ป่าชุมชน หมายถึง พื้นที่ที่ประชาชนได้ร่วมกันอนุรักษ์ไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในชุมชนนั้นๆ โดยมีการกำหนดกฎ กติกา และนำภูมิปัญญา จารีตประเพณี และวิถีชีวิตในท้องถิ่นมาใช้ในการพัฒนา ฟื้นฟูทรัพยากรในป่าชุมชนอย่างเหมาะสม และอาศัยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ในการจัดการเพื่อลดความขัดแย้ง และเพื่อให้เกิดความยั่งยืน
ลักษณะทางกายภาพของป่าชุมชน
ป่าชุมชนคือ ผืนป่าที่มีขนาดเล็กหรือใหญ่เท่าใดก็ได้แล้วแต่จะจัดหาได้ แต่ถ้าเป็นขนาดใหญ่จะต้องไม่ใหญ่เกินกว่าที่ชุมชนนั้น ๆ จะฟื้นฟูดูแลได้ ป่าชุมชนเป็นผืนป่าล้วน ๆ ไม่รวมพื้นที่อยู่อาศัย เช่น หมู่บ้านและที่ทำกิน สภาพอาจเป็นป่าธรรมชาติที่สมบูรณ์ หรือป่าเสื่อมโทรมที่รกร้างว่างเปล่าก็ได้
การจัดการป่าชุมชน เป็นการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ป่า ประโยชน์ที่ต้องการจากป่าเป็นสิ่งกำหนดวัตถุประสงค์ในการรักษาป่าเหล่านั้นไว้ เช่น เป็นแหล่งป่าไม้เพื่อการประกอบพิธีการต่างๆ ซึ่งแปรผันตามสภาพสังคมในแต่ละภูมิภาค การใช้แหล่งป่าไม้เพื่อเป็นแหล่งต้นน้ำ ลำธารของหมู่บ้าน การใช้แหล่งป่าไม้เป็นแหล่งไม้ใช้สอย จะเป็นจุดร่วมที่ประชาชนจะรวมตัวกันในการรักษาป่านั้นๆ ไว้ เพื่อการใช้สอยร่วมกัน หรือเป็นสมบัติส่วนรวมของชุมชน
ลักษณะการจัดการป่าชุมชน
ป่าชุมชน คือ ผืนป่าที่ชุมชนช่วยกันจัดการฟื้นฟูดูแลรักษาทั้งจากปัญหาไฟป่า การบุกรุกแผ้วถางทำลายการปกป้องการหาของป่าจนเกินกำลังที่ป่าจะรับได้ โดยมีลักษณะคล้ายกันคือ ชุมชนหรือหมู่บ้านที่ดูแลป่าชุมชนใดจะมีกฎระเบียบในการดูแลและใช้ประโยชน์ เป็นต้นว่า การร่วมกันทำแนวกันไฟ การจัดเวรยามเดินลาดตระเวนกติกาในการเก็บเห็ด เก็บหน่อ ฯลฯ ป่าชุมชนจะแบ่งพื้นที่ออกเป็นสองบริเวณคือ บริเวณพื้นที่อนุรักษ์ และบริเวณพื้นที่ใช้สอย ส่วนสถานะทางกฎหมายของพื้นที่ที่จัดตั้งเป็นป่าชุมชน อาจเป็นป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่สาธารณประโยชน์ และอาจจะอยู่ในพื้นที่ของเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (กรณีประกาศเขตป่าอนุรักษ์ทับป่าสงวนแห่งชาติที่ใช้เป็นป่าชุมชนอยู่ก่อน)
ป่าชุมชน เป็นผืนป่าที่ชุมชนเข้าจัดการ เข้าหาของป่า, ทำไม้ใช้สอย, ลาดตระเวนดูแล ฯลฯ
มีกิจกรรมของมนุษย์ในผืนป่านั้นได้ ดังนั้นในพื้นที่ที่ประเทศไทยสงวนรักษาไว้เป็นป่าอนุรักษ์เป็นป่าผืนใหญ่ ที่รวบรวมพันธุ์สัตว์ป่า พันธุ์พืชจึงมิใช่พื้นที่ที่อนุญาตให้ชุมชนเข้าจัดการ แต่ควรให้ชุมชนร่วมถึงประชาคมอื่น ๆ ในชาติได้มีส่วนร่วมในการคุ้มครองดูแลป่าอนุรักษ์ร่วมกับกรมป่าไม้ ซึ่งทำหน้าที่พิทักษ์ผืนป่าอนุรักษ์ตามกฎหมายเพื่อความโปร่งใสและมีประสิทธิผลในการดูแลรักษา แต่ยังมีพื้นที่บางส่วนของผืนป่าอนุรักษ์ ที่ชุมชนท้องถิ่นได้ดูแลและใช้ประโยชน์เป็นชุมชนแล้วเกินกว่า 5 ปี และปัจจุบันยังคงดูแลรักษาและใช้ประโยชน์อยู่ เพื่อความเป็นธรรมแก่ชุมชนท้องถิ่นเหล่านั้นจึงควรให้ใช้เป็นป่าชุมชนได้ต่อไป
การใช้ประโยชน์ป่าชุมชน
หากจะให้ป่าชุมชนนั้นคงอยู่อย่างยั่งยืน ต้องไม่ใช่การใช้ประโยชน์เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชน แต่เป็นการใช้เพื่อลดรายจ่าย เช่นการเก็บผลิตผลจากป่าเพื่อเป็นอาหารในครัวเรือน การตัดไม้เพื่อใช้ในกรณีจำเป็นในครัวเรือนเพื่อประโยชน์สาธารณะของชุมชนตามกติกาที่ชุมชนกำหนดไว้ ป่าชุมชนจึงต้องฟื้นฟูและพัฒนาให้เป็นป่าธรรมชาติมิใช่กลายเป็นป่าเศรษฐกิจหรือหาวิธีใช้ประโยชน์ในเชิงสร้างรายได้อื่น ๆ ไม่สิ้นสุด
ที่ต้องระบุไว้ให้ชัดเจนก็เพราะว่าป่าชุมชนของประเทศไทยในปัจจุบัน มี 2 ลักษณะคือ ป่าชุมชนที่รักษาระบบนิเวศเป็นป่าธรรมชาติ ซึ่งป่าชุมชนทั่วประเทศที่ชุมชนท้องถิ่นเป็นผู้จัดให้มีขึ้น มีลักษณะเป็นป่าธรรมชาติที่สอดคล้องหลักการและเหตุผลในร่าง พ.ร.บ.ป่าชุมชน
แบบที่ 2 ป่าชุมชนที่ให้ประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ เป็นสวนป่า ปลูกพืชเศรษฐกิจเชิงเดี่ยวเช่น ยูคาลิปตัสเป็นป่าชุมชนที่กรมป่าไม้สนับสนุน
ตัวอย่างเครือข่ายป่าชุมชน
ป่าชุมชนเขาราวเทียนทอง
ตำบลเนินขาม กิ่งอำเภอเนินขาม จังหวัดชัยนาท
ป่าชุมชนเขาราวเทียนทองหมู่บ้านเขาราวเทียนทองตั้งอยู่ตำบลเนินขาม หมู่ที่ 10 กิ่งอำเภอเนินขาม จังหวัดชัยนาท ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอำเภอเมืองเป็นระยะทาง 60 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากอำเภอหันคาเป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 7,800 ไร่
การจัดการทรัพยากรป่าไม้
ชุมชนมีการจัดทำข้อตกลง กฎเกณฑ์ ข้อปฏิบัติในการใช้ประโยชน์ร่วมกันของผลผลิตจากป่า ตัวอย่างการเก็บเห็ดโคน จะเก็บโดยไม่ทำลายรังปลวกที่ทำให้เกิดเห็ดโคน ไม่ขุดจนถึงรังปลวก หลังจากขุดหรือเก็บเห็ดแล้วจะปรับพื้นที่ไม่ให้มีหลุ่มมีบ่อเพื่อน้ำจะได้ไม่ขัง และซึมลงไปในรังปลวกไม่ทำให้รังปลวกเน่าและให้ผลผลิตเห็ดในปีต่อไป หรือการเก็บหน่อไม้และไม้ไผ่ มีการกำหนดเวลาห้ามเก็บหน่อไม้ช่วงปลายฤดูฝนประมาณเดือนกันยายน
– ทำแนวกันไฟ เพื่อเป็นแนวควบคุมและป้องกันไฟเชิงรุก
– ดูแลฟื้นฟู และปลูกซ่อม ในป่าที่ปลูกใหม่ และเดิมได้รับการดูแลรักษาให้รอดตาย
– เพาะกล้าไม้ท้องถิ่น กล้าไม้ที่มีในท้องถิ่น สร้างรายได้แก่ชุมชนที่ยากจน และเพื่อนำไปปลูกเสริมในป่า และพื้นที่เกษตร
– ฝายต้นน้ำขนาดเล็ก เพื่อกักเก็บน้ำ ช่วยเพิ่มความชุมชื้นให้ป่าฟื้นตัวเร็วขึ้น เป็นแหล่งหากินของคน และสัตว์
สืบค้น พัฒนา และถ่ายทอดองค์ความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น
องค์ความรู้ที่มีอยู่ในชุมชนรอบๆ เครือข่าย เมื่อนำมาต่อเชื่อมแต่ละชุมชน พัฒนาถ่ายทอด ผ่านเวทีต่างๆ หรือการนำไปใช้ในการเรียนการสอนในโรงเรียน ซึ่งในบางเรื่ององค์ความรู้จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากภาคีภายนอก เช่น งานด้านช่าง หรือการแปรรูปอาหาร การส่งเสริมการตลาดของผลิตภัณฑ์
– การสืบค้นองค์ความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสร้างฐานข้อมูลความรู้ท้องถิ่นในด้านต่างๆ เช่นการจัดการป่า สมุนไพร การกินอยู่ ตลอดจนการแลกเปลี่ยน และถ่ายทอดองค์ความรู้ระหว่างชุมชน โรงเรียน วัด และประยุกต์ไปใช้ในการจัดการทรัพยากรท้องถิ่น และการเรียนการสอนในโรงเรียน
– อบรมการพัฒนาแผนการจัดการป่าชุมชนและทรัพยากร
– อบรมการแปรรูปอาหาร วัตถุดิบจากป่า อาชีพที่น่าสนใจ
พัฒนาทางเลือก เพื่อการพึ่งตนเอง
นอกเหนือจากการดูแลทรัพยากรป่าไม้แล้ว เครือข่ายยังให้ความสำคัญต่อการพัฒนาทางเลือก เพื่อการพึ่งตนเองของสมาชิกเครือข่าย เนื่องจากส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร แต่พบว่ายังพึ่งตนเองได้แค่ระดับหนึ่ง จำเป็นต้องหาทางเลือก หรือส่วนช่วยเกื้อหนุนให้สมาชิกมีโอกาสพึ่งตนเองมากยิ่งขึ้น โดยเน้นสิ่งที่มีอยู่ในพื้นที่เป็นหลักมาพัฒนา ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
– กลุ่มออมทรัพย์เครือข่าย
– ฉางเก็บข้าว
– เครื่องอัดหญ้า
– เครื่องจักตอก
– เครื่องอิฐบล็อกประสาน
– เครื่องสีข้าวมือ
ขยายการมีส่วนร่วมเครือข่าย
เครือข่ายมีการพัฒนาบุคลากรและความร่วมมือกับภาคีการพัฒนา เพื่อวางแผนติดตามประเมินผลการทำงาน แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การพัฒนาชุมชน ตลอดจนไปศึกษาดูงาน สัมมนาวิชาการ โรงเรียน ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อขยายแนวคิดการทำงานเครือข่ายให้กว้างมากยิ่งขึ้น ความเข้าใจ และตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลอนุรักษ์ธรรมชาติ
– เวทีสัญจรเครือข่ายตำบล เวทีแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดองค์ความรู้ระหว่างชุมชน โรงเรียน วัด และประยุกต์ไปใช้ในการจัดการทรัพยากรท้องถิ่น
– เวทีเด็กคิดได้ผู้ใหญ่คิดดี เวทีแลกเปลี่ยนแนวคิด มุมมอง ความรู้เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม กิจกรรมที่ทำร่วมกันจะสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ใหญ่กับเด็ก
– ประชุมคณะกรรมการเครือข่าย
– เส้นทางศึกษาธรรมชาติ และแผ่นป้ายสื่อความหมายตามจุดเรียนรู้ สำหรับการเรียนรู้ธรรมชาติ
ป้ายคำ : ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง