เทศบาลตำบลเมืองแกลง ได้รับการแต่งตั้งจาก UN-HABITAT , สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ให้เป็น “ศูนย์ประสานงานเครือข่ายการเรียนรู้ ด้านการจัดการเมืองและสิ่งแวดล้อม ประจำภาคตะวันออก” (Eastern Regional Coodinating Center) ภายใต้โครงการส่งเสริมธรรมาภิบาลภาคเมืองและสิ่งแวดล้อม เพื่อรอบรับแผนการกระจายอำนาจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ณ วันพุธที่ 26 กันยายน 2550
วิสัยทัศน์เมืองแกลง : เมืองแกลงเป็นเมืองน่าอยู่ เชิดชูคุณธรรม เศรษฐกิจก้าวล้ำ บริการเป็นเลิศ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สืบสานวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น
ฐานต่างๆ ในศูนย์ประสานงานฯ เป็นตัวช่วย/เครื่องมือในการกำจัด/คัดแยกขยะ เพื่อนำไปเป็นอาหาร หมักทำปุ๋ย ฯลฯ ฐานต่างๆ มีดังนี้
1. ฐานโรงคัดแยกขยะ (Conveyor Sorting Garbage Plant)
สายพานเปรียบเสมือน สายใยชีวิตที่หล่อเลี้ยงสิ่งมีชีวิตต่างๆ ภายในศูนย์ฯ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของศูนย์ฯ ซึ่งทางเทศบาลฯ ได้รับเงินทุนเริ่มต้นมาจำนวน 40,000 บาท ก็ได้ซื้อสายพานมือสอง มาจากโรงงานไม้ยาง ซึ่งสามารถรองรับขยะก่อนการคัดแยกได้ประมาณ วันละ 7 – 8 เที่ยวรถขยะ ซึ่งปัจจุบัน เราได้ซื้อสายพานลำเลียงขยะ มือหนึ่ง เพิ่มขึ้นอีก 1 เส้น ในราคา 120,000 บาท และได้รับหลังคาเพื่อคลุมกันแดดกันฝน จาก บริษัทไทยไฟเบอร์พลัส ที่เราได้นำกล่องนมที่ผ่านการคัดแยกจากสายพานนี้ และรับซื้อจากโรงเรียน เพื่อนำไปแปรรูป Recycle นำกลับมาใช้ใหม่
2. ฐานโรงกากไขมันอัดก้อน (Fat Compression Plant)
ไขมันเป็นตัวอันตรายสำหรับแม่น้ำประแสของเราเป็นอย่างมาก ไขมันทั้งจากครัวเรือน ร้านอาหาร โรงเรียนฯ ถ้าเทศบาลฯไม่ออก เทศบัญญัติการติดตั้งถังดักไขมัน ปี 2549 เป็นการควบคุมให้บ้านเรือนที่เกิดใหม่ ต้องติดตั้งถังดักไขมัน และสอนวิธีการตักไขมัน เพื่อนำไขมันเหล่านั้นไปทำประโยชน์ ถ้าไขมันเหล่านั้น ไม่ได้ผ่านการดักไว้ตั้งแต่ต้นทาง คือ บ้านเรือน ไขมันก็จะไปลงสู่ท่อระบาย และท่อระบายน้ำก็จะไหลลงสู่แม่นำ้ประแส แม่น้ำหัวใจสำคัญของเมืองแกลง ที่คนเมืองแกลง ใช้ทั้งผลิตน้ำประปา การเพาะเลี้ยงและหาสัตว์น้ำ ฯ ทำให้น้ำเน่าเสีย เราจึงได้เรียนรู้และร่วมมือกัน เพื่อให้คลองประแสอยู่คู่เมืองแกลงตลอดไป
3. ฐานโรงหมักน้ำจุลินทรีย์ (E.M. Farm)
น้ำจุลินทรีย์ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เทศบาลฯ ดำเนินการหมักมานานแล้ว ก่อนที่จะได้จัดตั้งเป็นศูนย์ประสานงานฯ เพราะด้วยคุณสมบัติและประโยชน์ที่ดี ทั้งการใช้ในสำนักงานเพื่อดับกลิ่นในห้องนำ้ และใช้หยดลงท่อระบายน้ำเสียของเทศบาลฯ เพื่อบำบัดน้ำก่อนลงสู่แม่น้ำประแส และในการหมักน้ำจุลินทรีย์ก็ยังเป็นอีกวิธีหนึ่งในการช่วยกำจัดเศษผัก ผลไม้ ที่เหลือทิ้งจากบ้านเรือนและตลาด เพื่อลดการขนส่งลำเลียงไปที่หลุมฝังกลบ
4. ฐานโรงหมักก๊าซชีวภาพ (Biogas House)
การทำก๊าซชีวภาพจากขยะอินทรีย์เป็นการส่งเสริมให้นำขยะอินทรีย์ ที่ย่อยสลายง่าย มาหมักให้กลายเป็นก๊าซชีวภาพและปุ๋ยอินทรีย์ โดยสามารถใช้ก๊าซชีวภาพ แทนก๊าซหุงต้มหรือใช้ตะเกียวก๊าซให้แสงสว่าง ส่วนกากตะกอนยังเป็นปุ๋ยอินทรีย์อีกด้วย และยังเป็นการกำจัดขยะอินทรีย์จากครัวเรือน อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการเพื่อช่วยลดผลระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันเทศบาลฯ มีถังหมักอยู่ 4 ถัง และมีถังเก็บก๊าซที่ผลิตได้อีกหลายถัง เพราะเทศบาลมีโรงฆ่าสัตว์ ต้องใช้ก๊าซชีวภาพในการต้มน้ำร้อนลวกขนหมู
5. ฐานโรงเลี้ยงหมูหลุม (Boar House)
หมูเป็นสัตว์ที่กินเก่ง กินทุกอย่าง เป็น “หลุมขยะที่ไม่มีวันเต็ม” ใส่เศษอาหารที่เหลือทิ้งจากร้านอาหารเข้าไป หมูก็กินหมด หมูที่ทางเทศบาลฯเลี้ยง คือ หมูป่า เลี้ยงในหลุมที่ขุดลึก 90 ซม. กว้าง 3 ม. ยาว 6 ม. โดยพื้นหลุมใส่แกลบ โรยเกลือ เพื่อเหมาะสมกับสภาพปกติที่หมูป่าชอบ และก็ให้อาหาร หมูจะขับถ่ายอยู่ในหลุม เดินย้ำพรวนดินภายในหลุม เมื่อมีปริมาณมูลมากพอ ก็จะโกยขึ้นมาผึ่งแดดและนำไปใช้ได้ทันที ซึ่งวัตถุประสงค์ในการเลี้ยงหมูหลุม ก็คือ การกำจัดผัก ผลไม้ และเศษอาหารจากครัวเรือน ส่วนผลพลอยได้ ก็คือ ปุ๋ยจากมูลสัตว์
6. ฐานฟาร์มไส้เดือน (Earth Worm Farm)
“นิ่ง เงียบ เฉียบ ขาด = นินจา” สมญาณามของ “ไส้เดือนดิน” ซึ่งปัจจุบันเทศบาลฯ เลี้ยงไส้เดือนอยู่ด้วยกัน 2 สายพันธุ์ คือ แอฟริกาไนท์ กับ ขี้ตาแร่ เพราะ 2 พันธุ์นี้ ขยายพันธุ์และกินเก่ง สามารถย่อยสลายเศษผัก ผลไม้และเศษอาหารได้ดี และถ่ายมูลออกมากปริมาณมาก มูลและฉี่ไส้เดือน มีธาตุฟอสฟอรัสสูง บำรุงดอกและใบ โดยสถานที่เลี้ยงเทศบาลฯ จะทำเป็นคอนโด เพื่อประหยัดพื้นที่ บ่อเลี้ยงของไส้เดือนรองบ่อด้วยขี้วัว ขุยมะพร้าว เศษใบไม้ และให้อาหารโดยการบดเศษผักและผลไม้ให้ละเอียด ด้วยเครื่องบดย่อยเศษผัก เพื่อให้ไส้เดือนสามารถดูดซึมได้ง่าย ส่วนเศษอาหารที่เลี้ยงไส้เดือนได้ จะต้องไม่เป็นกรด ด่าง อย่างเช่น มะนาว พริก ฯ
7. ฐานโรงบดย่อย (Composting Plant)
เทศบาลฯ มีอีกหน้าที่หนึ่งคือการออกตัดแต่งกิ่งไม้ และก็ต้องนำกิ่งไม้ไปทิ้งที่หลุมฝังกลบ ซึ่งเป็นระยะทางไกล เทศบาลฯจึงต้องหาวิธี ในการกำจัด ซึ่งต้องก่อให้เกิดประโยชน์ด้วย ซึ่งเครื่องบดย่อยกิ่งไม้ จะได้ผงขี้บด เพื่อไว้ใช้หมักทำปุ๋ยหมัก ใส่หมูหลุม เป็นเชื่อให้การขึ้นรูปไขมันอัดก้อน และเครื่อบดย่อยผักและผลไม้ ซึ่งจะได้ผักและผลไม้ที่ละเอียด นำไปเป็นอาหารให้กับไส้เดือน และลดการใช้น้ำมันในการขนส่งไปหลุมฝังกลบด้วย
8. ฐานเครื่องอัดกล่องนม (Milk Box Press)
ในเขตเทศบาลฯ มีโรงเรียนภายในเขตพื้นที่อยู่หลายโรงเรียน ทั้งประถมและมัธยม ซึ่งจะมีขยะประเภทกล่องนมและถุงนมจำนวนมาก กระดาษที่ผลิตกล่องนม เป็นกระดาษใยยาว ซึ่งต้องใช้จากต้นไม้ที่มีอายุมาก ถ้าใช้กระดาษใยยาวครั้งเดียว นำไปฝังกลบเลย ก็จะเสียพลังงานกว่าต้นไม้จะโตมีอายุมาก ต้องใช้พลังงานไปมาก และพลาสติที่ใช้ กว่าจะย่อยสลายก็ใช้เวลานานกว่า 400 ปี ซึ่งทางเทศบาลฯ ก็พยายามหาโรงงานรับซื้อกล่องนม ถุงนมและถุงพลาสติก เพื่อนำไปส่งให้เขาแปรรูปกลับมาเป็นโต๊ะ หลังคา ฯ ซึ่งความสามารถของเครื่องอัดนี้ จะทำให้เป็นก้อนใหญ่ๆ ขนาด 800 ก.ก. – 1.2 ตัน เพื่อง่ายต่อการขนส่ง
9. ฐานโรงเลี้ยงแพะ และ กระต่าย (Goat and Rabbit House)
เทศบาลฯ เลี้ยงแพะและกระต่าย เพื่อกำจัดเศษขยะอินทรีย์ พวกเศษผัก ผลไม้ จากตลาดสด ที่แม่ค้าเด็ดเปลือนอกของผักทิ้ง ซึ่งถ้าเทศบาลฯ ไม่นำมาเป็นอาหารให้แก่แพะและกระต่ายก็จะต้องไปลงหลุมฝังกลบ มูลของแพะและกระต่ายก็ยังเป็นปุ๋ยชั้นดี เป็นเครื่องอัดเม็ดปุ๋ย เพราะมูลของสัตว์เหล่านี้เป็นเม็ด สำหรับกวาดลงมารวมกัน และใช้ได้เลย ไม่ต้องอัดเม็ด สัตว์พวกนี้เป็นมังสวิรัต กินแต่ผัก ไม่กินเนื้อสัตว์
10. ฐานโรงเลี้ยงเป็ด (Duck House)
เป็ดเป็นสัตว์ลำไส้สั้น ย่อยอาหารเร็ว ดูดซึมเอาไปใช้ประโยชน์โดยรวดเร็ว อาหารที่เทศบาลฯ ให้กับเป็ดคือ เศษอาหาร เศษผักผลไม้ จากร้านอาหาร โรงเรียน และบ้านเรือนต่างๆ เป็นที่ทางเทศบาลฯเลี้ยง เป็นเป็ดไข่ ใช้พื้นที่ในการเลี้ยงไม่กว้างมากนัก แต่มีพื้นที่ให้เขาได้เดินเล่นออกกำลังกาย เล่นน้ำ ซึ่งไข่ที่ได้ มีปริมาณไข่แดงมาก ไข่ขาวน้อย และไข่แดงสีแดงสด เพราะเราให้เขากินอาหารที่มีคุณค่า มีประโยชน์ ไม่ปนเปื้อนสารเคมี
11. ฐานโรงเลี้ยงเห็ดนางฟ้า (Mushroom House)
เนื่องจากเมืองแกลงของเรา เป็นเมืองที่มีการทำสวนยางพาราจำนวนมาก จึงมีโรงงานแปรรูปไม้ยางพารา เพื่อทำเฟอร์นิเจอร์ส่งขายทั้งใน และต่างประเทศ โรงงานแปรรูปไม้ยางเหล่านี้ จะมีเศษขี้เลื่อยเหลือทิ้งจำนวนมาก ซึ่งสืบทราบว่า แต่ก่อน มีคนต่างถิ่นมารับซื้อเศษขี้เลื้อยเหล่านี้ ไปผลิตเป็นธูปและก้อนเชื้อเห็ด ซึ่งเทศบาลฯ ก็คิดว่าเราน่าจะหันมาสร้างผลผลิตจากวัตถุดิบที่เรามาอยู่ใกล้ๆ ไม่ต้องไปหาทำหรือผลิตหรือซื้อจากที่ไกลๆ จึงได้คิดผลิตก้อนเชื้อเห็ดเลี้ยงเห็ดเสียเอง เพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่ชาวบ้านด้วย เพราะการเลี้ยงเห็ดทำได้ไม่ยาก ให้ผลผลิตเร็วและก้อนอยู่ได้นาน ปลอดภัยไร้สารเคมีอีกด้วย ซึ่งเป็นที่เราเลี้ยงอยู่ตอนนี้คือ เห็ดนางฟ้า
12. ฐานเกษตรเมือง (Urban Agricultural) และสวนผักลอยฟ้า
การปลูกพืชผักสวนครัว รั้วกินได้ รัฐบาลก็สนับสนุนให้ทุกบ้านได้ทำอยู่แล้ว แต่ทางเทศบาลฯ ก็ได้ปลูกพืชผักต่างๆ ไว้ภายในศูนย์ฯ , หน้าเทศบาลฯ และพื้นที่ว่างอื่นๆ เพราะผักที่ชาวเมืองแกลง กินอยู่ทุกวันนั้น ล้วนแต่ขนส่งมาจากต่างจังหวัดไกลๆ ทั้งจากภาคเหนือและอีสาน ดังนั้นการส่งเสริมให้คนในเมืองแกลงปลูกผักกินเอง เพื่อลดการขนส่ง ไม่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน และยังเป็นผักปลอดสารพิษ เทศบาลฯ จึงปลูกผักในพื้นที่อย่างจำกัด แต่ได้ผลผลิตคุณภาพดี ได้ปริมาณสูง ซึ่งเทศบาลฯ ได้ปลูก ผักกาดเขียว กระเพรา ผักบุ้ง ผักหวาน กวางตุ้ง ฯ
ศูนย์ประสานงานเครือข่ายการเรียนรู้ด้านการจัดการเมืองและสิ่งแวดล้อม ประจำภาคตะวันออก
Eastern Regional Coordinating Center On Urban And Environmental Management
โทร 038-675222 , แฟ็กซ์ 038-671209
ป้ายคำ : ปุ๋ยหมักชีวภาพ, พลังงานทดแทน