กุหลาบหินเป็นไม้ประดับกระถางที่ปลูกง่าย ปลูกได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร แต่เจริญเติบโตได้ดีเมื่ออยู่กลางแจ้งเพราะเป็นพืชที่ชอบแดด จุดเด่นของกุหลาบหินอยู่ที่ดอกมีสีสันจัดจ้านสวยงาม กุหลาบหินนี้มีอายุอยู่ได้นานหลายปี มีถิ่นกำเนิดในอัฟริกาและเอเชีย เป็นไม้ดอกทีปลูกง่าย เลี้ยงง่าย ดอกออกเป็นช่อสีสวย
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Kalanchoe blossfeldiana
วงศ์ : Crassulaceae
ชื่อสามัญ : kalanchoe
ชื่ออื่น ๆ : กุหลาบหิน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
กุหลาบหินที่ใช้ปลูกทุกวันนี้มีพุ่มต้นสวยกระทัดรัด สูงไม่เกิน 1 ฟุต ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ ยาวประมาณ 3 นิ้ว กว้าง 1.5 นิ้ว ขอบใบหยักโค้งเล็กน้อยและอวบน้ำ แต่เดิมมีช่อดอกสีเดียว คือ สีแดงสดสะดุดตา แต่สภาพต้นหลังจากบานดอกในชุดแรกแล้วจะไม่สวยเหมือนเดิมอีกทั้งบานดอกปีละครั้งเดียว
กุหลาบหินจะเริ่มออกดอกในเดือนมกราคม โดยดอกจะบานพร้อมกันหมดทั้งต้นทีละหลาย ๆ ช่อ บานติดต่อกันไปจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ หรือ ต้นมีนาคม เมื่อดอกเหี่ยวเฉา และสิ้นสภาพแล้วควรจะตัดช่อดอกทิ้งไป และริดใบออกจะต้นทีละใบให้ก้านใบติดอยู่ประมาณ 0.5-1 นิ้ว แล้วสามารถนำไปปลูกใหม่ได้
การขยายพันธุ์
การเพาะเมล็ด เมล็ดกุหลาบหินมีขนาดเล็กมาก เมล็ด 1 ออนซ์ มีถึง 1,000,000 – 2,500,000 เมล็ด ดังนั้นการเพาะเมล็ดจึงต้องทำด้วยความระมัดระวังและพิถีพิพันเป็นอย่างยิ่ง การเพาะควรใช้วิธีหว่านลงบนวัสดุที่ใช้เพาะโดยไม่ต้องกลบ เมล็ดจะแทรกเข้าไปในช่องว่างได้เอง โดยที่กุหลาบหินจะงอกภายใน 5-7 วัน
การปักชำใบ วิธีนี้ทำได้ง่ายมากแต่จะใช้เวลานานกว่าวิธีเพาะเมล็ด คือ หลังจากปักชำแล้วจะออกรากทีโคนก้านใบภายใน 2 สัปดาห์ และจะออกต้นใหม่ภายใน 2 เดือน
พันธุ์ที่ใช้ปลูก
การปลูกและการดูแลรักษา
ดินทีใช้ปลูกควรมีการระบายน้ำดี อย่างไรก็ตามกุหลาบหินไม่ต้องพิถีพิถันเรื่องดินปลูกมากนัก
ควรวางไว้นอกชายคาใต้ร่มเงาต้นไม่ใหญ่เพื่อที่จะรับน้ำฝนในช่วงฤดูฝน โดยที่ผู้ปลูกไม่จำเป็นต้องรดน้ำเลย นอกจากฝนจะทิ้งช่วงเป็นระยะเวลานาน ๆ เท่านั้น
ถ้าจะปลูกควรปลูกประมาณเดือนกันยายน
ถ้าต้องการให้กุหลาบหินดอกบานนอกฤดูก็อาจทำได้ คือ หลังจากต้นสมบูรณ์เต็มที่แล้วเริ่มกางมุ้ง โดยใช้ผ้าซาติน สีดำคลุมในลักษณะกางมุ้ง เป็นเวลาติดต่อกัน 1 เดือน ดอกจะบานหลังจากวันเริ่มกางมุ้งประมาณ 100 วัน
ที่มา
ภาควิชาพืชศาสตร์ คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์