ขี้เหล็กเทศเป็นพืชปีเดียวแล้วตาย ใบขยี้ดมดูมีกลิ่นเหม็นเขียว ฝักเป็นเส้นตรงทรงกระบอก แบนและมีขอบชัดเจน เปลือกฝักบาง ผลเมื่อแก่จะมีสีน้ำตาล ฝักหนึ่งมีเมล็ดประมาณ 40 เม็ด เมล็ดกลมรีแบน ปลายด้านหนึ่งค่อนข้างแหลม ผิวนอกเรียบแข็ง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cassia Occidentalis L.
วงศ์ Caesalpiniaceae
ชื่ออื่น ขี้เหล็กเผือก, ผักเห็ด, ลับมืนน้อย, หมากกะลิงเทศ (ภาคเหนือ), ขี้เหล็กผี, ชุมเห็ดเล็ก, พรมดาน(ภาคกลาง), ผักจี๊ด (เงี้ยว-แม่ฮ่องสอน); ม่อกังน้ำ, กิมเต่าจี้ (จีน); Coffea Senna
ลักษณะ
ขี้เหล็กเทศเป็นพืชปีเดียวตาย ต้นสูง 1-2 เมตร โคนต้นมีเนื้อไม้แข็ง แตกกิ่งก้านสาขามาก ใบประกอบออกสลับกัน ก้านใบร่วมยาว 3-5 ซม. โคนใบมีตุ่มนูนขึ้นมา 1 ตุ่ม ใบย่อย 3-5 คู่ คู่ปลายใบมีขนาดใหญ่ คู่ถัดมามีขนาดเล็กลง ใบย่อยลักษณะรี ปลายแหลม ยาว 3-6 ซม. ฐานใบเบี้ยวข้างหนึ่ง ขอบใบเรียบมีขนอ่อนนุ่ม ก้านใบย่อยสั้น ด้านหลังใบมีขนอ่อนนุ่มสั้น ๆ ขยี้ใบดมกลิ่นเหม็นเขียว หูใบเป็นเส้นแหลมหลุดร่วงง่าย ดอกออกเป็นช่อจากง่ามใบ ดอกมีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ ลักษณะกลีบรีปลายแหลม มีกลีบดอกสีเหลือง 5 กลีบ ปลายกลีบดอกมนกลม เกสรตัวผู้มี 10 อัน 3 อันที่อยู่ด้านบนจะเสื่อมไปอีก 7 อันที่อยู่รอบ ๆ จะเจริญเติบโตเต็มที่ รังไข่เป็นเส้นโค้ง มีขนสีขาวปกคลุม ก้านเกสรตัวเมียสั้นอยู่ปลายรังไข่ ฝักเป็นเส้นตรงทรงกระบอก แบนและมีขอบชัดเจนทั้ง 2 ด้าน ยาว 6-10 ซม. กว้าง 3-4 มม. มีรอยตามขวางนูนขึ้น เปลือกฝักบาง ผลแก่สำน้ำตาล ฝักหนึ่งมีเมล็ดประมาณ 40 เม็ด เมล็ดกลมรีแบน ปลายด้านหนึ่งค่อนข้างแหลม ผิวนอกเรียบแข็ง ขี้เหล็กเทศพบขึ้นเองตามที่รกร้าง ที่แห้งแล้ง ตามไหล่เขาและริมน้ำลำคลอง
ส่วนที่ใช้
ทั้งต้น ใบ ฝัก และเมล็ดใช้เป็นยา
ทั้งต้นหรือใบ ใช้สดหรือตากแห้งเก็บไว้ใช้
ฝักหรือเมล็ด เก็บเมื่อฝักแก่จัดเป็นสีน้ำตาล ตากแห้ง เด็ดก้านฝักออก หั่นเป็นท่อนเล็ก ๆ หรือแกะเปลือกเอาแต่เมล็ด ตากแห้งเก็บไว้ใช้
สรรพคุณ
ทั้งต้นหรือใบ รสขม เย็นจัด ใช้ขับของเสียออกจากไต แก้บวม ถอนพิษ แก้ไอ หอบ หนองใน ปัสสาวะเป็นเลือด ท้องผูก ปวดหัว ตาแดง แผลบวมอักเสบ แมลงสัตว์กัดต่อย งูกัด
ฝักหรือเมล็ด รสชุ่ม ขม เย็น มีพิษ ทำให้ตาสว่าง ทำให้การขับถ่ายดี แก้ระบบการย่อยไม่ดี ปวดกระเพาะอาหาร ปวดท้อง บิด ท้องผูก ตาบวมแดง วิงเวียน ปวดหัว และถอนพิษ
วิธีและปริมาณที่ใช้
ทั้งต้นหรือใบ แห้ง 6-10 กรัม(ใบสดเพิ่ม 1 เท่าตัว) ต้มน้ำหรือคั้นเอาน้ำกิน ใช้ภายนอกตำพอก
ฝักหรือเมล็ด แห้ง 6-10 กรัม ต้มน้ำกิน ใช้ภายนอกเป็นผงทา
ตำรับยา
ผลรายงานทางคลินิกของจีน
ผลทางเภสัชวิทยา
การเป็นพิษ
เมล็ดมีท็อกซาลบูมิน (Toxalbumin) เป็นสารพิษทำให้ถ่ายอย่างแรง นำไปคั่ว พิษจะหายไป
หนูเล็ก หนูใหญ่ และม้า กินเมล็ดหรือฉีด สารสกัดจากเมล็ดจะมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรง
สารสกัดด้วยเบนซินจากเมล็ด ฉีดเข้าหลอดเลือดดำจะเป็นพิษต่อตับและไต
ทั้งต้นที่มีฝักแห้งหนัก 14 กก. ให้แกะกินติดต่อกันมากกว่า 17 วัน มีผลระคายเคืองต่อระบบการย่อยอาหาร
พิษจากการกินเมล็ดหรือรากขี้เหล็กเทศ มีอาการท้องเสีย อาเจียน แก้โดยล้างกระเพาะ โดยให้กินไข่ขาวร่วมกับกรดแทนนิค (tannic acid) และถ่าน ถ้าอาการหนัก อาจให้น้ำเกลือและกลูโคส หรืออาจให้ยาอื่นแก้ตามอาการคนไข้
ป้ายคำ : สมุนไพร