การปลูกพืชร่วมยาง เป็นการปลูกพืชควบคู่กับการปลูกยางพาราเพื่อเสริมรายได้ โดยพืชที่ปลูกต้องสามารถเจริญเติบโตร่วมกับต้นยางพาราได้และไม่ทำให้ผลผลิตน้ำยางลดลง พืชร่วมยางที่สำคัญและนิยมปลูกกัน อาทิ ระกำหวาน, สละ, หวาย, กระวาน, หน้าวัวและเปลวเทียน หรือไม้ป่าบางชนิด เช่น ตะเคียนทอง, ไม้กฤษณา การจะปลูกพืชร่วมยางชนิดใด ต้องคำนึงหรือพิจารณาในหลักการ ดังต่อไปนี้
พืชเสริมรายได้ในสวนยาง
พืชเสริมรายได้ หมายถึง พืชที่นำมาปลูกในระหว่างแถวยางแล้วทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จำแนกได้ 2 ประเภท คือ พืชแซมยางและพืชร่วมยาง
พืชแซมยาง หมายถึง พืชที่ปลูกในแถวยางในขณะที่ต้นยางอายุไม่เกิน 3 ปี สามารถปลูกจนถึงต้นยางอายุไม่เกิน 4 ปี พื้นที่ระหว่างแถวยางจะต้องมีปริมาณแสงแดดมากกว่า 50% ของปริมาณแสงแดดทั้งหมด พืชแซมยางที่ปลูกควรเป็นพืชที่ตลาดต้องการสูง ราคาดี เป็นพืชล้มลุก อายุสั้น ดูแลรักษาง่าย การปลูกแบ่งตามอายุ คือ
การปลูกและดูแลรักษาพืชแซมยาง
ประโยชน์ของพืชแซมยาง
พืชร่วมยาง หมายถึง พืชที่สามารถปลูกร่วมกับยางได้นานและให้ผลผลิตควบคู่กันไปพืชร่วมยางที่ปลูกควรเป็นพืชยืนต้นหรือล้มลุกที่มีอายุยาว พืชดังกล่าวบางชนิดต้องการแสงแดดในช่วงปีที่ 1-2 บางชนิดอาจต้องการร่มเงาของสวนบาง ดังนั้น พืชที่จะปลูกต้องทนทานต่อโรคที่เกิดกับยางพารา เช่น โรครากขาว โรคเส้นดำ โรคเปลือกดำ และโรคใบจุดก้างปลา เป็นต้น
ชนิดของพืชร่วมยางสามารถแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ดังนี้
การปลูกและการดูแลรักษาพืชร่วมยาง
ประโยชน์ของพืชร่วมยาง
พืชร่วมยางที่นำมาปลูกนั้นมีหลายชนิดและอยู่ในระหว่างการศึกษา ทดสอบ ได้แก่ ลองกอง มังคุด หวายข้อดำ สำหรับพืชร่วมยางที่ส่งเสริมให้ปลูก คือ เหมียง ซึ่งเป็นพืชผักสำหรับบริโภคใบอ่อน
ป้ายคำ : ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง, ป่ายาง
อยากทราบว่า สวนยางประมาณ7-8ปี (ของคุณพ่อ ประมาณ20ไร่) เปิดกรีดแล้ว1กว่าๆ
1.จะสามารถปลูกพืชแซมยางได้ไหมครับ
2.ถ้าปลูกได้ แนะนำเป็นพืช ประเภทไหนบ้างครับ
3.ถ้าเลี้ยงสัตว์ในสวนยางด้วย สามารถเลี้ยงอะไรได้บ้าง (ไก่ เป็ด ปลา)
หรือมีข้อเสนอแนะ อะไรเพิ่มเติมบ้างไหมครับ
ปล.พื้นที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี อ.เมือง
ตั้งใจอยากปลูก สละอินโด ผักเหลียง กาแฟ ตะเคียนทอง มะฮอกกานี มะพร้าว ฯลฯ