สถานที่นี้ใช้เป็นจุดเรียนรู้วิสาหกิจชุมชนของจังหวัดลพบุรี และเป็นที่ตั้งเครือข่ายกสิกรรมไร้สารพิษละโว้ธานี และโรงงานแปรรูปข้าว โรงงานผลิตอุปกรณ์ทางการเกษตร ฯลฯ
อาจารย์ เชาว์วัช หนูทอง จบมหาบัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์ (วิศวกรรมโยธา) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ พลิกผันชีวิตจากวิศวกรและอาจารย์วิทยาลัยเทคนิค ลพบุรี เข้าร่วมสมาชิกเครือข่ายกสิกรรมไร้สารพิษละโว้ธานี จ.ลพบุรี ทำการศึกษาเกษตรแบบอินทรีย์เป็นการเรียนรู้ การผลิตปุ๋ยอินทรีย์เพื่อใช้แทนปุ๋ยเคมีในการเกษตร ด้วยความเข้าใจถึงปัญหาของเกษตรกรในปัจจุบัน ทำให้อาจารย์เชาว์วัชผลิตปุ๋ยอินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพสูง และสามารถจำหน่ายปุ๋ยอินทรีย์ที่มีคุณภาพ แต่มีราคาถูกแก่เกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรสามารถทำการเกษตรอินทรีย์แบบไม่ต้องพึ่งพาปุ๋ยเคมี และมีผลผลิตที่ดีได้ อาจารย์เรียนรู้การทำปุ๋ยอินทรีย์ตั้งแต่ระดับพื้นฐานทดลองทำปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด ปุ๋ยอินทรีย์ปั้นเม็ด ศึกษาเรื่องของวัตถุดิบในการทำสูตรต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ รวมทั้งในการออกแบบเครื่องทำปุ๋ยอัดเม็ดแต่ละรูปแบบ จากการสะสมประสบการณ์ดูงาน เก็บข้อมูลในการผลิตปุ๋ยมากมาย
การทำนาโยน การทำนาแบบต้นเดี่ยว การใช้แหนแดงในนาข้าว และการผลิตพืชผักอินทรีย์ต่างๆ
การทำน้ำส้มควันไม้ ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง เป็นต้น
โดยทำการเพาะปลูกบนพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ แบ่งเป็นนาข้าว 90 ไร่ ปลูกพืชผัก10 ไร่ ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปีทำการปลูกพืชต่างๆ ปรากฏว่าได้ผลดีทำให้มีคนมาขอศึกษาดูงาน จึงเปิดเป็นศูนย์ศึกษาเรียนรู้ถ่ายทอดความรู้การทำเกษตรอินทรีย์พร้อมทำการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการแปรรูปพืชผลและปุ๋ยอินทรีย์ที่คิดสูตรขึ้นเอง
อาชีพหลักของผมตอนนี้ คือการผลิตปุ๋ยอินทรีย์จำหน่ายวันละไม่ต่ำกว่า 100 ตัน มีรายได้วันละประมาณ 500,000 บาท รวมถึงผลิตเครื่องจักรผลิตปุ๋ยอินทรีย์ส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ก็มีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากพืชผลการเกษตรต่างๆ โดยเฉพาะน้ำมันสกัดด้วยกรรมวิธีบีบเย็น เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะรุม น้ำมันมะพร้าว น้ำมันงา และน้ำมันเมล็ดทานตะวัน รวมถึงข้าวกล้องหอมนิล สินค้าเหล่านี้สามารถจำหน่ายได้วันละประมาณ 40,000-50,000 บาท
การทำนาโยนกล้า นับเป็นนวัตกรรมใหม่ในการทำนาที่จะช่วยประหยัดต้นทุน ทั้งเรื่องของเมล็ดพันธุ์ข้าว ไม่ต้องพึ่งสารเคมีในการกำจัดวัชพืชและแมลง เพราะนาโยนกล้าสามารถควบคุมหญ้าได้ รวมทั้งมีปัญหาเรื่องศัตรูพืชน้อย ผลผลิตที่ได้จากนาโยนนกล้าไม่แตกต่างจากการทำนาหว่านมากนัก บางครั้งอาจจะได้มากกว่าด้วยซ้ำไป จึงเป็นรูปแบบการทำนาอินทรีย์ที่เริ่มได้รับความสนใจจากชาวนาอย่างกว้างขวาง
สำหรับทำนาอินทรีย์นั้น ปัจจัยการผลิตที่สำคัญก็คือ ปุ๋ยอินทรีย์ แต่เคล็ดลับในการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกข้าวปลอดสารเคมี ก็คือ จะทำอย่างไร เมื่อใช้ปุ๋ยอินทรีย์แล้วได้ผลผลิตข้าวที่สูง ไม่ด้อยไปกว่าการใช้ปุ๋ยเคมีที่ชาวนาคุ้นเคย ปุ๋ยอินทรีย์ที่จะนำมาปลูกข้าวจึงต้องมีประสิทธิภาพสูง ชาวนาก็จะได้ประโยชน์สองต่อ คือลดต้นทุนและได้ผลผลิตสูง จึงอยู่ในส่วนผสมปุ๋ยอินทรีย์ที่จะปลดปล่อยธาตุอาหารให้แก่ต้นข้าวได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ รวมทั้งเทคนิคการปั้นเม็ดที่ใช้ได้อย่างสะดวกเหมือนกับการที่ชาวนาคุ้นเคยใช้ปุ๋ยเคมี หน่วยงานรัฐและเอกชนส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกรหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ปั้นเม็ดแทนปุ๋ยเคมี
การใช้สมุนไพรและสารธรรมชาติเพื่อใช้ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชและโรคพืช ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการปลูกข้าวอินทรีย์ปลอดสารเคมี สมุนไพรอาจเป็นคำตอบแก่เกษตรกรได้ระดับหนึ่งแต่การใช้จุลินทรีย์ในการป้องกันจำกัดแมลงและโรคพืชนั้น มีประสิทธิภาพมากกว่า ทำให้ชาวนาและเกษตรกรหันมาให้ความสนใจศึกษาหาความรู้และประยุกต์ใช้จุลินทรีย์เพื่อป้องกันและกำจัดแมลงและโรคพืช
ที่อยู่ 134 หมู่ 2 ตำบล ท่าวุ้ง อำเภอ ท่าวุ้ง จังหวัด ลพบุรี 15150
อาจารย์ เชาว์วัช หนูทอง : 089-8011394
ติดต่อ-สอบถาม : 081-309919 , 089-1143099
E-mail : pigs.c@hotmail.com
http://www.applyorganic.com
ป้ายคำ : นาข้าวอินทรีย์, เกษตรอินทรีย์