ลองกอง เป็นไม้ผลยืนต้นขนาดกลาง เจริญเติบโตและให้ผลผลิตได้ดีในเขตที่มีสภาพอากาศร้อนชื้น ลองกองเป็นพืชที่ชอบร่มเงาและไม่ชอบลมแรง อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ในช่วง 25-30 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ของอากาศสูงประมาณ 75-85 % ดินควรมีค่าความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) ประมาณ 5.5-6.5 และที่สำคัญควรปลูกในพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้ง
ลองกอง เป็นลางสาดพันธุ์หนึ่ง เป็นชนิดที่เปลือกหนาและยางน้อย เชื่อว่าเป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดจากบริเวณหมู่เกาะมลายู อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และภาคใต้ของไทย เรียกได้หลายชื่อ อาทิ ลังสาด, ดูกู โดยชื่อ ลางสาด หรือ ลังสาด นั้นมาจากภาษามาเลย์ว่า langsat, ชื่อ ดูกู มาจากภาษาอินโดนีเซียว่า duku ส่วนชื่อ ลองกอง มาจากภาษายาวีว่า ดอกอง ลองกองเป็นผลไม้ที่ปลูกมากในภาคใต้ โดยเฉพาะ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ แหล่งผลิตที่สำคัญที่มีชื่อเสียง คือ ลองกอง ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เป็นแหล่งผลิตลองกองคุณภาพดี เป็นที่รู้จักทั่วประเทศ
ลองกองเป็นผลไม้ที่เจริญเติบโตและให้ผลผลิตดีในสภาพภูมิอากาศร้อนชื้น มีผลทรงกลม ติดผลเป็นช่อ ผลสุกเปลือกสีเหลือง เนื้อในสีขาวใส แบ่งเป็นกลีบ รสหวานหรืออาจอมเปรี้ยวเล็กน้อย และเนื่องจากลองกองไม่สามารถเก็บมาบ่มให้สุกได้ จึงต้องเก็บจากต้นในระยะเวลาที่เหมาะสม คือหลังจากผลเริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเขียวอมเหลืองประมาณ 15-25 วัน เคล็บลับในการแกะเปลือกลองกองคือใช้เล็บจิกตรงกลางก้นผล เพราะเปลือกจะบางกว่าและมียางน้อยกว่าตรงขั้วผล แล้วจึงค่อยฉีกเปลือกออกตามแนวยาวไปยังขั้ว
ลองกองเป็นผลไม้ที่นิยมกินผลสด มากกว่าจะนำไปแปรรูป คุณค่าสารอาหารที่จะได้รับจากการกินลองกอง ได้แก่ แคลเซียมและฟอสฟอรัสซึ่งจะทำงานร่วมกัน ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง จึงช่วยป้องกันสภาวะกระดูกพรุน วิตามินซีช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงสารคาเทชินซึ่งเป็นสารโพลีฟีนอลที่มีคุณสมบัติช่วยลดอาการอักเสบและลดระดับคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ลองกองยังมีแมกนีเซียม โพแทสเซียม ทองแดง รวมไปถึงเส้นใยอาหารด้วย
วงศ์: Meliaceae
สกุล: Lansium
ชนิด: L. domesticum
ลองกองมีสรรพคุณช่วยลดความร้อนในร่างกาย แต่ถ้ากินมากไปอาจทำให้เกิดอาการร้อนในได้ เนื้อหวาน ๆ ของลองกองมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง ช่วยให้พลังงานแก่ร่างกาย แต่ผู้ที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควรกินในปริมาณจำกัด ขณะที่เมล็ดสีเขียวของลองกองที่เราคายทิ้งนั้น คนโบราณใช้เป็นยาขับพยาธิ และปัจจุบันมีผู้นำไปใช้กำจัดและควบคุมหนอนและแมลงในแปลงผัก ด้วยวิธีบดเมล็ดให้ละเอียด 0.5 กิโลกรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร ทิ้งไว้ค้างคืน กรองเอาแต่น้ำ ผสมสารจับใบ แล้วนำไปฉีดพ่นตามแปลงผัก ส่วนเปลือกลองกองก็อย่าทิ้ง เพราะนำไปเผาไฟไล่ยุงได้
การผลิตลองกอง
1. พันธุ์ของลองกองแบ่งออกเป็น 3 พันธุ์
2. การเลือกต้นพันธุ์ลองกองที่จะนำมาปลูก
3. ต้นกล้าที่ปลูกควรมีอายุ 1-1.5 ปี และควรมีใบแก่ทั้งต้น เพราะจะทำให้ ลองกองสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี
4. หลังจากปลูกแล้วควรทำร่มเงาพรางแสง และควรคลุมโคนต้นด้วยเศษ หญ้าหรือใบไม้
5. การเลือกพื้นที่ปลูกควรเป็นดินร่วนระบายน้ำได้ดี น้ำไม่ท่วมขัง
6. ระยะปลูกที่เหมาะสม 4×6, 6×6 และ 6×8 เมตร ขึ้นอยู่กับสภาพของพื้นที่นั้น ๆ แต่แนวแถวควรอยู่ในแนวทิศเหนือ-ใต้เพื่อหลีกเลี่ยงการบังแสงจากต้นข้างเคียง
ขั้นตอนการปฏิบัติในสวนลองกอง
การปลูกและการดูแลรักษาลองกองก่อนออกดอก
การเตรียมพื้นที่ปลูก
การเตรียมต้นเพื่อปลูกและช่วงเวลาควรปลูก
การตัดแต่งกิ่งเพื่อสร้างทรงพุ่ม
การให้น้ำ
– การให้น้ำปีแรกที่ปลูกควรให้อย่างสม่ำเสมอ เมื่ออายุ 2-3 ปี ควรให้สัปดาห์ ละ 2 ครั้ง
การให้ปุ๋ย (ปุ๋ยอินทรีย์)
การกำจัดศัตรูพืช
ขั้นตอนการปฏิบัติ ในสวนลองกองที่ให้ผลผลิตแล้ว การจัดการลองกองช่วงให้ดอก ผล แล การเก็บผล
การดูแลรักษาลองกองก่อนออกดอกหรือหลังเก็บเกี่ยว
การตัดแต่งช่อดอก
ขั้นตอนการปลูกและปฏิบัติดูแลรักษาลองกอง
ระยะก่อนออกดอก (ระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์)
ระยะพัฒนาผล (ระหว่างเดือนมิถุนายน-สิงหาคม)
ระยะหลังเก็บเกี่ยว (ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม)
ระยะแทงช่อดอก (ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม)
ระยะเก็บเกี่ยว (ระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม)
ที่มา
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ป้ายคำ : ผลไม้