หากเกิดโรครากเน่าโคนเน่าในพืชชนิดใดแล้วนั้น จะนำมาซึ่งความสูญเสียรายได้ และ สูญเสียผลผลิตทางการเกษตรเป็นจำนวนมาก เพราะโรครากเน่าโคนเน่านั้น ทำให้พืชขาดสารอาหาร เนื่องจากระบบรากพืชถูกทำลาย เชื้อโรคจะเข้าทำลายรากฝอย รากแขนง และตามโคนต้น และถ้าเป็นมากอาจจะติดเชื้อลุกลามเข้าไปในท่อนำอาหารของพืช บางครั้งทำให้พืชบางชนิดก็ตายได้อย่างฉับพลัน ทั้งๆที่ความเขียวของต้นยังคงอยู่ หรือที่เรียกว่าพืชยืนต้นตาย ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากให้แก่เกษตรกร
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อราหลายชนิด เช่น Phytophthoraspp. Sclerotium spp. หรือเห็ดราใน Class Ascomycetes และ Basidiomycetes โรคนี้ระบาดมากในฤดูฝน หรือสภาพที่มีความชื้นสูง แพร่ระบาดโดยสปอร์เชื้อรา โดยเฉพาะต้นไม้ที่ปลูกในบริเวณที่ชื้นแฉะตลอดเวลา
สาเหตุของโรครากเน่าโคนเน่า เกิดจากเชื้อราไฟท้อฟเธอร่า(Phytophthora) เชื้อรากลุ่มนี้ ปกติจะอาศัยอยู่ในดินอยู่แล้ว เวลาที่ต้นพืชที่ปลูกอ่อนแอหรือไม่มีภูมิคุ้มกันโรค เชื้อราไฟท้อฟเธอร่าก็จะเข้ามาทำลายทันที สังเกตว่าหากพืชชนิดนั้นเป็นโรครากเน่าโคนเน่า จะไม่พบการระบาดทั่วทั้งแปลง แต่จะพบบางต้นเท่านั้นที่เป็นโรค และจากนั้นจึงค่อยๆลุกลามไปยังต้นข้างเคียง แสดงให้เห็นว่า เชื้อราไฟท้อฟเธอร่า จะเข้าทำลายต้นที่อ่อนแอและมีภูมิคุ้มกันต่อโรคต่ำสุดก่อน แต่ถ้าดูแลให้พืชแข็งแรงและมีภูมิคุ้มกันที่ดีอยู่ตลอดเวลาแล้ว อัตราการเกิดโรครากเน่าโคนเน่าก็จะลดต่ำลงตามไปด้วย
สาเหตุของโรครากเน่าโคนเน่า
โรครากเน่าโคนเน่า เป็นโรคที่พบมากในพืชดังต่อไปนี้ ได้แก่ ทุเรียน กล้วย ส้ม ลองกอง ลางสาด สตรอเบอรี่ ส้ม ลำไย เงาะ แตงโม พริก มะเขือ มะเขือเทศ มะนาว แตงกวา ปาล์ม ยางพารา พืชผักในระบบไฮโดรโปนิกส์ และพืชอื่นๆ อีกมากมาย
ลักษณะอาการ
ต้นไม้ที่เกิดโรครากเน่า จะสังเกตเห็นได้ว่าอาการใบจะมีสีเหลืองซีดถึงเหลือง โดยเริ่มที่เส้นกลางใบก่อนแล้วลุกลามไปเรื่อย ๆ จากโคนใบไปถึงยอด ใบจะเขียวม้วนงอ เมื่อโดนแดดจัด ๆ ในตอนกลางวัน หรือใบเหี่ยวคล้ายขาดน ้า ใบจะร่วงกิ่งแห้งตาย ผลมีสีเหลืองร่วงหล่นง่าย เมื่อขุดดูที่รากจะพบว่ารากฝอยเน่า รากถอดปลอก มีกลิ่นเหม็น รากแขนงหรือรากขนาดโตเน่าเปื่อยยุ่ย และลุกลามไปทั่ว ใบแห้ง ผลร่วง ถ้าเป็นมากอาจถึงต้นตายได้ ในเวลารวดเร็ว นอกจากนั้นยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีกที่ทำให้รากเน่า เช่น น ้าท่วมขัง การใช้สารเคมีผิด และพิษจากปุ๋ยเคมี เป็นต้น
นอกจากนี้อาการโรครากเน่า หรือรากเปื่อยเกิดจากเห็ดราที่ทำลายไม้ได้เช่นกัน เห็ดราหลายชนิดเป็นสมาชิกใน Class Ascomycetesและ Basidiomycetes สามารถทำลายส่วนที่เป็นแก่นไม้และกระพี้ของไม้ โดยปล่อยเอ็นไซม์ออกมาย่อยสลายส่วนประกอบของไม้ จะเห็นว่าส่วนมากเห็ดราจะทำลายส่วนที่มีอาหารมาก คือทำลายกระพี้ก่อนแล้วจึงทำลายถึงแก่นไม้ เมื่ออยู่ในสภาพที่เหมาะสมจะเจริญและงอกเส้นใยแทงทะลุไปในเนื้อไม้ ทำให้เนื้อไม้ผุพัง เส้นใยจะเข้าไปภายในเนื้อไม้ได้มากขึ้น ซึ่งการเข้าทำลายและทำให้ไม้ ผุพังแบ่ง
ออกได้ 2 ระยะ คือ
1.ระยะเริ่มแรก (case stage หรือ incipient stage)เป็นระยะที่เชื้อราอยู่ในเนื้อไม้และไม่มีอันตราย โดยเส้นใยของเชื้อราจะผ่านไปตามเซลล์ของไม้ จากเซลล์หนึ่งไปอีกเซลล์หนึ่ง โดยการเจาะทะลุผนังเซลล์
2.ระยะผุ (Advanced decay stage)ทำให้เนื้อไม้เปื่อยยุ่ยเหมือนฟองน ้าเนื้อไม้หลุดออกเป็นหย่อม ๆ หรือมีรอยแตกตามขวางเสี้ยนไม้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นระยะไม้ผุรุนแรง
อาการของโรครากเน่าโคนเน่า
วิธีป้องกันและรักษาโรครากเน่าโคนเน่า
เชื้อราไตรโคเดอร์มา
ในการรักษาโรครากเน่าโคนเน่า
โรครากเน่าโคนเน่า สามารถป้องกันได้ตั้งแต่พืชยังไม่เป็นโรค ไม่ควรให้พืชแสดงอาการก่อน แล้วค่อยรีบมารักษาทีหลัง เพราะถ้าพืชเป็นโรครากเน่าโคนเน่าแล้ว อาจรักษาไม่ทันก็ได้
ดังนั้นควรใช้เชื้อรา ไตรโคเดอร์มาป้องกันการเกิดโรครากเน่าโคนเน่าตั้งแต่ต้น ดีกว่าปล่อยให้โรคลุกลามจนรักษาไม่ทัน ซึ่งจะเกิดผลเสียตามมามากมาย รวมถึงการสูญเสียรายได้ และ สูญเสียผลผลิตทางการเกษตรเป็นจำนวนมาก
ป้ายคำ : จุลินทรีย์
สุดยอดเลยค้บ