การนำน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติมาใช้ด้านการเกษตรบนพื้นที่สูงกว่าเกษตรกรอาจจะต้องใช้ต้นทุนทั้งในเรื่องของเครื่องจักรกล รวมถึงการใช้พลังงานไฟฟ้าหรือพลังงานเชื้อเพลิงอื่นๆเพื่อสูบน้ำขึ้นมาใช้ประโยชน์ แต่เกษตรกรสามารถลดต้นทุนในเรื่องของพลังงานดังกล่าวได้ด้วย “พญาแร้งให้น้ำ” เครื่องสูบน้ำที่ใช้แรงดันแบบสุญญากาศ นวัตกรรมใหม่ของการใช้น้ำเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืนโดยไม่ใช้พลังงานไฟฟ้าหรือพลังงานเชื้อเพลิงใดๆ
พญาแร้งให้น้ำ ที่มีลักษณะการทำงานที่คล้ายๆกับกาลักน้ำแบบทั่วไป โดยกาลักน้ำจะเป็นการนำน้ำจากที่สูงลงมาใช้ในพื้นที่ต่ำกว่า ส่วนการทำงานของพญาแร้งให้น้ำจะเป็นการนำน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติในที่ลุ่มต่ำขึ้นมาใช้ประโยชน์ด้านการเกษตรบนพื้นที่ที่สูงกว่าจากการสูบน้ำด้วยระบบแรงอัดสุญญากาศโดยไม่ต้องพึ่งพาพลังงานใดๆ
ซึ่งมีการวางระบบตามขั้นตอนและใช้วัสดุอุปกรณ์ดังนี้
วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมถังน้ำสุญญากาศ :
- ถังบรรจุน้ำ 200 ลิตร
- ท่อ PVC ดูดน้ำ 6 หุน
- ท่อ PVC ส่งน้ำ 2 นิ้ว และ 1 นิ้ว
- ท่อพักอากาศระหว่างทาง
- ฟุตวาล์วหัวกระโหลก หรือเช็ควาล์ว
- วาล์วเปิดปิดที่ วาล์วเติมน้ำ วาล์วลม และวาล์วปลายสาย
- ข้องอ ท่อเหล็ก และ ฐานวาง
- ฐานสำหรับวางถังน้ำ 200 ลิตร ความสูงประมาณ 1.20 เมตร
- น้ำยาประสานท่อ ,กาวสำหรับอุดรอยรั่ว ฯลฯ
ขั้นตอนการเตรียมถังบรรจุน้ำสุญญากาศ
- นำถังเหล็กขนาด 200 ลิตรมาล้างทำความสะอาด ควรเลือกใช้ถังที่ไม่ได้ใช้บรรจุน้ำมันหรือสารไวไฟมาก่อน เพราะจะเกิดปัญหาระเบิดขึ้น มาขณะที่ทำการเชื่อมข้อต่อได้ ดังนั้นควรเลือกดีดีและทำความสะอาดภายในถังให้ดี ถังพลาสติกจะมีความแข็งแรงไม่เพียงพอ
- เจาะถังสำหรับต่อวาล์วเติบน้ำเพื่อเชื่อมข้องอ
- เชื่อมข้องอเหล็กเข้ากับขอบด้านก้นถัง(วาล์วเติมน้ำ) โดยข้องอจะต้องต่อท่อเหล็กยาวอย่างน้อยประมาณ 15 cm ให้ลึกลงไปภายในถัง
- วางถังบนฐานและต่อท่อดูดและวาล์วเติมน้ำ โดยที่ปลายของท่อดูดจะต่อฟุตวาล์วที่ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้น้ำไหลย้อนกลับลงไปในบ่อ ปลายท่อดูดควรจะจมอยู่ในน้ำลึกประมาณ 15 cm โดยผูกติดกับแกลลอนไว้ที่ปลายท่อดูด ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อดูดน้ำควรมีขนาด 6 หุนยาวประมาณ 3 เมตรจะเหมาะกับถังขนาด 200 ลิตร และควรปรับแต่งสปริงของฟุตวาล์วลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง ฟุตวาล์วแบบเหล็กจะมีสปริงอ่อนกว่าฟุตวาล์วแบบพลาสติก5. ต่อวาล์วลม ที่รูระบายอากาศด้านบนของถังขนาดท่อ 6 หุน
- ต่อท่อส่งน้ำขนาด 2 นิ้วด้านบนของถัง
- เดินระบบท่อส่งน้ำไปยังแปลงเพาะปลูก โดยท่อส่งน้ำในช่วงแรกจะมีขนาดประมาณ 2 นิ้ว อย่างน้อย 15 เมตร และทุก 50 เมตรจะต้องต่อท่อพักลมไว้ด้วย
- เมื่อระยะไกลมากขึ้นควรลดขนาดท่อส่งให้เหลือ 1 นิ้ว เพื่อรีดน้ำให้ไหลแรงขึ้น หรือเล็กลงเรื่อยๆ เพื่อให้น้ำเต็มท่อ
- ต่อวาล์วเปิดปิดที่ปลายสายใช้งาน
ขั้นตอนการใช้งานมีดังนี้
- เปิดวาล์วลม และวาล์วเติมน้ำ ปิดวาล์วปลายสาย โดยเติมน้ำให้เต็มถัง ให้สังเกตุด้วยว่าถ้าถังไม่รั่วเมื่อเติมน้ำเต็มถังแล้ว น้ำจะไม่ลดลงจะนิ่งอยู่อย่างนั้น แต่ถ้าถังรั่วหรือส่วนใดส่วนหนึ่งรั่ว น้ำจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ จะต้องแก้ปัญหารอยรั่วนั้นให้เรียบร้อยก่อน
- ปิดวาล์วลม และวาล์วเติบน้ำ แล้วเปิดวาล์วปลายสายค่อยๆ ให้น้ำไหลออกไม่ควรเปิดแรงมาก น้ำจะไหลออกมาระยะหนึ่งแล้วจะหยุดไหล หลังจากนั้นปิดวาล์วที่ปลายสาย แล้วเติมอากาศเข้าสู่ระบบโดยการการเอามือปิดที่ปลายวาล์วเติมน้ำแล้วเปิดวาล์วเติมน้ำเล็กน้อยให้อากาศเข้าแล้วปิด ทำแบบนี้ประมาณ สองสามครั้ง โดยให้อากาศเข้าไปอยู่ภายในถังประมาณ 25%
ลองเปิดวาล์วปลายสายเบาๆ ดูอีกครั้งว่าน้ำไหลรึเปล่า ถ้าระบบเข้าสู่สภาวะที่สมดุลน้ำจะไหลออกมาได้เองอย่างต่อเนื่อง น้ำจึงไหลจากที่ต่ำขึ้นสู่ที่สูงได้จากหลักการณ์สุญญากาศของระบบรวมถึงแรงกดของอากาศที่เกิดขึ้นจากภายในถังนั้นเอง
ถ้าน้ำไหลแล้วหยุดแสดงว่าน้ำกำลังไหลเข้าสู่ถังเพื่อปรับให้สุญญากาศเข้าสู่สมดุลเช่นเดิม วิธีแก้อาจจะเพิ่มถังให้เก็บปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น พื้นที่การเกษตรท่านแนะนำว่าควรใช้สี่ถัง และควรเป็นระบบน้ำหยดจะเหมาะที่สุด
ข้อมูลทั้งหมดเราสามารถนำไปปรับยุกต์ใช้และสามารถปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้นได้