ผกากรอง เป็นไม้ ดอกไม้ประดับที่มีสีสันสวยงาม นักภูมิสถาปัตย์ นิยมนำไปตกแต่งสถานที่เพราะ สีสันอันหลากหลายที่เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับผู้พบเห็น ซึ่งเป็นคุณสมบัติ เด่นของไม่ดอกชนิดนี้ และในขณะเดียวกันผกากรองก็ยังถูกจัดว่าเป็นวัชพืชร้าย แรงที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ที่หาวิธีกำจัดให้สิ้นได้โดยยาก ทั้งยังมี สารพิษร้ายแรงที่หากสัตว์ประเภทแพะและแกะกินเข้าไปในปริมาณมาก ก็จะทำให้ตาย ได้ทันที
ชื่อวิทยาศาสตร์ Lantana camara L.
วงศ์ Verbenaceae
ชื่ออื่น ๆ ก้ามกุ้ง เบญจมาศป่า ขะจาย ตาปู มะจาย คำขี้ไก่ ดอกไม้จีน เป็งละมาศ สาบแร้ง ยี่สุ่น สามสิบ หญ้าสาบแร้ง Cloth of gold, Hedge flower
ลักษณะของพืช
ผกากรองเป็นไม้พุ่มที่พบทั่วไปในบ้านเรา เป็นพืชคลุมดิน ลำต้นเป็นพุ่มหรือไม้พุ่มกึ่งเลื้อย แตกกิ่งทอดเลื้อยได้ไกล 1-2 เมตร ใบจะมีสีเขียวเข้ม ใบรูปไข่ขอบใบจักเล็กน้อย ผิวใบจะมีขนอยู่ ทำให้รู้สึกสาก ๆ เมื่อจับต้อง ผกากรองนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ โดยอาจปลูกเป็นแถวหรืออาจปลูกเป็นกลุ่มให้เกิดเป็นพุ่มก็ได้
สรรพคุณ
ใบ – รสขม เย็น ใช้แก้บวม ขับลม แก้แผลผื่นคันเกิดจากชื้น หิด
ดอก – รสชุ่ม จืด เย็น ใช้แก้อักเสบ ห้ามเลือด แก้วัณโรค อาเจียนเป็นเลือด แก้ปวดท้องอาเจียน แก้ผื่นคันที่เกิดจากชื้น และรอยฟกช้ำที่เกิดจากการกระทบกระแทก
ราก – แก้หวัด ปวดศีรษะ ไข้สูง ปวดฟัน คางทูม ฟกช้ำที่เกิดจากการกระทบกระแทก
วิธีและปริมาณที่ใช้
ใบสด – 15-30 กรัม ต้มน้ำดื่ม ใช้ภายนอก ตำพอกหรือคั้นเอาน้ำผสมเหล้าทา หรือต้มน้ำชะล้างบริเวณที่เป็น
ดอกแห้ง – 6-10 กรัม ต้มน้ำดื่ม
รากสด – 15-30 กรัม ต้มน้ำดื่ม ใช้ภายนอก ต้มน้ำอมบ้วนปาก แก้ปวดฟัน
ผกากรอง เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง ๑-๒ เมตร มีกิ่งก้านสาขารอบๆ ลำต้นหลักมาก ทำให้ทรงพุ่มค่อนข้างกลม มีใบดกหนา ลำต้นและกิ่งก้านมีขนปกคลุม ใบรูปไข่ขอบใบจักปลายใบแหลมสีเขียวเข้ม มีขนปกคลุม เมื่อลูบรู้สึกระคายมือ ใบดกออกเป็นคู่ๆ ตรงข้ามกัน ดอกออกตามปลายกิ่ง เป็นช่อมีดอกเล็กๆ หลายดอกบนก้านช่อเดียวกัน คล้ายดอกเข็ม ขนาดช่อดอกกว้าง ๓-๕ เซนติเมตร ประกอบด้วยดอกหลายสิบดอก ดอกผกากรองมีหลายสี เช่น ขาวล้วน (ผกากรอง) เหลืองล้วน (ผกากรองเหลือง) แดงล้วน (ข้าวเหนียวหน้ากุ้ง) นอกจากนั้นยังมีสีม่วงอ่อน สีแสด สีชมพู และหลายสีในช่อดอกเดียวกัน ปัจจุบันมีการผสมพันธุ์เกิดสีผสมใหม่ๆ ขึ้นเรื่อยๆ ขนาดดอก (ช่อดอก) ก็โตขึ้นด้วย
ผกากรองออกดอกได้ตลอดทั้งปี หากอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม คือ อยู่กลางแจ้ง ได้รับแสงแดดพอเพียง ผกากรองชอบสภาพค่อนข้างแห้งแล้ง ดินร่วนปนทราย ระบายน้ำดีมากกว่าชุ่มชื้นหรือดินเหนียว จึงเป็นพืชที่มีความแข็งแรงทนทานมาก สามารถขึ้นและขยายพันธุ์ได้ดีในสภาพธรรมชาติ จึงพบเห็นเสมอในป่าละเมาะที่ค่อนข้างโปร่งและแห้งแล้ง ทำให้หลายคนเข้าใจว่าผกากรองเป็นพืชป่าดั้งเดิมของไทย และหลายแห่งถือเป็นวัชพืชชนิดหนึ่ง ตามหลักฐานที่บันทึกเอาไว้ปรากฏว่า ผกากรองเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอุรุกวัย ทวีปอเมริกาใต้ ต่อมาแพร่ขยายไปปลูกในเขตร้อนทั่วโลก ไม่มีหลักฐานว่าผกากรองเข้ามาประเทศไทยเมื่อใด สันนิษฐานว่าคงเข้ามาในช่วงกรุงรัตนโกสินทร์นี้เอง (ไม่เกิน ๒๐๐ ปี) เพราะ ไม่พบปรากฏชื่อผกากรองในวรรณคดีไทยยุคกรุงศรีอยุธยา และกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นเลย หนังสืออักขราภิธานศรับท์ของหมอปรัดเล พ.ศ.๒๔๑๖ ก็ไม่มีชื่อผกากรองเช่นเดียวกัน แสดงว่า เมื่อ ๑๓๐ ปีที่แล้ว คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักผกากรอง
เนื่องจากผกากรองแพร่ขยายพันธุ์ได้ด้วยตัวเอง (โดยเมล็ด) จึงแพร่ขยายไปตามภาคต่างๆ ได้ทั่วไป จึงมีชื่อท้องถิ่นต่างกัน เช่น ผกากรอง ก้ามกุ้ง สาบแร้ง เบญจมาศป่า (ภาคกลาง) สามสิบ (จันทบุรี) เบ็งละมาศ หญ้าสาบแร้ง (ภาคเหนือ) ขี้กา (ประจวบคีรีขันธ์) เป็นต้น ภาษาอังกฤษเรียก Hedge Flower ปัจจุบันมีผกากรองถูกนำมาปลูกอีกชนิดหนึ่ง คือ ผกากรองเลื้อยชื่อภาษาอังกฤษ คือ Weeping Lantana ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Lantana sellowiana Link. & otto. มีลักษณะเดียวกับผกากรอง แต่เลื้อยไปตามพื้น นิยมปลูกใส่กระถางแขวนให้เถาห้อยลงมาเป็นไม้ประดับ
ประโยชน์ของผกากรอง
ใบของผกากรอง มีคุณสมบัติห้ามเลือดและรักษาแผลสดได้ จึงใช้ตำหรือขยี้ให้ช้ำใส่บาดแผลสด (พอก) พบว่า มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้ด้วย ในเกาะชวาของอินโดนีเซีย หมอพื้นบ้านใช้ผกากรองปรุงเป็นยารักษาโรคไขข้ออักเสบ (รูมาติส) ใบผกากรองมีกลิ่นฉุนจึงนำมาใช้เป็นสมุนไพรขับไล่แมลงศัตรูพืชได้ ผกากรองมีดอกดกเป็นช่อตลอดปี จึงเป็นแหล่งอาหารของแมลงต่างๆ เช่น ผีเสื้อและผึ้ง
ประโยชน์ด้านหลักของผกากรอง คือ ต้นใช้เป็นไม้ดอกไม้ประดับ นอกจากผกากรองเลื้อยที่เหมาะสำหรับปลูกในกระถางแขวนแล้ว ผกากรอง (ต้น) เหมาะสำหรับปลูกตามแนวรั้ว (ตามชื่อในภาษาอังกฤษ) หรือเป็นกลุ่มประดับสถานที่กลางแจ้ง เพราะให้ดอกมีสีสันสดใสได้ตลอดปี ดูแลง่าย ทนทานต่อสิ่งแวดล้อมและโรคแมลงดีมาก ปัจจุบันผกากรองมีสีสันของดอกหลากหลายมากขึ้นเรื่อยๆ จึงนำมาปลูกประดับสถานที่ หรือปลูกในกระถางได้มากขึ้นด้วย
ผกากรองทนทานต่อการตัดแต่งหรือดัดทรง ทนต่อความแห้งแล้ง ดินเลว จึงเหมาะสำหรับปลูกในกระถางทำไม้ดัด หรือไม้แคระ (บอนไซ) นอกจากนั้นยังเปลี่ยนยอด (เสียบยอด) ได้ง่าย จึงนิยมทำไม้ดัดหรือไม้แคระกระถางที่มีรูปทรงต่างๆ ในกระถาง ที่มีดอกสีต่างๆ มากมายในต้นเดียวกัน หากผู้อ่านมีโอกาสผ่านไปตามถนนสายสุพรรณบุรี-ชัยนาท ช่วงผ่านอำเภอเดิมบางนางบวช จะสังเกตเห็น ๒ ข้างทาง มีร้านขายต้นไม้ดัดกระถาง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผกากรองสารพัดสี รองลงมา คือ โมกใบด่าง ผกากรองซึ่งเป็นไม้ดัดกระถางเหล่านี้ ชาวบ้านแถบนั้นพัฒนาขึ้นมาจากทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพราะในป่าละเมาะแล้งบริเวณภูเขาของอำเภอเดิมบางนางบวช มีเบญจมาศป่า (ผกากรองที่ขึ้นเอง) อยู่มาก ชาวบ้านจะขุดผกากรองจากป่า ที่ผ่านความแห้งแล้งมาหลายปี จนมีทั้งก้านแข็งแกร่งและค่อนข้างแกร็นมาเปลี่ยนยอดเป็นผกากรองสีต่างๆ จนได้ไม้ดัดกึ่งไม้แคระที่มีรูปทรงและสีสันงดงาม แข็งแรงทนทาน ปลูกง่าย ดูแลง่าย ออกดอกตลอดปี และราคาไม่แพง หากผู้อ่านผ่านไปทางนั้นอีกครั้งต่อไป อย่าลืมแวะชมและซื้อหาผกากรองกลับไปประดับบ้านของท่านบ้าง ขอเพียงสถานที่ซึ่งมีแสงแดดพอเพียงเท่านั้น ผกากรองก็จะมีดอกอันงดงามให้ท่านได้ชื่นชมตลอดปีติดต่อกันไปหลายๆ ปี
ส่วนที่เป็นพิษ ผล และใบ
สารพิษที่พบ สารกลุ่มไตรเทอร์ปีน ได้แก่ lantadene A หรือ rehmannic acid, lantadene B และ lantadene C
อาการพิษ – ผู้ป่วยที่ได้รับพิษจากผกากรองมักไม่แสดงอาการพิษทันที แต่จะเกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว 2-3 ชั่วโมง อาการพิษที่เกิดขึ้น ได้แก่ อาเจียน ท้องเสีย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง (lethargy) ขาดออกซิเจน หายใจช้าและลำบาก รูม่านตาขยาย (mydriasis) กลัวแสง กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน โคม่า และการตอบสนองของกล้ามเนื้อ tendon ถูกกด
ที่มา
– นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่: 295 พฤศจิกายน 2547
– นพมาศ สุนทรเจริญนนท์. พืชพิษ (Poisonous Plants). ใน รุ่งระวี เต็มศิริฤกษ์กุล และคณะ (บรรณาธิการ). สมุนไพร: ยาไทยที่ควรรู้. กรุงเทพมหานคร: บริษัทอมรินทร์พริ้นติ๊งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน), 2542.
– นันทวัน บุณยะประภัศร อรนุช โชคชัยเจริญสุข. สมุนไพร ไม้พื้นบ้าน. กรุงเทพมหานคร: บริษัท ประชาชน จำกัด, 2542.
– นันทวัน บุณยะประภัศร (บรรณาธิการ). จุลสารโครงการศูนย์ข้อมูลสมุนไพร มหาวิทยาลัยมหิดล 2530;5(1):30-3.
– พรพิศ ศิลขวุธท์. พืชพิษ (Poisonous Plants). ฝ่ายความปลอดภัยด้านเคมีวัตถุ กองวิชาการ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, 2537.
– ส่วนพฤกษศาสตร์ป่าไม้ สำนักวิชาการป่าไม้ กรมป่าไม้. ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย เต็ม สมิตินันทน์. ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม. กรุงเทพมหานคร: บริษัทประชาชน จำกัด, 2544.