แยมมะละกอ

มะละกอสุกอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ แคโรทีน วิตามินซี สารฟลาโวนอยด์ สารโฟเลต กรดแพนโทเทนิก ธาตุโพแทสเซียม แมกนีเซียม และเส้นใยอาหาร สารอาหารเหล่านี้บำรุงสุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด และป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่อีกด้วย นอกจากนี้มะละกอมีเอนไซม์ปาเปน สามารถนำมาใช้ด้านการแพทย์เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บทางการกีฬา

แยมมะละกอ สูตรที่ 1
เนื้อมะละกอสุก (บด) 400 กรัม (2 ถ.ต.)
น้ำ 200 กรัม (1 ถ.ต.)
น้ำตาลทรายขาว 800 กรัม หรือ 4 ถ.ต.
ผงเพคติน 8.4 กรัม (2 ช.ช.)
กรดมะนาว (กรดซิตริก) 8.4 กรัม (2 ช.ช.)หรือใช้น้ำมะนาว 100 ซีซี (1/2 ถ.ต.)
เกลือ 2.1 กรัม (1/2 ช.ช)

yammalakorpa

แยมมะละกอ สูตรที่ 2
เนื้อมะละกอสุก (บด) 400 กรัม หรือ 2 ถ.ต.
เนื้อสับปะรด (หั่นชิ้นเล็ก) 200 กรัม (1 ถ.ต.)
น้ำตาลทรายขาว 800 กรัม หรือ 4 ถ.ต.
ผงเพคติน 8.4 กรัม หรือ 2 ช.ช.
เกลือ 2.1 กรัม หรือ 1/2 ช.ช.
กรดมะนาว (กรดซิตริก) 7.0 กรัม หรือ 1 1/2 ช.ช.

yammalakors
วิธีทำ

  1. นำเนื้อผลไม้ใส่หม้อปลอดสนิมหรือกะทะทองเหลือตั้งไฟ
  2. เติมน้ำตาลทรายขาวที่เหลือหลังจากแบ่งบางส่วน ไปผสมกับผงเพคติน คนจนน้ำตาลทรายละลายหมด
  3. ค่อย ๆ โรยผงเพคตินที่ผสมกับน้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน และกวนต่อไปเรื่อย ๆ จนข้น
  4. เติมกรดมะนาว หรือน้ำมะนาวลงไป แล้วคนไปเรื่อย ๆ จนวัดความหวานได้ 65 องศาบริกซ์ หรือเมื่อยกไม้พายขึ้นตามแนวนอน แยมจะค่อย ๆ ไหลย้อยเป็นแผ่นคล้ายผ้าม่าน
  5. บรรจุขณะร้อนลงไปในขวดที่สะอาดซึ่งผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว ปิดฝาทิ้งไว้ให้เย็นแยมจะแข็งตัว

yammalakorch

หมายเหตุ
1. แยมที่เปิดใช้แล้ว ควรเก็บในตู้เย็น จะช่วยให้เก็บได้นาน
2. ขวดที่ใช้บรรจุ ต้องนำมาล้างให้สะอาด ทั้งขวดและฝาแล้วนึ่งฆ่าเชื้อนานประมาณ 15 นาที ผึ่งให้แห้งโดยคว่ำขวด และฝาตะแกรงที่สะอาดแล้วปิดฝาให้สนิท พร้อมที่จะนำไปใช้

ป้ายคำ :

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับหมวด อาหารเพื่อสุขภาพ

แสดงความคิดเห็น