เมืองชาละวันระดมปราชญ์ชาวบ้านทุกสาขา ร่วมถ่ายทอดความรู้เศรษฐกิจพอเพียง สารพัดสาขาตามหลักกสิกรรมธรรมชาติ เดินหน้าเปิดหลักสูตรอบรมเกษตรกร ปลุกสำนึกรู้รักษ์พระแม่ธรณี แม่พระโพสพฯ ก่อนฝึกอาชีพต่อ
นายจักรภฤต บรรเจิดกิจ อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ 2 บ้านน้อย ต.สายคำโห้ อ.เมือง จ.พิจิตร ผู้ซึ่งทางราชการยกย่องให้เป็นปราชญ์ชาวบ้านเปิดเผยว่า หลังจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงให้แนวทางพสกนิกรปวงชนชาวไทยที่ทำอาชีพการเกษตร ให้เข้าสู่การทำไร่นาสวนผสมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียง และให้เรียนรู้กสิกรรมธรรมชาติเพื่อขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นางบุบผา อุ้ยเอ้ง เกษตรและสหกรณ์ จ.พิจิตร ได้เรียกปราชญ์ชาวบ้านที่ล้วนเป็นชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ และมีความรู้จากการปฏิบัติจริงให้มารวมตัวกัน เพื่อถ่ายทอดความรู้จากประสบการณ์จากรุ่นสู่รุ่น
โดยตั้งศูนย์เรียนรู้กสิกรรมธรรมชาติเพื่อขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงขึ้นที่บ้านพักกลางทุ่งนาของเกษตรกรที่เป็นปราชญ์ชาวบ้าน เลขที่ 48 หมู่ 2 ต.สายคำโห้ อ.เมือง จ.พิจิตร ภายใต้งบสนับสนุนเป็นค่าปรับปรุงอาคารหลังคามุงแฝก เพื่อใช้เป็นที่เรียนรู้ 80,000 บาท และให้งบประมาณในการจัดฝึกอบรมชาวบ้านและเยาวชนตลอดจนพี่น้องเกษตรกร อีก 9 รุ่น เป็นจำนวนเงิน 900,000 บาท ตั้งเป้าอบรมมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2553 ไปจนถึงพฤษภาคม 2553 รุ่นละ 40 คน ซึ่งมีผู้เรียนรู้วิชาต่างๆ จากปราชญ์ชาวบ้านไปแล้วเกือบ 300 คน
เขาบอกว่า หลักสูตรที่เปิดอบรมประกอบด้วย ฐานเรียนรู้ปลุกจิตสำนึกคนรู้รักษ์แม่พระธรณี แม่พระโพสพ แม่พระคงคา แม่พระพาย แม่พระเพลิง
นอกจากนี้ยังมีการสอนหลักสูตรการเลี้ยงไก่ชน ที่มีลุงสมควร สมเคราะห์ อยู่บ้านเลขที่ 45/1 หมู่ 2 ต.สายคำโห้ อ.เมือง จ.พิจิตร ซึ่งในอดีตเป็นนักพนันและเซียนไก่ชนตัวยง เป็นมือให้น้ำไก่ตามบ่อนไก่ต่างๆ มาแล้วหลายร้อยสังเวียน พออายุมากขึ้นก็เลิกการพนันมาเพาะเลี้ยงไก่ชนขาย มีไก่ราคาหลักร้อยถึงหลักหมื่น เป็นผู้ถ่ายทอด
ขณะที่ นางบังอร สีดา เกษตรกรปราชญ์ชาวบ้าน จากหมู่ 2 ต.ย่านยาว อ.เมือง จ.พิจิตร ที่ทำไร่นาสวนผสมและปลูกผักปลอดสารพิษขาย ประสบความสำเร็จจากการใช้น้ำส้มควันไม้ก็มาสอนวิชาคนเอาถ่าน คือ การเผาถ่านเพื่อสกัดเอาน้ำสมควันไม้ไปฉีดพ่นเป็นสารป้องกันแมลง และได้ถ่านไปเป็นพลังงานเชื้อเพลิง
นางสุวิมล ปานประสิทธิ์ ที่เรียนจบจากวิทยาลัยเกษตรพิจิตร แล้วก็ไปใช้ชีวิตชาวนา 100% ที่บ้านเกิด หมู่ 2 ต.ย่านยาว อ.เมืองพิจิตร ก็มาถ่ายทอดกรรมวิธีการใช้ปุ๋ยน้ำสกัดจากมูลสัตว์ที่ทำง่ายๆ แต่ได้ประโยชน์แร่ธาตุอาหารแก่พืช ลดการซื้อสารยูเรีย ซึ่งเป็นธาตุอาหารจำเป็นต่อพืช
เช่นเดียวกับนายคำสิงห์ ชัยมุต ปราชญ์ชาวบ้าน จากหมู่ 2 ต.หนองโสน อ.สามง่าม จ.พิจิตร ก็มาสอนและถ่ายทอดความรู้เรื่องการใช้สมุนไพร ในการกำจัดแมลงและศัตรูพืช เพื่อให้ผลผลิตออกมาเป็นพืชปลอดสารพิษ
รวมถึงนางสาวทัศนีย์ เลี่ยมแจง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ย่านยาว อ.เมือง จ.พิจิตร ผู้ซึ่งเป็นปราชญ์ชาวบ้านในการเลี้ยงหมูหลุม โดยหลักธรรมชาติหมูโตเร็วถ่ายมูลออกมาไม่เหม็น และสามารถนำมูลสุกรไปใช้เป็นปุ๋ยในไร่นาได้ และลุงณรงค์ น้อยตา อดีตข้าราชการบำนาญเคยเป็นครูโรงเรียนจุฬาภรณ์ พิษณุโลก แต่ใจรักการเกษตรและได้เป็นปราชญ์ชาวบ้าน นอกเหนือจากวุฒิปริญญาตรี คือ รู้ลึก รู้จริง ทำจริง เรื่องการเลี้ยงกบทั้งในบ่อธรรมชาติ บ่อปูน เลี้ยงกบคอนโดในยางรถยนต์ ลองผิดลองถูกจนสามารถถ่ายทอดความรู้สู่พี่น้องเกษตรกรได้ ก็มาร่วมเป็นทีมปราชญ์ชาวบ้านแบ่งปันความรู้สู่ชุมชนคนภูธร
ดังนั้น ถ้าพี่น้องเกษตรกรสนใจจะมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ดูงาน สามารถติดต่อได้ที่ โทร. 08-6461-6239, 08-1041-5883 ซึ่งศูนย์แห่งนี้มีวิชาการทำน้ำส้มควันไม้ การทำน้ำหมักสมุนไพรไล่แมลง และการทำฮอร์โมนน้ำชีวภาพ การขยายเชื้อจุลินทรีย์เห็ดโคนป่า การคัดเมล็ดพันธุ์ข้าว การทำปุ๋ยหมักเติมอากาศ การทำน้ำยาซักผ้า ล้างจาน สบู่แบบอเนกประสงค์ รวมถึง การเลี้ยงไก่พื้นเมือง เลี้ยงกบ เลี้ยงปลาดุก เลี้ยงไส้เดือน ฯลฯ
ป้ายคำ : ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ