ต้นอ้อดิบ (ต้นคูน) พืชตระกูลบอน

2 กรกฏาคม 2556 พืชผัก 4

อ้อดิบ คือ ต้นคูนของภาคกลาง เวลาใช้ปรุงอาหารให้ลอกเยื่อบาง ๆ ออก แล้วหั่นเป็นท่อนคล้ายสายบัว อ้อดิบ มีชื่ออื่นอีก เช่น คูน (ภาคกลาง) โหรา อ้อดิบ(นครศรีธรรมราช)

ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Colocasia gigante Hook. f. อ้อดิบ(คูน) เป็นไม้ล้มลุกอยู่ในวงศ์ Araceae และอยู่ในสกุล Colocasia เช่นเดียวกับบอน เป็นผักชนิดหนึ่งชึ่ง ลักษณะคล้ายบอน ชาวบ้านจะปลูกไว้กินริมรั้ว หรือข้างบ้าน ชอบ ขึ้นบริเวณที่มีน้ำแฉะ นำมาทำอาหารได้ทั้งคาวและหวาน อ้อดิบที่นำมาทำเป็นอาหารส่วนมากจะใช้แกงส้ม และยำ

ชื่อสามัญ GIANT Elephant Ears
ชื่อวิทยาศาสตร์ Colocasia gigantea Hook.f
ชื่ออื่น Green Taro ภาคกลางและภาคอิสานเรียกว่า ทูน คูน หัวคูณ ภาคเหนือเรียกว่า ตูน ภาคใต้เรียกว่า เอาะดิบ ออกดิบ ออดิบ นครศรีธรรมราช-ยะลา เรียก ออดิบ ชุมพรเรียกว่า กะเอาะขาว ประจวบคีรีขันธ์เรียกว่า บอน กาญจนบุรีเรียกว่า กระดาดขาว
ถิ่นกำเนิด แถบอเมริกากลางและใต้

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
คูนเป็นพืชตระกูลบอน มีหัวอยู่ใต้ดิน ใบเป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่ รูปร่างเป็นลูกศร มีนวลเคลือบแผ่นใบก้านใบยาวกลมมีนวลเคลือบ คูนมี 2 ชนิด คือ ชนิดสีเขียวอ่อน ใบมีสีเขียวอ่อน ก้านใบสีเขียวอมขาว ชนิดสีม่วง ใบและก้านใบสีม่วง ออกดอกเป็นช่อเชิงลด มีกาบหุ้ม ก้านช่อดอกกลมยาว มีกาบหุ้มจนมิด เมื่อดอกยังไม่บาน ช่อดอกทรงกระบอก กลุ่มช่อดอกเพศผู้อยู่ด้านบน ตรงกลางกลุ่มช่อดอกไม่มีเพศ ช่อดอกเพศเมียอยุ่ด้านล่าง
ฤดูกาล ก้านและใบออกตลอดปี

koonko

การกิน กินก้านที่โตเต็มที่เป็นผัก โดยลอกเอาเปลือกเขียวที่หุ้มอยู่ออก กินเป็นผักสดจิ้มน้ำพริก แกล้มแกงรสจัด ส้มตำ ใบอ่อนและก้านชาวเหนือนำไปแกงส้มใส่ปลา ปรุงเป็นผักในแกงแคหรือแกงกะทิ ชาวใต้นิยมนำก้านไปแกงเหลืองใส่ปลา

สรรพคุณทางยา ลำต้นใต้ดิน สุมเป็นถ่ายแก้พิษไข้ พิษร้อน พิษตานซาง ลำต้นใต้ดินสด รักษาแผล กัดฝ้า กัดหนอง แก้โรคเถาดานในท้อง ภาคเหนือใช้ผลสดฝนผสมกับน้ำผึ้งกินละลายเสมหะ

ข้อควรรระวังในการเลือกบริโภคพืชตระกูลบอน
พืชตระกูลบอนเป็นพืชที่นิยมนำมาประกอบอาหารประเภทต่างๆ เช่น แกง ยำ ลวก หรือบางรายก็กินดิบๆ แต่เนื่องจากพืชตระกูลบอนมีหลากหลายสายพันธุ์มีทั้งชนิดที่รับประทานได้และรับประทานไม่ได้ มีลักษณะใบและก้านที่ล้ายคลึงกัน ดังนั้น เราจึงได้ยินอยู่บ่อยๆว่า ผู้ที่บริโภคพืชดังกล่าวเข้าไปแล้วต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เนื่องจากได้รับสารพิษที่มีผลึกแคลเซียมออกซาเลท (Calcium oxalate) ที่มีลักษณะเป็นรูปเข็ม ไม่ละลายน้ำ ซึ่งอยู่ในพืชตระกูลบอน ชนิดที่รับประทานไม่ได้เข้าไปนั่นเอง

koonlek

  • พืชตระกูลบอนชนิดที่รับประทานได้ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Colocasia indicaHassk. Colocasia gigantea Hook.f. ภาษาท้องถิ่นเรียก ออดิบ ออกดิบ (ภาคใต้) คูน (ภาคกลาง) กระดาดขาว ตูน (ภาคเหนือ)
  • สำหรับชนิดที่รับประทานไม่ได้ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Alocasiamacrorhiza Schott ภาษาท้องถิ่นเรียก โหรา เอาะลาย (สงขลา ยะลา) กระดาดดำ (กาญจนบุรี)ความแตกต่างระหว่างพืชตระกูลบอนชนิดที่รับประทานได้ (ออดิบ) และชนิดที่รับประทานไม่ได้ (โหรา) ที่สังเกตได้ชัดคือ โหรา มีลักษณะใบที่ใหญ่ สีเขียวเข้มและหนากว่าใบของออดิบ ซึ่งมีใบขนาดค่อนข้างเล็ก และบางกว่า มีสีเขียวอ่อนกว่าก้านใบของออดิบมักจะมีสีนวลขาว

koonnor
อาการพิษ

หลังจากรับประทานแล้ว จะมีอาการระคายเคืองในลำคอ ปากและลิ้น ทำให้ลิ้นแข็ง ไม่สามารถพูดได้

ข้อแนะนำในการนำพืชตระกูลบอนมาบริโภค

  1. ต้องมั่นใจว่า พืชดังกล่าวเป็นชนิดที่กินได้ (ออดิบ/คูน) หากไม่มั่นใจว่าเป็ยชนิดที่กินได้หรือไม่ ให้ปรึกษาผู้ที่รู้จักลักษณะของพืชดังกล่าว
  2. ไม่ควรนำออดิบ/คูน ที่ไม่ได้ปลูกเอง หรือที่ขึ้นเองตามธรรมชาติมารับประทาน
  3. หากรับประทานอาหารที่ปรุงด้วยพืชตระกูลบอนแล้วรู้สึกผิดปกติ มีอาการระคายเคืองปาก ลิ้นและลำคอ หรือมีอาการปวดแสบปวดร้อน ให้คายทิ้ง แล้วรีบล้างปากแล้วดื่มนมเย็นหรือไอศกรีม เพื่อลดอาการระคายเคืองเฉพาะที่ และรับประทานยาลดกรด ครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ ทุกๆ 2 ชั่วโมง และหยุดรับประทานอาหารดังกล่าว แล้วไปพบแพทย์ทันที

อย่างไรก็ตาม พืชตระกูลบอนบางชนิด มีสรรพคุณทางสมุนไพร เช่น บอนเขียว บอนจีนดำ บอนน้ำ สามารถใช้หัวเป็นยาระบาย ขับปัสสาวะในน้ำนม และอีกหลายสายพันธุ์ที่มีลักษณะสวยงาม นิยมนำมาตกแต่งสวน
จึงพอสรุปได้ว่า พืชตระกูลบอนนั้น มีประโยชน์ต่อคนแต่การนำไปรับประทานต้องระมัดระวังสายพันธุ์ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพด้วย

ยำอ้อดิบ เป็นอาหารที่ทำกินกันในจังหวัดสงขลา พัทลุง และนครศรีธรรมราช เป็นอาหารที่มีราคาถูก ทำง่าย กินกับข้าวสวย ทั้ง 3 มื้อ หรือเป็นกับแกล้มปัจจุบันยังมีที่ทำกินอยู่บ้าง
koonton

ฝักแก่ เนื้อสีน้ำตาลดำและชื้นตลอดเวลา มีรสหวาน สามารถใช้เป็นยาระบายได้ โดยนำฝักมาต้มกับน้ำ และเติมเกลือเล็กน้อย ดื่มก่อนนอนหรือก่อนรับประทานอาหาร นอกจากนั้น ฝักแก่ยังมีสารที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทของแมลง เมื่อนำฝักมาบดผสม น้ำแช่ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน สารละลายที่กรองได้สามารถฉีดพ่นกำจัดแมลงและหนอน ในแปลงผักได้ ฝักแก่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการหุงต้มด้วยเตาเศรษฐกิจ มีขนาดที่พอเหมาะ

ไม่ต้องผ่า เลื่อยหรือตัด เนื้อของฝักแก่ใช้แทนกากน้ำตาลในการทำหัวเชื้อจุลินทรีย์และ จุลินทรีย์ขยาย ฝักอ่อน สามารถใช้ขับเสมหะได้ ใบสามารถนำมาใช้ในการฆ่าเชื้อโรคได้ และดอก แก้แผลเรื้อรัง

แกงส้มปลากดต้นอ้อดิบ/แกงเหลืองปลากะพงกับต้นคูน
แกงส้ม เป็นแกงที่นิยมรับประทาน มีรสเปรี้ยว เค็ม หวานนิดหน่อยใช้ผักที่มีตามท้องถิ่นนั้น ๆ ผักที่นิยมใช้แกงส้ม เช่น ผักบุ้ง ผักกระเฉดดอกแค กะหล่ำปลี หน่อไม้ดอง ฯลฯ ส่วนเนื้อสัตว์ที่นำ มาใช้กับแกงส้มมีปลา กุ้งน้ำจืดและกุ้งน้ำเค็ม บางทีก็ใช้หอยแทนกุ้ง แกงส้มเป็นแกงที่ปรุงรสสามรสน้ำแกงที่ให้รสชาติอร่อยพอดีทั้งสามรสจะทำได้ยากกว่าแกงชนิดอื่นไม่เปรี้ยวจนเกินไป หรือเค็มขึ้นหน้า หรือมีรสหวานนำควรปรุงให้กลมกล่อมทั้งสามรส แกงส้ม ใช้เครื่องปรุง โขลกกับพริกสด (จะใช้พริกชี้ฟ้าหรือพริกขี้หนูก็ได้) ละลายน้ำแกงแลวตั้งหม้อจนเดือด ใส่ปลา ลงไป (ไม่นิยมใช้น้ำแกงข้น คือ โขลกปลาลงไปด้วย)ฉีกใบ มะกรูดใส่ บีบมะนาว ใส่น้ำตาลเล็กน้อย หลังจากใส่ผัก (มักใช้ผักบุ้งต้มจนนุ่ม พร้อมกับใส่ปลา) ยกมารับประทานขณะร้อน ๆ จึงจะต้องโฉลก ข้าวสวยก็ต้องร้อน ๆ(เนื่องจากปลามีความคาว จึงต้องใส่ผิวมะกรูดโขลกลงไปด้วย บางทีก็ใช้น้ำมะกรูดผสมกับน้ำมะนาวเพื่อให้เปรี้ยวนำหน้า

koonhan
เครื่องปรุง

  1. เนื้อปลากะพง 1 ชาม
  2. พริกแกงส้มปักษ์ใต้ 2 ช้อนโต๊ะ
  3. อ้อดิบ(ก้านคูน)หั่นเป็นชิ้น 2 ก้าน
  4. ใบมะกรูด 5 ใบ
  5. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  6. น้ำซุปต้มกระดูก 1 หม้อ

koonkangsom

วิธีทำ

  1. ล้างอ้อดิบด้วยน้ำส้มสายชูให้หมดเมือกคันแล้วสะเด็ดน้ำให้แห้ง
  2. ต้มน้ำซุปให้เดือดแล้วใส่พริกแกงส้มละลายให้เข้ากัน
  3. ใส่น้ำตาลให้ออกรสหวานนิดๆ จึงใส่อ้อดิบลงต้มจนน้ำแกงเข้าเนื้ออ้อดิบ
  4. ใส่ปลากะพงแล้วปิดฝาต้มจนน้ำเดือดจึงช้อนฟองทิ้ง (ห้ามคนเนื้อปลาน้ำแกงจะคาว)
  5. ฉีกใบมะกรูดใส่ตักใส่ชามกินกับข้าวสวยร้อนๆ หร่อยจังหู้

ป้ายคำ :

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับหมวด พืชผัก

4 ความคิดเห็น

  1. คนผ่านมา
    บันทึก ธันวาคม 5, 2557 ใน 22:15

    คนอีสานเรียก คูน ??? แล้ว ราชพฤกษ์ นี่ที่อีสานเรียกอะไร เออ คนลาวอีสานนี่พยายามบิดเบือนชาติกำเนิดตัวเองเหลือเกิน ขอให้ฉันมีอะไรเหมือนภาคกลางหน่อยเหอะ จะได้ลดความเป็นลาวลงบ้าง “บักหล้าไปตัดต้นคูนมาใส่แกงปาแหน่” สงสัยบักหล้าไปโค่นต้นคูนที่มันเคยนั่งเป่าแคนใต้ต้นทุกวันแน่ๆ แล้วไอ้ที่ให้ตัดมาใส่แกงปลานั้นจะเรียกว่าอะไร ทูน ครับ ทูน ไม่ใช่คูน

  2. คนลาวอีสานครับ
    บันทึก พฤษภาคม 24, 2559 ใน 21:44

    อีสานบ้านเราเรียกทูนนะครับไม่ใช่คูน

  3. บันทึก มกราคม 25, 2018 ใน 22:24

    จากใจคนใต้นะครับ แกงส้มไม่ใส่ใบมะกรูดเน้อ

  4. เท่ง พุงแลนลน
    บันทึก พฤษภาคม 7, 2018 ใน 18:22

    แกงเหลือง (แกงส้มใต้)ไม่ใช้ น้ำซุปหรือใบมะกรูดหรอก ที่มันกลมกล่อมเพราะ……. . กะปิ…….(เคย)…..

แสดงความคิดเห็น