หมามุ่ยที่นำมาจากประเทศอินเดีย (หมามุ่ยสายพันธุ์อินเดีย) ดังกล่าวมีชื่อว่า Mucuna pruriens (L)DC. Var Utilis หรือถั่วเวลเวท (Velvet bean) ซึ่งลักษณะลำต้นจะมีความคล้ายกับหมามุ่ยสายพันธุ์ไทยแต่แตกต่างที่ลักษณะของเมล็ดที่มีขนาดใหญ่ ขนสั้น และที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนคือไม่มีความคันเวลาสัมผัสมีเมล็ดสี 2 ลักษณะ คือ เมล็ดหมามุ่ยสีขาวและเมล็ดหมามุ่ยสีดำ ส่วนหมามุ่ยสายพันธุ์ไทยนั้นจะมีฝักขนาดเล็กและขนฝักมีขนาดยาวและจะมีความคันเมื่อสัมผัสถูกขนฝัก โดยหมามุ่ยสายพันธุ์ไทยจะมีทั้งเมล็ดหมามุ่ยที่มีขนาดเล็กและและเมล็ดหมามุ่ยขนาดใหญ่ แต่เมล็ดจะมีสีดำแค่เพียงสีเดียว
ชื่อวิทยาศาสตร์ Mucuna pruriens(L.) DC.
ชื่อวงศ์ FABACEAE
จากรายงานทางการแพทย์มีการนำหมามุ่ยมาทดลองในสัตว์พบว่าสารธรรมชาติในหมามุ่ยทาให้สมรรถภาพทางเพศดียิ่งขึ้นเพิ่มความถี่ในการผสมพันธุ์ในสัตว์ได้เป็นสิบเท่ารวมไปถึงการยืดระยะเวลาในการมีเพศสัมพันธุ์ ชะลออาการหลั่งเร็วและเพิ่มปริมาณฮอร์โมนทางเพศได้
ในปี 2550 K.K.Shukla รายงานการวิจัยที่ทดลองในผู้ชายอินเดีย 75 คนโดยผู้เข้าร่วมทดลองเหล่านี้ประสบกับปัญหาการมีบุตรยาก เนื่องจากภาวะความเครียดพบว่าหลังจากให้เม็ดหมามุ่ยทานในปริมาณ 5 กรัมต่อวันนำน 3 เดือนระดับความเครียดลดลงและคุณภาพปริมาณของ น้าอสุจิ-น้าเชื้อ เพิ่มขึ้น
ความแตกต่างระหว่างหมามุ่ยอินเดียกับไทย
หมามุ่ยสายพันธุ์อินเดียซึ่งลักษณะต้นมีลักษณะคล้ายกับหมามุ่ยของไทยแต่แตกต่างที่ลักษณะฝักและเมล็ด ที่มีขนำดใหญ่และขนสั้นและไม่คันเวลาสัมผัสมีเมล็ดสี2 ลักษณะ คือ สีขาวและสีดา แต่หมามุ่ยไทยมีฝักขนำดเล็กและขนฝักขนำดยาวและคันเวลาสัมผัสขนฝัก มีทั้งเม็ดเล็กและใหญ่แต่มีสีดาเพียงสีเดียว
หมามุ่ยไทยเป็นคนละสปีชีส์กับหมามุ่ยในจีนและอินเดียที่มีผลวิจัยรับรอง ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์จาก ฝั่งประเทศจีนและอินเดียเมล็ดหมามุ่ยมีสารที่เพิ่มสมรรถภาพทางเพศของผู้ชายได้จริง แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ หมามุ่ยในจีนและอินเดียเป็นหมามุ่ยคนละสปีชีส์กับหมามุ่ยที่ขึ้นอยู่ในประเทศไทย ดังนั้นจึงอยากฝากเตือนไปยังผู้ที่กาลังสนใจและต้องการจะกินเมล็ดหมามุ่ยว่า อย่ากินแบบสุ่มสี่สุ่มห้าเพราะไม่แน่ใจว่าเมล็ดที่นำมากินนั้นเป็นหมามุ่ยสปีชีส์ใด อาจมีผลข้างเคียงอันตราย
สรรพคุณของหมามุ่ยอินเดีย
ป้ายคำ : สมุนไพร