ขี้กาขาว เป็นพรรณไม้เถาเลื้อยตามพื้นดิน เถาจะกลมและโตขนาดเท่าก้านไม้ขีดหรือโตกว่าเล็กน้อย ตามข้อของเถาจะมีมือเกาะ เถาและใบขี้กาขาว จะมีขนหนากลมโต ดูผิวเผินแล้วจะคล้ายฟักเขียว แต่เถาและใบจะเล็กว่าไม่กลวง ดอกขี้กาขาว จะโตและมีสีขาวล้วน ผลขี้กาขาว มีลักษณะกลมและโต มีผลขนาดเท่าผลมะนาว เมื่อผลสุกจะมีสีแดง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Trichosanthes cordata Roxb.
ชื่อวงศ์ : CUCURBITACEAE
ชื่ออื่น ๆ : ขี้กาขาว เถาขี้กา แตงโมป่า มะกาดิน
ลักษณะ
ขี้กาเป็นไม้เถาเลื้อยพาดพันกับสิ่งยึดเกาะที่อยู่ใกล้ๆ เถา มีขนสีขาวสั้นตั้งตรงเกาะติดหนาแน่น ใบ เป็นใบเดี่ยว การเกาะติดของใบบนกิ่งแบบเวียนและมีหนวดที่โคนก้านใบ ใบรูปไข่เกือบกลม 5 เหลี่ยม ขนาดประมาณ 10 x 15 เซนติเมตร ปลายแหลม โคนเว้าเป็นติ่งหู ขอบหยักบิดเป็นคลื่น แผ่นใบผิวหยาบสากเป็นลอนตามรอยกดเป็นร่องของเส้นใบ หลังใบมีขนสั้นสีขาวจำนวนมาก ก้านใบสีเขียวอ่อนแกมเหลืองยาว มีขนชนิดเดียวกัน ดอก เป็นดอกเดี่ยวแยกเพศกัน เกิดที่ซอกใบ ดอกสีขาวกลีบดอกส่วนโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดส่วนปลายแยกเป็นกลีบ 4 – 5 กลีบ ดอกเพศเมียที่ฐานดอกมีรังไข่ทรงกลม ดอกเพศผู้ไม่มี ผล ทรงกลม ผิวเรียบ ผลอ่อนสีเขียว มีริ้วสีขาวจางๆ เมื่อแก่สีส้มแดง ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก เมล็ด ทรงกลมรีแบนมีเยื่อหุ้มเมล็ดเป็นเมือกใสสีเขียวเข้มเกือบดำ
ส่วนที่ใช้เป็นยา : เถา ใบสด
สรรพคุณขี้กาขาว
เถา ใช้ปรุงเป็นยาบำรุงถุงน้ำดี ลูกถ่ายแรงกว่าเถา บำรุงน้ำดี ล้างเสมหะ ดับพิษเสมหะและโลหิต รักษาตับปอดพิการ ใช้เถาต้มกับน้ำให้เดือดนาน ๆ ใช้เป็นยาฆ่าเลือดไร และเหาได้
ใบสด ใช้ตำสุมขม่อมเด็กเวลาเย็น รักษาอาการคัดจมูกได้ดี ใช้ปรุงเป็นยา ขี้กาขาวจะใช้นอยกว่าขี้กาแดง
ใบ รสขม ตำพอกฝี ทาแก้โรคผิวหนังอักเสบ หัว รสขม บำรุงหัวใจ แก้ม้ามย้อย ตับโต หรืออวัยวะในช่องท้องบวมโต ราก รสขม บำรุงน้ำดี แก้ไข้ ดับพิษไข้ แก้ปวดศีรษะ แก้จุกเสียด บดทาฝีฝักบัว แก้ตับโต ม้ามย้อย อวัยวะในช่องท้องบวมโต ผล รสขม บำรุงน้ำดี แก้พิษเสมหะและโลหิต ถ่ายพิษเสมหะให้ตก แก้พิษตานซาง แก้ตานขโมย ขับพยาธิ เป็นยาถ่ายอย่างแรง ใช้ควันรม แก้หืด ทั้งเถา รสขม ต้มอาบ แก้เม็ดผดผื่นคัน แก้ไข้หัว ไข้พิษ ไข้กาฬ ต้มดื่ม บำรุงน้ำดี ขับเสมหะ ดับพิษ แก้ไอเป็นเลือด
ป้ายคำ : สมุนไพร