มันมือเสือ โอสถแห่งขุนเขา

21 ตุลาคม 2557 ไม้ใต้ดิน 0

มันมือเสือ ลักษณะเป็นหัวหยักๆ คล้ายอุ้งเท้าเสือจึงเรียกว่า มันมือเสือ ชาวบ้านบางคนเรียกชื่ อต่างออกไปบ้าง เช่น มันอ้อน มันมุ้ง มันจวก ฯลฯ แต่ชื่อมันมือเสือ เป็นที่รู้จักทั่วไปมากกว่าชื่ออื่นๆ มันมือเสือเนื้อเหนียวดี นิยมนำมาซอยทำแกงเลียง หรือจะใช้แทนมันฝรั่งในแกงกะหรี่ แกงมัสมั่ นก็อร่อยดี

พืชหัวที่มีแป้งอันนำมากินเป็นอาหารได้คนไทยก็เรียกเป็น มัน ทั้งนั้น และแยกแยะด้วยพยางค์ที่สองามคุณลักษณะสำคัญของมันนั้น ๆ เช่น มันเลือด มันมือเสือ มันตะขาบ ฯลฯ ขึ้นชื่อว่ามันก็นำมากินเป็นอาหารอิ่มและหนักท้อง คนในเอเชียและแอฟริกาได้อาศัยขุดมันพื้นบ้านเหล่านี้ได้กินเป็นอาหารมาช้านาน

มันมือเสือมีทั้งชนิดสีเหลือง สีขาว และสีม่วง ชนิดสีเหลืองจะมีปริมาณเบตาแคโรทีนสูงมาก ร่างกายจำเป็นต้องใช้เบตาแคโรทีนในการสร้างวิตามินเอ ซึ่งช่วยทำให้เนื้อเยื่อเซลล์แข็งแรง ต้านไวรัส ป้องกันมะเร็ง และช่วยร่างกายจัดการกับความเครรียดและมลพิษ วิตามินบี 1 ในพืชนี้มีประโยชน์ในการเสริมระดับพลังงาน และช่วยบำบัดอาการซึมเศร้าและความเครียดซึ่งล้วนบั่นทอนประสิทธิภาพของภูมิ คุ้มกันทั้งสิ้น

manmersear

ชื่อสามัญ Spiny Yam
ชื่อวิทยาศาสตร์ Dioscorea esculenta (Lour.) Burk
ชื่ออื่นๆ มันมือเสือ,มันมุ้ง(ภาคกลาง),มันอีมุ้ง(ภาคกลาง,ชลบุรี),มันกะซาก(สระบุรี), มันจ้วก,มันหนาม(ภาคเหนือ)

มันมือเสือ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Dioscorea esculenta) เป็นพืชในวงศ์กลอย และเป็นพืชที่มีหัวเล็กที่สุดในสกุลเดียวกัน มีขนาดใกล้เคียงมันฝรั่ง เป็นไม้เลื้อย ไม่มีเนื้อไม้มีขนและหนามปกคลุม รากของพันธุ์ป่าจะแข็งเป็นหนาม พันธุ์ปลูกมักไม่มีหนาม เปลือกหัวสีน้ำตาลหรือแกมเทา เนื้อสีขาว เลื้อยพันไปทางซ้าย มีหนามมากที่โคน ใบเดี่ยว รูปหัวใจ ดอกแยกเพศ ดอกตัวผู้เป็นช่อเดี่ยว ดอกตัวเมียเป็นช่อกระจะหรือช่อเชิงลด โค้งลงด้านล่างผลเป็นแคบซูลโค้งงอ มันมือเสือแบ่งเป็น 2 พันธุ์คือ variety spinosa มีหนามในส่วนราก variety fasiculata มีหนามในส่วนรากน้อย

manmersearpoom manmerseartao manmersearhaos

ถิ่นกำเนิดอยู่ในไทยและอินโดจีน กระจายพันธุ์ตั้งแต่อินเดีย พม่า ไปจนถึงนิวกินี ในเวียดนามเรียกว่าkhoai t หรือ c t ซึ่งนำแป้งจากมันชนิดนี้ไปทำขนมได้มีหัวขนาดเล็กกว่ามันเสา เนื้อหัวเหนียว นำไปทำแกงเลียง ใช้แทนมันฝรั่งในแกงกะหรี่หรือแกงมัสมั่นได้ หัวนำมาต้มหรือเผารับประทาน สกัดแป้งจากหัว หัวขูดเป็นฝอยใช้พอก ลดอาการบวม มีรสหวานเพราะมีน้ำตาลมาก

มันมือเสือเป็นพืชในวงศ์กลอย เป็นไม้เลื้อย ไม่มีเนื้อไม้ มีขนและหนามปกคลุม เปลือกหัวสีน้ำตาลหรือแกมเทา เนื้อสีขาว เลื้อยพันไปทางซ้าย มีหนามมากที่โคน ใบเดี่ยว รูปหัวใจ ถิ่นกำเนิดอยู่ในไทยและอินโดจีน กระจายพันธุ์ตั้งแต่อินเดีย พม่า ไปจนถึงนิวกินี ในเวียดนามนำแป้งจากมันชนิดนี้ไปทำขนม เนื้อหัวเหนียว ในไทยนิยมนำไปทำแกงเลียง ใช้แทนมันฝรั่งในแกงกะหรี่หรือแกงมัสมั่น หัวนำมาต้มหรือเผารับประทานได้ ในชนิดสีเหลืองจะมีปริมาณเบตาแคโรทีนสูง ช่วยทำให้เนื้อเยื่อเซลล์แข็งแรงต้านไวรัสป้องกันมะเร็ง และช่วยร่างกายจัดการกับความเครียดและมลพิษในร่างกายได้ดีและช่วยบำบัดอาการซึมเศร้า

manmerseara

มันมือเสือ 100 กรัม ให้พลังงาน 102 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย

  • คาร์โบไฮเดรต 23.9 กรัม
  • เส้นใย 0.6 กรัม
  • โปรตีน 1.5 กรัม
  • แคลเซียม 12 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 35 มิลลิกรัม
  • เหล็ก 0.8 มิลลิกรัม
  • ไนอะซิน 0.8 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี1 0.10 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี2 0.01 มิลลิกรัม
  • วิตามินซี 15 มิลลิกรัม

การปลูก/การขยายพันธุ์มันพื้นบ้าน

  • ใช้หัวพันธุ์เล็ก ๆ ที่มีความสมบูรณ์ ไปแช่น้ำประมาณ15 นาที หลังจากนั้น นำหัวมันไปแช่ในสารป้องกันและกำจัดแมลง , เชื้อราและฮอร์โมนเร่งรากนานประมาณ 5 นาที แล้วจึงนำหัวพันธุ์มันมาผึ่งลมให้แห้ง
  • นำไปชำลงในถุงชำดำขนาด3-7 นิ้ว วัสดุเพาะชำที่แนะนำให้ใช้คือ ขี้เถ้าแกลบ: ดินร่วน: ทรายหยาบ สัดส่วน1 : 1 : 1 กลบหัวมันให้มิดหัวพอดีและนำไปไว้ ในโรงเรือนที่มีตาข่ายพรางแสงประมาณ 50 % รดน้ำเช้าหรือเย็นเพียงวันละครั้ง หมั่นสังเกตอย่าให้วัสดุในถุงชำแห้ง
  • หลังจากชํ าหัวมันไปนานประมาณ45 วัน จะสังเกตมีการแตกยอดขึ้นมาจึงนำไปปลูกลงแปลงปลูก เหมือนแปลงผักได้
  • ระยะปลูก ใช้ระยะปลูกระหว่างต้น75 เซนติเมตรและระยะระหว่างแถว 1 เมตร นำต้นกล้าลงปลูกและกลบดินให้แน่น หลังจากนั้นให้นำไม้ไผ่ลวกขนาดกลางหรือขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5 1 นิ้ว และความยาว22.5 เมตร เสี้ยมปลายไม้ให้แหลมและปักลง ไปข้างๆ ต้นมันพื้นบ้าน ปักให้แน่น ให้ห่างจากต้นมันประมาณ10 15 เซนติเมตร เพื่อให้ต้นมันเลื้อยพันขึ้นไป

การปลูกมันพื้นบ้านแบบแซมในสวนผลไม้หรือไม้ใหญ่
ฤดูปลูก การปลูกมันพื้นบ้านแซมในสวนไม้ผลนั้น ฤดูปลูกที่เหมาะสมคือ เดือนมิถุนายน กรกฎาคม ที่มีฝนตกชุก ถ้าต้นมันเจริญเติบโตดีแล้ว เกิดปัญหาปริมาณ น้ำฝนน้อย ต้องมีการให้น้ำช่วยบ้าง ต้นจึงจะเจริญเติบโตและให้ผลผลิตดี หรือเลือกปลูก ใกล้แหล่งน้ำ
การเตรียมดิน เหมือนการเตรียมดินปลูกผัก ต้องมี การกลับดินและย่อยดินให้ละเอียด แล้วตากดินไว้ประมาณ1 เดือน จากนั้นทำการยกร่องสูง30 40 ซม. ห่างกันแต่ละร่อง 1 เมตร

วิธีการปลูก
การปลูกโดยหัวเล็กๆ ต้องชำให้แตกยอดยาวประมาณ10 15 ซม. จึงจะย้ายลงแปลงปลูก โดยขุดหลุมลึก 10 15 ซม. ปลูกหลุมละ1 2 หัว แล้วกลบดิน พอมิดหัว ไม่กลบดินจนเต็มหลุม ใช้ไม้ไผ่ยาว2 เมตรเศษๆ ปักให้แน่นเพื่อให้ต้นมันเลื้อยพันได้ในฤดูฝนไม่จำเป็นต้องรดน้ำ แต่ถ้าฝนทิ้งช่วง ต้องรดน้ำจนกว่าต้นจะสามารถตั้งตัวได้
การกำจัดวัชพืช หลังปลูกต้องมี การกําจัดวัชพืชประมาณ12 ครั้ง และพรวนดิ นระหว่างแถว ในระยะต้นมันเจริญเติบโต ต้องกลบโคนต้นมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งดินเต็มหลุม

manmersearton

การใส่ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยคอกรองก้นหลุมก่อนปลูก ซึ่งพื้นดินที่ ปลูกมันส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ อุดมสมบูรณ์ อยู่ แล้ว การใส่ ปุ๋ยคอก เพิ่มเติมในระหว่างที่ต้นมันกำลังเจริญเติบโต จะทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น
การเก็บและรักษาหัวมัน มันมีอายุเก็บเกี่ยวประมาณ 6 7 เดือนขึ้นไป เมื่ อใบเริ่มเหลืองเหี่ยว แสดงว่ามั นเริ่มแก่ สามารถเก็บหั วได้แล้ว การเก็บหั วใช้วิธี ถอนขึ้นทั้งต้นหรือใช้เสียมขุด ควรขุดในช่วงที่ไม่มี ฝนขึ้นมา แล้วตัดใบและรากทิ้งเหลือแต่หัว ล้างให้สะอาดก็สามารถส่งขายได้

ที่มา
กลุ่มสื่อส่งเสริมการเกษตร สำนักพัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมส่งเสริมการเกษตร

ป้ายคำ :

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับหมวด ไม้ใต้ดิน

แสดงความคิดเห็น