึงผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี)
ห้ามใช้ในหญิงวัยเจริญพันธุ์ เพราะตัวยาอาจจะไปรบกวนการทำงานของฮอร์โมนเพศและระบบประจำเดือนได้ หรือควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
- เด็กหญิงวัยก่อนมีประจำเดือน ไม่ควรรับประทาน
- สตรีที่อยู่ในระหว่างให้นมบุตร ไม่ควรรับประทาน
- ผู้ที่เป็นโรคมะเร็ง เนื้องอก หรือเป็นโรคต่อมไทรอยด์โต ไม่ควรรับประทาน
- ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับทรวงอก มดลูกและรังไข่ เช่น เป็นซีสต์ พังผืด เนื้องอกเป็นก้อน มะเร็ง ก็ไม่ควรรับประทาน
- ผู้ที่ดื่มสุรา และมีประวัติเป็นโรคตับเป็นพาหนะไวรัสตับอักเสบบีที่มีโอกาสเป็นมะเร็งตับสูง ก็ไม่ควรรับประทาน
- กวาวเครือขาวอันตรายไม่ควรรับประทานในปริมาณมากและต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานหรือติดต่อกันนานกว่า 2 ปี
- ห้ามรับประทานเกินขนาดที่แนะนำ (ไม่เกินวันละ 100 mg.)
- ห้ามรับประทานของหมักดองเปรี้ยว ดองเค็ม (ตำราแผนโบราณ)
- ควรอาบน้ำวันละ 3 ครั้ง (ตำราแผนโบราณ)
- ห้ามไม่ให้ตากอากาศเย็นเกินไป (ตำราแผนโบราณ)
- ฮอร์โมนเหล่านี้หากได้รับมากจนเกินไปอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้
- โทษของกวาวเครือขาว อาจจะทำให้เยื่อหุ้มอัณฑะหนาตัวและอาจเป็นมะเร็งอัณฑะในเพศชายได้ หากรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน
- อันตรายจากกวาวเครือขาวในเพศหญิงอาจมีผลทำให้เต้านมแข็งเป็นก้อนหรืออาจทำให้เกิดเนื้องอกจนเป็นมะเร็งเต้านมได้ หากรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน
- กราวเครือนั้นมีพิษทำให้เมาเบื่อตัวเองการรับประทานมาเกินไปอาจจะทำให้เกิดอาการท้องอืดได้ ด้วยเหตุนี้ควรรับประทานสมุนไพรที่มีส่วนช่วยป้องกันหรือรักษาอาการท้องอืดร่วมด้วย เช่น พริกไทย เป็นต้น
- หากรับประทานกราวเครือขาวแล้วอาจจะทำให้ประจำเดือนมามากกว่าปกติ จนบางท่านรู้สึกกังวล แต่การที่ประจำเดือนมามากนี้ก็ถือเป็นผลดีต่อร่างกายในการขับของเสียทำให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น จึงไม่ต้องเป็นกังวล
- สามารถใช้ครีมบำรุงทรวงอก (Breast Cream) ร่วมกับกราวเครือขาวได้ในการเพิ่มขนาดทรวงอกได้
- กวาวเครือขาว ผลข้างเคียงและอาการอื่นๆที่พบได้ทั่วไป เช่น เจ็บคัดเต้านม ปวดศีรษะ คลื่นไส้ มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด เป็นต้น
สรรพคุณของกวาวเครือขาว
- ประโยชน์ของกวาวเครือขาวช่วยบำรุงผิวพรรณให้เต่งตึง เปล่งปลั่งสดใสนุ่มนวลเรียบเนียน
- ประโยชน์ของกวาวเครือขาวเป็นสมุนไพรอายุวัฒนะ มีส่วนช่วยในการชะลอวัย
- ประโยชน์กวาวเครือขาวช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย และลดเลือนริ้วรอยบริเวณผิวหน้าและผิวกาย
- กวาวเครือขาวสรรพคุณช่วยขยายทรวงอกให้มีขนาดใหญ่ขึ้น แก้ปัญหาทรวงอกหย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึงเหมือนเดิม
- ช่วยเพิ่มปริมาณเส้นผม และช่วยให้เส้นผมดกดำ
- ช่วยให้ผมขาวกลับคืนสภาพปกติ ลดการหลุดล่วงของเส้นผม
- ฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นมีส่วนช่วยลดความมันบนใบหน้า
- มีส่วนในการช่วยลดสิว ฝ้า กระ
- ชวยสมานริ้วรอยบนใบหน้าจากความหยาบกร้าน
- ช่วยเพิ่มความกระชุ่มกระชวยให้กับร่างกาย
- ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย
- สรรพคุณของกวาวเครือขาวช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย เมื่อยล้าของร่างกาย
- ช่วยให้นอนหลับสบาย
- บำรุงสมอง ช่วยให้ความจำดีขึ้น
- สำหรับผู้ที่ผอมแห้ง จะช่วยทำให้ดูอ้วนท้วมสมบูรณ์ขึ้น
- ช่วยให้รับประทานให้มีรสชาติอร่อยขึ้น
- ช่วยบำรุงโลหิต ทำให้มีพลัง
- ช่วยป้องกันโรคตาฟาง และต้อกระจก
- ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้
- ช่วยบำรุงอวัยวะสืบพันธุ์ให้เจริญ
- ใช้เป็นฮอร์โมนทดแทนในเพศหญิงได้ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
- ช่วยรักษาอาการหมดประจำเดือนในวัยก่อนและหลังหมดประจำเดือน ที่มีอาการบกพร่องของฮอร์โมนเอสโตรเจน
- ช่วยทำให้ช่องคลอดของหญิงวัยทองไม่แห้งด้วย
- มีช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งเต้านม และมะเร็งมดลูก
- แก้อาการปวดประจำเดือน ปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ
- ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
- ช่วยให้การเคลื่อนไหวการเดินเหินคล่องแคล่วขึ้น
- มีช่วยลดและรักษาอาการ vasomotor (อาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกกลางคืน)
- สำหรับผู้ที่เคยมีบุตรแล้วจะช่วยทำให้ช่องคลอดกระชับขึ้น และช่วยลดปัญหาหน้าท้อง สะโพก ต้นขาลายได้
- สำหรับผู้ที่มีบุตรยาก เชื่อว่าจะทำให้มีบุตรง่ายขึ้น
มีการศึกษาทดลองในสัตว์ต่างๆ (หนู สุนัข แมว) พบว่ากราวเครือขาวช่วยคุมกำเนิดได้ทั้ง 2 เพศ คือ ทำให้สัตว์เพศผู้ไม่อยากผสมพันธุ์ ส่วนเพศเมียช่องคลอดและมดลูกจะขยายใหญ่ทำให้การตกไข่ถูกยับยั้ง
ในการรับประทานไม่ควรหวังผลในการเพิ่มทรวงอก หรือบำรุงสมรรถภาพทางเพศ เพราะยังไม่มีข้อมูลที่ยืนยันทางด้านความปลอดภัยและคุณสมบัติอย่างชัดเจน แต่ควรใช้เพื่อบำรุงร่างกาย แก้ปัญหาประจำเดือนซะมากกว่า
นำมาผลิตเป็นกวาวเครือขาวแคปซูล และกวาวเครือขาวแบบครีมเพื่อช่วยขยายหน้าอก
แหล่งอ้างอิง : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (www.thaicrudedrug.com)