สมุนไพรปรับสมดุล น้ำคลอโรฟิลล์สดจากธรรมชาติ

การดื่มน้ำสมุนไพร หรือน้ำคลอโรฟิลล์สดจากธรรมชาติ เพื่อปรับสมดุลในร่างกาย ช่วยถอนพิษขับของเสียต่าง ๆ ในร่างกาย ช่วยคุ้มครองเซลล์ และเพิ่มภูมิต้านทานที่ดีให้แก่ร่างกาย
คลอโรฟิลล์ คือ วัตถุสีเขียวของใบพืชช่วยในขบวนการสังเคราะห์แสงของพืช มีการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับคลอโรฟิลล์พบว่า โครงสร้างของคลอโรฟิลล์มีลักษณะเหมือนกับเม็ดเลือดแดงของมนุษย์ หลังจากการวิจัยนี้ได้มีการทดลองนำคลอโรฟิลล์ไปใช้อย่างกว้างขวางเช่น ใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, ยาสีฟัน, ขนมเบเกอรี่, ยา และ อื่นๆอีกมากมาย มี แร่ธาตุธรรมชาติมากมายประกอบไปด้วยสาร ต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน โปรตีน และสารอาหารต่างๆ ที่มีความจำเป็นต่อร่างกายปรับความเป็นกรดเป็นด่างในร่างกายของเรา มนุษย์ควรบริโภคคลอโรฟิลล์มากๆเพื่อมาเสริมฮีโมโกบิลในเม็ดเลือด ดังคำกล่าวที่ว่า เลือดพืชมีสีเขียว เลือดมนุษย์ มีสีแดง มนุษย์จะมีสุขภาพที่ดีได้เลือดจะต้องไม่มีพิษ จงล้างพิษด้วยพืชสีเขียว

กรณีที่มีภาวะร้อนเกิน ดื่มน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็น หรือที่เรียกว่า น้ำคลอโรฟิลด์สดจากธรรมชาติ/น้ำเขียว/น้ำย่านาง คลอโรฟิลด์สด

วิธีทำ ใช้ สมุนไพรฤทธฺ์เย็น เช่น
– ใบย่านางเขียว 5-20 ใบ
– ใบเตย 1-3 ใบ
– บัวบก ครึ่ง-1 กำมือ
– หญ้าปักกิ่ง 3-5 ต้น
– ใบอ่อมแซบ (เบญจรงค์) ครึ่ง-1 กำมือ
– ผักบุ้ง ครึ่ง-1 กำมือ
– ใบเสลดพังพอน ครึ่ง-1 กำมือ
– หยวกกล้วย ครึ่ง-1 คืบ
– ว่านกาบหอย 3-5 ใบ เป็นต้น
จะใช้อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกันก็ได้ โขลกให้ละเอียดหรือขยี้ ผสมกับน้ำเปล่า 1-3 แก้ว (บางครั้งอาจผสมน้ำมะพร้าว น้ำตาล น้ำมะนาว น้ำมะขาม ที่รสไม่จัดเกินไป เพื่อทำให้ดื่มได้ง่ายในบางคน) กรองผ่านกระชอน เอาน้ำที่ได้มาดื่ม ครั้งละประมาณ ครึ่ง-1 แก้ว วันละ 1-3 ครั้ง ก่อนอาหารหรือตอนท้องว่างหรือดื่มแทนน้ำตอนที่รู้สึกกระหายน้ำ ปริมาณการดื่มและความเข้มข้นของสมุนไพร อาจมากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้ ตามความต้องการของร่างกาย ณ เวลานั้น ๆ โดยดูความพอดีได้จากความรู้สึกที่กลืนง่าย ไม่ฝืดไม่ฝืนไม่พะอืดพะอมและความสบายตัว

กรณีที่ดื่มน้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นสดแล้วรู้สึกไม่สบาย ให้กดน้ำร้อนใส่น้ำสมุนไพรฤทธิ์เย็นหรือนำไปต้มให้เดือด ก่อนดื่ม หรืออาจนำสมุนไพรฤทธ์ร้อนมาผสมก่อนดื่มก็ได้ เช่น นำน้ำต้มขมิ้น/ขิง/ตะไคร้ มาผสม เป็นต้น หรืออาจดื่มสมุนไพรฤทธิ์ร้อนอย่างเดียวก็ได้ ถ้าดื่มแล้วรู้สึกสบาย

เมื่อ เราได้รับคลอโรฟิลล์เข้าไปในร่างกายก็เปลี่ยนสารคลอโรฟิลล์ให้เป็นสารตั้ง ต้นที่ตับ แล้วถูกส่งต่อไปสร้างเม็ดเลือดแดงต่อไขกระดูก ทำให้ปริมาณเม็ดเลือดแดงมากขึ้น ปกติพบว่าร่างกายมนุษย์เม็ดเลือดแดงจะถูกทำลายตลอดเวลาประมาณ 2-2.5 ล้านเซลล์ต่อวัน
ความรู้ดังกล่าวนำสู่การพัฒนาน้ำคลอโรฟิลล์เป็นเครื่องดื่มสีเขียวเพื่อสุขภาพ โดยแยกเป็น

  1. ระบบเลือด บำรุงเลือด ล้างพิษ ทำลายอนุมูลอิสระในเม็ดเลือด แก้โรคโลหิตจาง ลดความดันโลหิตสูง
  2. ระบบทางเดินอาหาร ล้างพิษโดยตรงในกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก สมานแผลในกระเพาะอาหาร กระตุ้นเนื้อเยื่อให้ฟื้นตัว
  3. บำรุงปาก ฟัน ระงับกลิ่นปาก โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการโรคเหงือกอักเสบ
  4. รักษาแผลต่างๆ ทำหน้าที่ฟื้นฟูเนื้อเยื่อของแผลทุกชนิดทั้งภายในและภายนอกร่างกาย
  5. ระงับกลิ่น กลิ่นเหม็นจากแผลเรื้อรัง แผลในช่องปาก กลิ่นอุจจาระที่รุนแรง การผายลม หรือกลิ่นตัวแรงมาก
  6. ควบ คุมสมดุลของแคลเซียมในผู้บริโภคเนื้อมากเกินไปซึ่งจะขาดความสมดุลของธาตุ แคลเซียม ทำให้ป่วยเป็นโรคกระดูกผุ โรคหัวใจ โรคกล้ามเนื้อ โรคผิวหนัง โรคเลือดไม่แข็งตัวเมื่อมีบาดแผล ประจำเดือนผิดปกติ
  7. ป้องกันโรคภูมิแพ้ เกิดจากการที่อากาศและอาหารเป็นพิษโดยสะสมติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน

การทำน้ำย่านาง คือ นำใบย่านางไปขย้ำกับน้ำ ทำให้สารสีเขียวในใบย่านางออกมากับน้ำ สารสีเขียวที่ออกมาเราเรียกว่า คลอโรฟิลล์ พืชทุกชนิดต้องมีคลอโรฟิลล์เพื่อสารสังเคราะห์แสงทำให้ต้นไม้เจริญเติบโต

สำหรับ ย่านาง เป็นพืชสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น ตัวใบ รับประทานถอนพิษ แก้ไข ตัวร้อน จากการทดลองใช้เป็นสิบปีของคุณหมอเขียวกับผู้ป่วย พบว่า ใบย่านางมีฤทธิ์เย็น ช่วยปรับสมดุล ช่วยฟื้นฟูเซลล์ บำบัดหรือบรรเทาอาการอันเกิดจากภาวะไม่สมดุลแบบร้อนเกิน

ใบย่านาง หาง่ายและเป็นพิชในเมืองไทย ราคาไม่แพง การที่เราทำเองจะได้พลังชีวิต มากกว่าการผ่านกระบวนการผลิตแบบสำเร็จรูป
การทำน้ำคลอโรฟิลล์จากใบย่านาง
-นำใบย่านาง15-20ใบ ล้างน้ำให้สะอาด เติมน้ำสะอาด1ลิตร
-ลงมือคั้นโดยขยี้ย่านางแบบเดียวกับซักผ้าเพื่อที่จะได้สี เขียวให้มากที่สุด จนใบขาว
-กรองด้วยผ้าสะอาด แยกกาก
-สำหรับผู้ที่ไม่ชินกับกลิ่นใบย่านาง สามารถใช้ใบเตยผสม
-ใบเตย1กำมือล้างให้สะอาดหั่นซอยบางๆ นำไปปั่นพร้อมกากย่านางเติมน้ำพอท่วม ปั่นพอละเอียด กรองด้วยผ้า แยกกาก นำกากไปใช้พอกตัวถอนพิษ น้ำใบเตยจะเทรวมกับน้ำย่านางก็ได้ เก็บใส่ตู้เย็นหรือถังน้ำแข็ง เวลาจะดื่มให้แบ่งใส่แก้ว ผสมน้ำไม่ข้นเกินไป ควรดื่มเป็นสิ่งแรกก่อนอย่างอื่นเพื่อคุ้มครองเซลล์ แล้วรับประทานอาหารตามลำดับ

สำหรับผู้ที่เริ่มดื่มน้ำคลอโรลฟิลล์ จากใบย่านาง
1 ปรับความเข้มข้นของน้ำคลอโรลฟิลล์ให้เจือจาง ลงด้วยการเติมน้ำเปล่าผสมให้มากขึ้น สามารถทำได้ดังนี้ คือ น้ำคลอโรลฟิลล์เข้มข้น 2 ส่วนต่อน้ำ 8 ส่วน ทดลองทานดูว่า ยังอ่อนเพลียหรือไม่ เพราะผู้ที่เริ่มทานใหม่ บางท่าน ต้องเริ่มดื่มแบบเจือจางก่อน
2. หากเจือจางแล้วยังไม่หาย ให้กดน้ำร้อนผสมให้อุ่น แล้วจึงค่อยดื่ม

เทคนิคการรับประทานอาหาร ในมื้อหลัก 1 มื้อ ใน 1 วัน อาจเป็นช่วงเช้าหรือเที่ยงก็ได้ มีตามลำดับ คือ
ลำดับที่ 1 ดื่มน้ำสมุนไพรปรับสมดุล เช่น น้ำย่านาง ฯลฯ
ลำดับที่ 2 รับประทานผลไม้ฤทธิ์เย็น เช่น กล้วยน้ำว้า แก้วมังกร กระท้อน สับปะรด ส้มโอ ชมพู่ มังคุด แตงโม แตงไทย ฯลฯ
ลำดับที่ 3 รับประทานผักฤทธิ์เย็นสด เช่น อ่อมแซบ(เบญจรงค์) ผักบุ้ง แตง กว้างตุ้ง สายบัว ผักกาดฮ่องเต้ ผักกาดขาว ผักสลัด
ลำดับที่ 4 รับประทานข้าวจ้าวพร้อมกับข้าว โดยรับประทานข้าวกล้องหรือข้าวซ๋อมมือ ควรงดหรือลดคาร์โบไฮเดรท ที่มีฤทธิ์ร้อนมาก เช่น ข้าวเหนียว ข้าวแดง ข้าวดำ(ข้าวก่ำ ข้าวนิล) ข้าวอาร์ซี ข้าวสาลี ข้าบาเลย์ เผือก มัีน กลอย
ลำดับที่ 5 รับประทานต้มถั่วหรือธัญพืชฤทธิ์เย็น เช่น ถั่วขาว ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา ถั่วโชเล่ย์ขาว ลูกเดือย

กรณีที่มีภาวะเย็นเกินแทรกขึ้นมา
ให้กดน้ำร้อนใส่สมุนไพรฤทธิ์เย็นหรือตั้่งไฟให้ร้อนก่อนรับประทาน ลดหรืองดสิ่งที่มีฤทธิ์เย็นรับประทานผักหรืออาหารผ่านไฟให้มากขึ้น เพิ่มสิ่งที่มีฤทธฺ์ร้อนเข้าไป ตามสภาพร่างกายที่รับประทานแล้วรู้สึกสบาย

ป้ายคำ :

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับหมวด สมุนไพร

แสดงความคิดเห็น