ต้นอ่อนทานตะวันเป็นแหล่งไขมันชนิดที่ดีแก่ร่างกาย ใยอาหารที่มีประโยชน์ต่อระบบขับถ่าย เป็นแหล่งโปรตีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม และจากข้อมูลการวิจัยของ Medical Center, University of Maryland สหรัฐ เมื่อปี 2553 ระบุว่า ต้นอ่อนทานตะวัน (Sunflower Sprouts) มีกรด Linoleic ในปริมาณมาก ช่วยในการบำรุงสมองและกระดูกให้แข็งแรง ทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินบี วิตามินอี และโฟเลต ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ป้องกันโรคหัวใจและมะเร็ง และช่วยให้ระบบขับถ่ายดีด้วย
ต้นอ่อนทานตะวันมีวิตามิน B1, B6 โอเมก้า 3, 6, 9 ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ บำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และยังมีธาตุเหล็กสูง ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ อีกด้วย
ต้นอ่อนทานตะวันมีโปรตีนมากกว่าผักกาดเขียวถึง 2 เท่า วิตามิน A, B2, E, D, K และยังมีวิตามิน A สูงกว่าน้ำมันเมล็ดข้าวโพดและเมล็ดถั่วเหลืองกว่า 3 เท่าเลยทีเดียว แต่เมื่อนำเมล็ดทานตะวันมาเพาะเป็นต้นอ่อนทานตะวัน คุณค่าทางอาหารจะเพิ่มมากขึ้น เช่น มีโปรตีนสูงกว่าถั่วเหลือง มีวิตามินA สูง ช่วยบำรุงสายตา ผิวพรรณ และชะลอความแก่
วิธีเพาะเมล็ดทานตะวันงอก
เมล็ดทานตะวัน
ท้ายฤดูกาลเมล็ดทานตะวันจะงอกช้ากว่าต้นปี ถ้าจะได้ผลดี ต้องปฎิบัติตามคำแนะนำเคร่งครัด
วิธีเพาะ
1.แช่น้ำทิ้งไว้ 12 ชั่วโมง (เคล็บลับแช่ตอนเช้าปลูกตอนเย็นเมล็ดจะเก็บความชื้นได้ดีกว่า)
2.นำ เมล็ดที่แช่น้ำ เกี่ยลงดินให้ทั่วอย่างให้แน่นมาก
3.เอาภาชนะแบบเดียวกันทันกันไปเลย ทับให้โดนเมล็ด เพื่อจะบังคับให้ต้นที่โตเร็วชะลอ รอต้นที่โตช้า ทำให้ต้นอ่อนโตเท่ากัน ทับไปประมาณ 3 วัน จนต้นอ่อนโตเท่ากันเริ่มดันขึ้นมา ระหว่างนี้รดน้ำ เช้า-เย็นปกติ
4.หลังจากที่ต้นอ่อนเริ่มโตจนวันที่ 4-5 เริ่มเปิดที่ทับออก
5.ทุกขั้นตอนต้องมีการรดน้ำทุกเช้า ห้ามแฉะราจะขึ้น
6.ต้นทานตะวันงอก 6-7 วันตัดทานได้
7.ภาชนะที่ใช้ปลูกถ้าปลูกซ้ำให้ทำความสะอาดและเอาไปตากแดดก่อนปลูกเพื่อป้องกันเชื้อรา ห้ามใช้ซ้ำโดยทันที
ทำแบบใช้โรงเรือน
เมนูในมื้ออาหาร ต้นอ่อนทานตะวันถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะผัดน้ำมันหอย, ต้มจืด, ลวกเป็นผักจิ้มกับน้ำพริก, ทานเป็นผักสลัด, ใส่เป็นผักในแซนด์วิช, ยำทะเลต้นอ่อนทานตะวัน, ไข่เจียวต้นอ่อนทานตะวัน หรือจะใส่แทนถั่วงอกในเมนูก๋วยเตี๋ยวต่างๆ ฯลฯ
ป้ายคำ : สวนผักคนเมือง