ขิงแดง ไม้ประดับดอกสีแดงสดบานนาน

ขิงแดง เป็นพืชที่มีการปลูกประดับบ้านเรือนมานานแล้ว มีการดูแลรักษาง่าย สามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพดินทั่วไป ขยายพันธุ์ได้ด้วยหน่อ และให้ดอกตลอดปี ขิงแดงมีช่อดอกที่สวยงาม
สามารถบานอยู่บนต้นได้นาน และมีรูปทรงของดอกที่แปลกกว่าไม้ดอกชนิดอื่นๆ ประกอบกับเมื่อนำมาปักแจกัน พบว่า มีอายุการปักแจกันที่เหมาะสม ทําให้เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ดังจะเห็นได้จาก
วิวัฒนาการจากการปลูกเป็นไม้ประดับบริเวณบ้าน มาเป็นการปลูกเพื่อตัดดอกเป็นการค้ามากขึ้น จากข้อมูลการซื้อขายที่ปากคลองตลาดพบว่ามีการซื้อขายขิงแดงเป็นปริมาณ 2,000 ดอก/สัปดาห์คิดเป็นมูลค่า 10,000 บาท/สัปดาห์และยังพบว่ามีการส่งออกบ้างแหล่งพันธุ์ที่ผลิตขิงแดง ปัจจุบันจะพบในจังหวัดปริมณฑล ได้แก่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี อ. กระทุ่มแบน อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร อ.สามพราน จ.นครปฐม และอ.ท่าม่วง และกิ่ง อ. ด่านมะขามเตี้ย จ. กาญจนบุรี

kingdangbai
ขิงแดง (Red ginger) เป็นไม้ดอกไม้ประดับที่ให้ดอกสีแดงสดสวยงาม และออกดอกบานนาน เป็นพันธุ์ไม้ที่เติบโตได้ดีในทุกสภาพดิน และมีความคงทนต่อสภาพอากาศ ปลูกได้ดีในที่โล่ง และแดดส่องถึง มักพบปลูกมากในสวนหย่อมหรือสวนในบ้านเรือน ในบางท้องถิ่นมีการปลูกมากเพื่อตัดดอกส่งจำหน่าย ซึ่งมีทั้งตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศ สำหรับตลาดต่างประเทศที่มีการส่งจำหน่าย ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรต บาห์เรน ซาอุดิอาระเบีย เป็นต้น

kingdangdok

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Alpinia purpurata (Vieill.) K. Schum.
ชื่อพ้อง : Alpinia grandis Schum.
ชื่อสามัญ : ขิงแดง, Red ginger
วงศ์ : Zingiberaceae
ชื่ออื่น : ขิงแกลง , ขิงแดง , ขิงเผือก , สะเอ
ถิ่นกำเนิด : ประเทศนิวคาลีโดเนีย, หมู่เกาะโซโลมอน,ประเทศวานาวาตู และ พบตั้งแต่ระดับนํ้ าทะเล จนถึง 650 เมตร

ลักษณะทางพฤษศาสตร์

  • ต้นขิงแดงเป็นพืชวงศ์เดียวกับขิงข่า ซึ่งมีลำต้นใต้ดินเรียกว่าเหง้า (rhizome) มีขนาดสั้น แตกสาขาทอดขนานไปกับผิวดิน และเป็นที่สะสมอาหาร เหง้ามีสีแดง เส้นผ่าศูนย์กลาง 1-1.5 ซ.ม. ส่วนลำต้นเหนือดินเป็นกาบใบที่โอบซ้อนกันแน่น เช่นเดียวกับพวกกล้วยส่วนนี้ คือ ลำต้นเทียม (pseudostem)ลำต้นเหนือดินสูง 1-2 เมตรหากสมบูรณ์มากหรือขึ้นอยู่ในธรรมชาติ อาจสูงถึง 5 เมตร ขึ้นอัดแน่นเป็นกอใหญ่
  • ใบ เป็นรูปรีบริเวณกลางใบกว้าง แล้วค่อยๆ เรียวไปหาปลายใบและฐานใบไม่มีก้านใบ ผิวใบเกลี้ยงทั้งด้านบนและด้านล่างขนาดยาว 20-30 ซม. และกว้าง 5-8 ซม. ปลายใบแหลม ยาว ฐานใบเรียวลาดเข้าหาก้านใบ เห็นเส้นกลางใบ ปรากฎชัดทางด้านล่างของใบ
  • ดอก ช่อดอกจะออกที่ยอดช่อดอกยาว ประมาณ 30 ซม. อาจยาวได้ถึง 90 ซม. ประกอบด้วย กลีบประดับเรียงซ้อนกันอยู่ กลีบประดับมีสีแดงสด รูปไข่ ปลายแหลม ขนาดยาว 3-4 ซม. และกว้าง 1.5-2.5 ซม. ดอกแท้เป็นรูปกรวยสีขาวขนาดเล็ก อยู่ภายในกลีบประดับไม่ค่อยเห็นโผล่ออกมาเหนือกลีบประดับ ดอกแท้มักเหี่ยวแห้งไปในเวลาอันรวดเร็ว คงเหลือ แต่ริ้วประดับซึ่งคงมีสีสดอยู่เป็นเวลานานทำให้ขิงแดงมีช่อดอกที่สวยงาม ผล ผลของขิงแดง เป็นชนิดแคบซูล ผิวสีแดง ขนาดยาวประมาณ 3 ซม. เมล็ด มีสีดำความยาวประมาณ 3 มม. และมีเปลือกหุ้มเมล็ดแข็ง

kingdangsuan kingdangpoom kingdangs

สรรพคุณของ ขิงแดง
เหง้าแก่ทั้งสดและแห้ง ตำรายาไทยใช้เป็นยาขับลม ช่วยให้เจริญอาหาร แก้อาเจียน แก้ไอ ขับเสมหะและขับเหงื่อ โดยใช้เหง้าสดขนาดนิ้วหัวแม่มือต้มกับน้ำ ผงขิงแห้ง ชงน้ำดื่ม จากการทดลองกับอาสาสมัคร 36 คน พบว่าผงขิง ป้องกันการเมารถ เมาเรือ ได้ดีกว่ายาแผนปัจจุบัน (Dimenhydrinate) ในเหง้ามีน้ำมันหอมระเหย ประกอบด้วย Menthol, Borneol, Fenchone, 6-Shogaol และ 6-Gingerol Menthol มีฤทธิ์ขับลม Borneol, Fenchone และ 6-Gingerol มีฤทธิ์ขับน้ำดี ช่วยย่อยไขมัน นอกจากนี้พบว่า สารที่มีรสเผ็ด ได้แก่ 6-Shogaol และ 6-Gingrol ลดการบีบตัวของลำไส้ จึงช่วยบรรเทาอาการปวดท้องเกร็ง

พันธุ์

  1. Red ginger หรือขิงแดงที่มีปลูกอยู่ทั่วไป
  2. Eileen Mcdonald หรือ ขิงชมพู (Pink ginger) มีกลีบประดับสีชมพู ลักษณะช่อดอกคล้ายขิงแดง
  3. Jungle King มีกลีบประดับสีแดง ช่อดอกจะมีลักษณะมน อ้วนกว่าขิงแดง
  4. Jungle Queen มีกลีบประดับสีชมพูจาง ลักษณะช่อดอกคล้าย Jungle King
  5. Tahitian มีกลีบประดับสีแดง และมักจะมีช่อดอกแขนงจำนวนมาก แตกจากช่อดอกหลัก ทําให้มี ลักษณะเป็นช่อใหญ่
  6. Kimi เป็นพันธุ์ที่เกิดจากการเพาะเมล็ดของขิงชมพู กลีบประดับมีสีชมพูเหลือบแดง สวยงามมากลักษณะช่อดอกคล้ายขิงแดง

การขยายพันธุ์

  1. ใช้เมล็ด พบว่าขิงแดงติดเมล็ดได้ยากในประเทศไทยดังนั้นผู้ปลูกเลี้ยง จะต้องหมั่นสังเกตดอกแห้งถ้าต้องการเก็บเมล็ดพันธุ์ ควรเพาะเมล็ดในวัสดุเพาะที่คุณสมบัติเป็นกรดเล็กน้อยระบายนํ้ าดี และกลบด้วยวัสดุเพาะบาง ๆ เวลาการงอกของเมล็ดไม่แน่น แต่งอกเร็วเมื่อเปรียบเทียบกับเมล็ดธรรมรักษา
  2. ใช้ตะเกียง (Aerial offshoots) ช่อดอกของขิงแดงเมื่อแก่จะสร้างตะเกียง หรือหน่อเล็ก ๆ ที่โคนกลีบประดับ สามารถแยกตะเกียงออกจากช่อดอกและปลูกได้ทันที แต่จะให้ผลดีถ้าตะเกียงมาชำให้เกิดรากก่อน โดยจะมีการสร้างราก 4-8 สัปดาห์หลังการชำ
  3. การแยกหน่อ (Division) กิ่งหน่อใหม่จะเกิดที่ส่วนบนของเหง้าของต้นแม่ การแยกหน่อมักทำโดยใช้หน่อที่ไม่แก่เกินไปนัก ให้มีส่วนของเหง้ายาวประมาณ 5 นิ้ว และส่วนของต้นเทียมยาว 8-12นิ้ว แล้วนำมาปักชำในกระบะชำ หรือถุงพลาสติก

ปัจจัยการผลิต
แสง ขิงแดง เจริญเติบโตและให้ดอกที่มีคุณภาพดีในที่มีร่มเงา ดังนั้น ในการปลูกขิงแดงจำเป็นจะต้องปลูกภายใต้โรงเรือนพรางแสงด้วยซาแรน ซึ่งแสงที่เหมาะสมในการปลูกขิงแดง จะอยู่ประมาณ50-70 เปอร์เซ็นต์ หรืออาจปลูกเป็นพืชแซมในสวนไม้ยืนต้นก็ได้

kingdangtung

การเตรียมแปลงปลูก

  1. การเตรียมแปลง มี 2 แบบ คือ
    พื้นที่ดอน ทำแปลงแบบทำร่องให้ลึก ประมาณ 20 เซนติเมตร กว้าง 2-3 ม. ความยาวตามขนาดของพื้นที่ แต่ละแปลงห่างกัน 1.5 เมตร
    พื้นที่ลุ่ม การทำแปลงโดยการทำคันร่องขุดคูนํ้ าลึก 1 เมตร กว้าง 1 เมตร ทําแปลงปลูกกว้าง1.5 เมตร ความยาวตามพื้นที่ และทำคันขอบแปลงโดยรอบแปลงสูง 20 เซนติเมตร ทําการเตรียมแปลงปลูกโดยไถพรวนตากดิน 5-7 วัน ใส่ปุ๋ยคอกผสมแกลบดิน ในแปลงปลูกเพื่อเพิ่มอินทรีย์วัตถุให้กับดิน และใช้ปูนขาวอัตรา 100 กิโล กรัมต่อไร่ เพื่อปรับปรุงดิน
  2. ระยะปลูก ระยะปลูกที่เหมาะสม 1 x 1 ม. ขิงแดงโดยใช้หน่อพันธุ์ปลูก หลุมละ 1 ต้นหรือใช้หน่อที่ชำจนแตกกอแล้วปลูกหลุมละกอ จากนั้นกลบดินให้แน่น และใช้หลักปัก ผูกติดกับต้น เพื่อไม่ให้ต้นล้ม แล้วรดน้ำให้ชุ่ม

การปฏิบัติดูแลรักษา
การให้ปุ๋ย การให้ปุ๋ยไม่จำเป็นต้องให้ปุ๋ยเคมีมาก เนื่องจากการตอบแทนในการให้ผลผลิตต่อการให้ปุ๋ยเคมีได้น้อย แต่อย่างไรก็ตามยังมีความจำเป็นต้องให้ปุ๋ยเคมีแก่ขิงแดง โดยให้ปุ๋ยสูตรที่มีอัตราส่วน 1:1:1 ปีละ 2 ครั้ง ๆ ละ 50 กก./ไร่ ให้ร่วมกับปุ๋ยคอกจะทำให้ขิงแดงให้ดอกดกและมีคุณภาพดอกดีขึ้น

kingdangplang

การให้น้ำ
ขิงแดงเป็นพืชที่ต้องการความชื้นในดินสูง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้นํ้ าอย่างเพียงพอ วิธีการให้นํ้ าอาจให้นํ้ าแบบท่วมแปลงปลูกสำหรับแปลงปลูกที่เป็นที่ดอนโดยให้ 3-5 วันต่อครั้ง ที่ลุ่มให้นํ้ าโดยการใช้เรือรด 1-2 วัน/ครั้ง หรือโดยสังเกตจากความชื้นดิน
การให้น้ำในช่วงแรกที่ปลูก จะให้วันเว้นวัน พอ 1-2 อาทิตย์ ผ่านไป การให้น้ำจะมีระยะวันให้ที่ห่างมากขึ้น โดยจะรดน้ำวันเว้น 3 วัน ทำการแต่งกิ่งและพรวนดินรอบๆ กอ ทุกๆ 7 วัน
ใส่ปุ๋ยชีวภาพที่ผลิตจากเศษอ้อย ซึ่งจะมี 2 สูตร ด้วยกันคือ สูตรที่ 1 จะใส่เพื่อเร่งการแตกกอและการเจริญเติบโตของลำต้น ซึ่งใส่ในช่วงที่พืชเริ่มปลูกจนถึง 4 เดือน สูตรที่ 2 จะใส่เพื่อเร่งการออกดอก ซึ่งใส่ในช่วง 4 เดือนหลัง ก่อนการนำไปขาย โดยแต่ละสูตรจะมีระยะในการใส่ห่างกัน 2 เดือน
หลังจากที่ดูแลและใส่ปุ๋ยจนครบ 7 เดือน ขิงแดงที่คุณสมศักดิ์ปลูกก็จะถูกจำหน่ายให้กับพ่อค้าในรูปแบบขายยกกอ ซึ่งขนาดและรูปทรงของกอที่มีความเหมาะสม จะอยู่ที่ 20 หน่อ ต่อกอ ความสูง 70-150 เซนติเมตร ดอก 3-5 ดอก ราคากอละ 100 บาท

kingdangnamkingdangko

การป้องกันกำจัดวัชพืช
วัชพืชจะรบกวนมากในช่วงแรกๆ เท่านั้นหลังจากอายุ 1 ปี ไปแล้วขิงแดงจะเจริญโตเต็มที่ ทําให้วัชพืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้

การตัดแต่ง
ส่วนใหญ่จะมีการตัดแต่งต้นพร้อมกับการตัดดอก โดยการตัดดอกชิดโคนต้นเหนือดิน ประมาณ2-3 นิ้ว

โรคและแมลง
ไม่พบโรคที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับขิงแดง แต่อาจพบแมลงที่เข้าทำลายดังนี้

  1. เพลี้ยแป้ง เกิดจากการปลูกขิงแดงใกล้กับแปลงปลูกกล้วยหรือพืชอื่นที่เป็นพืชอาศัยของเพลี้ยแป้ง เพลี้ยจะเข้าทำลายดอก เกษตรกรควรใช้วิธีการตัดดอกที่ถูกทำลายทิ้ง หรือสารป้องกันกำจัดแมลง
  2. หนอนเจาะลำต้น หนอนเจาะลำต้นจะเข้าทำลายโดยกินไส้ของต้นขิงแดงที่ยังไม่ให้ดอกทำให้ยอดแห้งตายเกษตรกรควรตัดต้นที่ถูกทำลายมาผ่าเอาหนอนที่อยู่ภายในลำต้นมาทำลาย และใช้สารป้องกันกำจัดแมลงฉีดพ่น

การเก็บเกี่ยว
โดยตัดดอกที่บานแล้วประมาณ 70-80% ของช่อดอก โดยใช้มีดคม ๆ ตัดโคนต้น เหนือดินประมาณ 2-3 นิ้ว

การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว
เมื่อตัดดอกขิงแดงแล้วให้นำดอกแช่ลงในอ่างนํ้ าที่มีนํ้ าสะอาดและทำความสะอาด ตัดใบให้เหลือ 3-4 ใบ ตัดก้านให้ยาว 1 ม. สําหรับดอกขนาดใหญ่ และดอกขนาดกลาง ส่วนดอกเล็กมักตัดก้านให้ยาว 50-70 ซม. แล้วนำมามัดเป็นกำๆ ละ 10 ดอก สําหรับการคัดขนาดดอกนั้นจะคัดตามขนาด ดังนี้

  • เกรด A ช่อดอกยาว 6 นิ้วขึ้นไป ก้านช่อดอกยาว 1 เมตร
  • เกรด B ช่อดอกยาว 4-5 นิ้ว ก้านช่อดอกยาว 1 เมตร
  • เกรด C ช่อดอกยาว 2-3 นิ้ว ก้านช่อดอกยาว 0.5-0.7 เมตร

อายุการปักแจกัน
ได้มีการศึกษาค้นพบว่าความยาวของต้นที่ติดกับช่อดอกนั้นมีผลต่ออายุการปักแจกันดังนี้

  • ก้านยาว 50 ซม.มีอายุการปักแจกัน 2 สัปดาห์
  • ก้านยาว 100 ซม.มีอายุการปักแจกัน 3-5 สัปดาห์
  • ก้านยาว 150 ซม.มีอายุการปักแจกัน 4-6 สัปดาห์

และ Jjia (1988) ยังพบว่าการใช้กรด ซิตริก (Citric acid: 5 UM) สามารถยืดอายุการปักแจกันดอกขิงแดง (ก้านยาว 40 ซม.) จาก 4 วัน เมื่อแช่ในนํ้ ากลั่นเป็น 13.5 วัน เมื่อผสมกรดซิตริก ณ อุณหภูมิ 24-24 องศาเซลเซียส

kingdangdoks

การขนส่ง
จะมีการขนส่งดอกขิงแดงโดยแช่ก้านช่อดอกขิงแดงในถังนํ้ า ที่วางไว้หลังรถบรรทุกเล็กส่งพ่อค้าหรือมีพ่อค้ามารับซื้อถึงสวนต้นทุนการผลิต ในการผลิตขิงแดง 1 ไร่ สามารถประมาณการต้นทุนการผลิตได้ดังนี้

ผลผลิตต่อไร่
สามารถตัดดอกขิงแดงโดยแบ่งตามขนาดดอกได้ดังนี้ คือ ดอกเล็กจำนวน 67,200 ดอก/ปี ดอกใหญ่และดอกกลางจำนวน 48,000 ดอก/ปี

kingdangton

การจำหน่ายผลผลิต
ส่วนใหญ่จะมีจำหน่ายขิงแดงแก่พ่อค้าปากคลองตลาดโดยแบ่งตามขนาด ดังนี้
ดอกเล็กจำนวน 67,200 ดอก/ปี ดอกใหญ่และดอกกลางจำนวน 48,000 ดอก/ปี

  • ดอกเล็ก2-3 บาท
  • ดอกกลาง4-5 บาท
  • ดอกใหญ่ 8-10 บาท

ปัจจุบันมีเกษตรกรส่งออกดอกขิงแดงบ้างแต่ไม่มากนัก เนื่องจากพื้นที่การปลูกขิงแดงยังมีน้อยผลผลิตยังไม่มากเพียงพอที่จะป้อนตลาดอย่างสมํ่ าเสมอ ส่วนการบริโภคภายในประเทศของขิงแดงนั้นมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังจะเห็นได้จากการที่ร้านดอกไม้ และโรงเรียนสอนจัดดอกไม้ มีการใช้ดอกขิงแดงมากขึ้น แต่เกษตรกรยังขาดข้อมูลด้านการตลาด ส่วนผู้ซื้อมักจะไม่ทราบแหล่งผลิต ทําให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคไม่พบกันทั้งที่ความต้องการใช้ขิงแดงมีเพิ่มขึ้น ทําให้เกษตรกรไม่กล้าตัดสินใจในการขยายพื้นที่การผลิตมากนัก เนื่องจากขิงแดงยังมีพันธุ์อื่นๆ ที่มีรูปร่างลักษณะ และสีแตกต่างกันบ้างเกษตรกร อาจอาศัยความหลากหลายของพันธุ์นี้เปิดตลาดขิงแดงเพิ่มขึ้นได้อีกด้วยในอนาคต

จัดทำเอกสารอิเล็กทรอนิกส์โดย : สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ป้ายคำ :

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับหมวด ไม้ดอกไม้ประดับ

แสดงความคิดเห็น