หญ้ากกดอกขาวเป็นกกที่มีอายุยืนหลายปี ลำต้นอยู่ใต้ดิน เลื้อยทอดขนานไปกับพื้นผิวดิน ชูส่วนยอด มีกาบหุ้มลำต้น มีระบบรากเป็นระบบรากฝอยออกตามข้อ ของลำต้นใต้ดิน ส่วนของลำต้นที่ชูช่อดอกจะมีรูปร่าง เป็นสามเหลี่ยม ที่ฐานของช่อดอกมีแผ่นรองดอก มีสีเขียวคล้ายใบ ดอกย่อย 2 ดอก คือดอกด้านล่างจะมีกาบ (glume) สีเขียวใส ผลลักษณะแบน กลมรี เป็นสมุนไพรห้ามเลือด แก้ริดสีดวงทวาร บิด แก้ไข้ ท้องอืด แก้หืด ปวดศีรษะ ตาแดง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Kyllinga brevifolia Rottb.
วงศ์ : CYPERACEAE
ชื่ออื่น ๆ : หญ้าหัวโม่ง (สุราษฏร์ธานี) , จุยโงวซัง (จีน-แต้จิ๋ว)
ลักษณะ
การขยายพันธุ์ : เป็นพรรณไม้ที่มักขึ้นเอง ตามบริเวณที่ชื่นแฉะทั่วไป
ขยายพันธุ์ด้วยการใช้เมล็ด แพร่กระจายพันธุ์ด้วยเมล็ด และส่วนของลำต้นใต้ดิน ซึ่งจะเลื้อยแผ่ขยายออกไป
ส่วนที่ใช้ : ทั้งลำต้น และเหง้า
สรรพคุณของสมุนไพร
ทั้งลำต้นและเหง้า ใช้แห้งประมาณ 12-18 กรัม (สดประมาณ 30-60 กรัม) นำมาต้ม หรือคั้นเอาน้ำกินเป็นยาแก้โรคบิด ถ่ายเป็นมูกเลือด แก้ไข้ ไอ เจ็บคอ หลอดลมอักเสบ ไอกรน ไข้มาลาเรีย ปวดข้อ ปวดกระดูก โรคดีซ่าน ตับอักเสบ อืดแน่นท้อง ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ หรือใช้ภายนอก นำมาต้มเอาน้ำ หรือตำพอกบริเวณแผลมีหนองบวมอักเสบ แผลเจ็บจากการหกล้ม ผิวหนังเป็นผลผื่นคัน แผลมัดบาด กระดูกหัก และพิษงูกัด เป็นต้น
ข้อมูลทางคลีนิค :
1. จากผู้ป่วยที่มีอาการปัสสาวะขุ่นขาว คล้ายน้ำนม จำนวน 100 คน มีการรักษาด้วยการใช้เหง้าแห้ง และเนื้อผลลำไยแห้ง ในปริมาณเท่ากัน อย่างละ 60 กรัม นำมาต้มเอาน้ำกินติดต่อกันนาน 15 วัน ผลปรากฏว่าคนไข้มีอาการดีขึ้น
2. จากคนป่วยที่เป็นโรคบิดแบคทีเรียจำนวน 70 คน ได้ให้มีการรักษาโดยการใช้ทั้งลำต้นสด และเถาเครือเขาปูนสด ใช้ในปริมาณที่เท่ากัน อย่างละ 30 กรัม ต้มเอาน้ำแบ่งกินเป็น 2 ครั้ง ให้กินติดต่อกันนาน 1 สัปดาห์ ผลปรากฏว่า มีผู้ป่วยมีอาการหายขาดเลย 45 คน อาการดีขึ้น 14 คน ไม่ได้ผลเลย 2 คน
ป้ายคำ : หญ้า