ต้นขลู่ จัดเป็นพรรณไม้พุ่มขนาดเล็ก ขึ้นเป็นกอ ๆ แตกกิ่งก้านสาขามาก ลำต้นความสูงประมาณ 0.5-2 เมตร ลำต้นกลม เปลือกต้นเรียบเป็นสีน้ำตาลแดงหรือเขียว ที่ลำต้นและกิ่งก้านมีขนละเอียดขึ้นปกคลุม ใบยาวมน ขอบใบเป็นหยัก
โดยเป็นพรรณไม้ที่ชอบดินเค็มมีน้ำขังตามหนองน้ำ มักขึ้นตามที่ลุ่มชื้นแฉะ ตามริมห้วยหนอง หรือตามหาดทราย ด้านหลังป่าชายเลน
วิธีทำชาใบขลู่ แบบชาเขียว
- เตรียมต้นขลู่โดยตัดแต่งกิ่ง รอให้ขลู่ออกยอดและใบที่สมบูรณ์
- เก็บยอดใบขลู่ โดยเลือกใบยอดที่ไม่เหนียวเกินไป
- นำใบขลู่สดมาล้างทำความสะอาด แล้วผึ่งลมไว้จนแห้ง
- นำใบขลู่สดที่แห้งดีแล้วมาเด็ดก้านและสันใบออก แล้วพักไว้
- นำใบขลู่มานวด โดยจับเป็นก้อนแล้วกดลงกับพื้นถาดสแตนเลส พอให้ใบช้ำ แล้วนำใส่กระด้งไม้ไผ่หรือถาดสแตนเลส หมักพักไว้ 30-60 นาที
- นำใบขลู่ที่ผ่านการหมักมานึ่งหรือรวกด้วยน้ำเดือด ให้ใบขลู่สลดลง พักไว้จนน้ำออกมาจนหมด พอหมาดๆ
- นำใบขลู่ที่หมักใส่กระทะแล้วผัด แนะนำให้ใช้เตาฟืนหรือเตาถ่านจะทำให้ชาหอมแบบธรรมชาติ โดยยกให้ใบขลู่สัมผัสอากาศแล้วกระจายตัวและตกกลับมาบนกระทะ ช่วงแรกของการผัดเป็นการไล่น้ำออกใช้ไฟค่อนข้างแรง หลังจากน้ำระเหยจนหมดใช้ไฟกลางผัดชาจนใบขลู่เบาและเริ่มกรอบ ยกกระทะลงตักชาใส่ถาดสแตนเลส พักไว้จนเย็น
- ชาใบขลู่ที่พักไว้จะคืนตัวและคายน้ำออกมา นำชาไปอบด้วยอุณหภูมิ 40-60 องศา ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงจนชาแห้งสนิท
- คัดส่วนของชาที่ไม่ได้คุณภาพออก แล้วนำไปบรรจุในถุงหรือภาชนะปิดสนิท สามารถเก็บได้นาน 1-2 ปี
สรรพคุณของชาใบขลู่
ชาใบขลู่ ใช้ดื่มแก้โรคไต ท้องขึ้น ขับลมในกระเพาะ ลดความดัน เบาหวาน ขับปัสสาวะช่วยลดไข้ สมานแผลได้ มีสารต้านอนุมูลอิสระ และยังลดไขมันได้ดี ซึ่งใบขลู่นั้นมีเบต้าแคโรทีนเทียบเท่าฟักทอง และยังเป็นแหล่งสารอาหารทั้งวิตตามินเอ ซี และแคลเซียม