โสน ไม้กินดอก

3 พฤษภาคม 2556 ไม้น้ำ 0

โสน ในทางสมุนไพร หรือ ประโยชน์ทางยา ใบ รสจืดเย็น ตำผสมกับดินประสิวและดินสอพองทาหรือพอกฝีแก้ปวด ถอนพิษดีมาก ดอก รสหวานเย็น กินสมานลำไส้ ราก รสจืด ต้มน้ำดื่มแก้ร้อนในกระหายน้ำได้

วงศ์ : PAPILIONACEAE
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Sesbania javanica Miq.
ชื่ออังกฤษ : Sesbania flowers
ชื่อพื้นเมือง : โสนหิน(กลาง) ผักฮองแฮง(เหนือ) สีปรีหลา(กระเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) โสนกินดอก(กลาง)

โสนในเมืองไทยมีหลายพันธุ์ คือ โสนหิน โสนคางคก โสนหางไก่ใหญ่ โสนหางไก่เล็ก ลักษณะเป็นไม้ล้มลุกปีเดียว ลำต้นสูงประมาณ 2-3 เมตร ใบเล็กฝอยคล้ายกับใบมะขามหรือใบกระถิน ดอกสีเหลืองคล้ายดอกแค แต่เล็กกว่าและมีฝักยาว มีเมล็ดในฝักคล้ายกับถั่วเขียว

sanodok

ลักษณะทั่วไป
เป็นไม้ล้มลุก เป็นพุ่มขนาดกลาง ลำต้นสูงเปราะบางเพราะไม่มีแก่น สูงประมาณ 23 เมตร มีกิ่งก้านห่างๆ ใบเล็กฝอยคล้ายกับใบมะขามหรือใบกระถิน ดอกสีเหลืองคล้ายดอกแค แต่ดอกเล็กกว่า มีฝักยาว มีเมล็ดในฝักคล้ายกับถั่วเขียวแต่ฝักยาวกว่า ดอกโสนสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น นำมาชุบแป้งทอดกรอบ รับประทานกับขนมจีนน้ำพริก ดอกโสนมีรสหวานชวนรับประทานมาก

sanotree

การปลูก
ต้นโสนขึ้นเองอยู่โดยทั่วไป โดยเฉพาะตามริมคูน้ำ ริมคลอง ในที่ชื้นแฉะ เป็นพืชขึ้นง่าย ไม่ต้องบำรุงรักษาก็งอกงามดี ต้นโสนนี้เป็นไม้อยู่ในตระกูลปาปิโอนีอี มีปลูกตามพื้นที่ลุ่มและเรือกสวนไร่นา เป็นไม้ที่ขึ้นง่าย ไม่ต้องทำนุบำรุงมากมายหรือเกือบจะเรียกว่าไม่ต้องทำนุบำรุงเลย ขยายพันธุ์ได้ด้วยการเพาะเมล็ด ต้นโสนนี้เราใช้ดอกรับประทานเป็นอาหารได้ทั้งคาวและหวานเช่น เราเอามาทำขนมเรียกว่า ขนมดอกโสน หรือเอาดอกมาจิ้มน้ำพริกก็ได้

sanosuan

ประโยชน์ทางอาหาร
ส่วนที่เป็นผัก / ฤดูกาล ยอดอ่อนดอกตูมและดอกบานของโสนใช้เป็นผักได้ ดอกโสนออกในช่วงปลายฤดูฝนประมาณเดือนกันยายน-เดือนตุลาคม ในช่วงที่โสนออกดอก ในตลาดสดภาคกลางและภาคเหนือบางจังหวัดจะมีดอกโสนจำหน่ายด้วยชาวบ้านมักเก็บดอกโสนในช่วงเย็น จะทำให้ได้ดอกตูม น่ารับประทาน

สำหรับดอกโสนที่ใช้รับประทานเป็นอาหาร คือ โสนหินหรือโสนกินดอก จะออกดอกในช่วงปลายฤดูฝนประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม โดยชาวบ้านมักเก็บดอกโสนในช่วงเย็น เพราะจะได้ดอกตูมน่ารับประทาน และหากรับประทานไม่หมดสามารถนำดอกโสนมาดองเก็บไว้รับประทานได้ ซึ่งการดองทำได้ไม่ยาก โดยนำดอกโสนมาล้างให้สะอาดและใส่ไว้ในขวดโหลแก้วหรือภาชนะกระเบื้อง จากนั้นปรุงน้ำที่ใช้ดอง นำเกลือป่นผสมในน้ำซาวข้าวให้ออกรสเค็มเล็กน้อย เติมน้ำตาลทรายอีกหน่อยแล้วเทลงในภาชนะที่ใส่ดอกโสนให้ท่วมพอดี ปิดฝาทิ้งไว้ 1 วันก็สามารถรับประทานได้แล้ว ยิ่งถ้าทิ้งไว้นาน ๆ จะเปรี้ยวมากขึ้นสามารถรับประทานร่วมกับน้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาร้า หรือน้ำพริกปลาทูก็ได้

การปรุงอาหาร ดอกโสนปรุงเป็นอาหารได้หลายชนิด วิธีแรกคือ นำมารับประทานร่วมกับน้ำพริก โดยรับประทานยอดอ่อนและดอกแบบผักสด หรือนำมาลวกให้สุกก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถนำดอกโสนมาผัดน้ำมันและพรมน้ำปลาเล็กน้อย เป็นโสนผักน้ำมัน หรืออาจนำมาลวกและลาดด้วยกะทิ นำมา เป็นผักจิ้มรับประทานกับน้ำพริกปลาร้า น้ำพริกกะปิ หรือน้ำพริกมะขาม วิธีที่สองคือนำดอกโสนมาทอดผสมกับไข่ (ทำคล้ายกับชะอมชุบไข่) นำไปรับประทานกับข้าวหรือรับประทานร่วมกับน้ำพริกก็ได้วิธีที่สาม คือ นำดอกโสนมาแกงส้มกับปลาช่อน

sanoton

ในช่วงปลายหน้าฝน ดอกโสนออกเป็นจำนวนมาก บางบ้านจะนำดอกโสนมาดองเก็บไว้รับประทานนานๆ การดองดอกโสนทำได้โดย นำดอกโสนล้างให้สะอาด และใส่ไว้ในขวดโหลแก้ว หรือภาชนะกระเบื้อง จากนั้นปรุงน้ำที่ใช้ดองโดยนำเกลือป่นผสมในน้ำซาวข้าวให้ออกรสเค็มเล็กน้อย เติมน้ำตาลทรายเล็กน้อย และนำน้ำที่เตรียมไว้เทลงในภาชนะที่ใส่ดอกโสนพอท่วมพอดี ปิดฝาทิ้งไว้ 1 วัน รับประทานได้ถ้าทิ้งไว้นาน จะเปรี้ยวมากขึ้น ดอกโสนดองมักรับประทานร่วมกับน้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาร้า หรือน้ำพริกปลาทูก็ได้

นอกจากปรุงเป็นอาหาร ดอกโสนยังปรุงเป็นขนมดอกโสนได้ โดยนำดอกโสนมานึ่งให้สุก นำมาคลุกรวมกับแป้งข้าวเหนียว แป้งสาลี มะพร้าว และน้ำตาลดอกโสนยังให้สีเหลือง สามารถคั้นน้ำจากดอกมาทำเป็นขนมบัวลอย และขนมตาลได้อีกด้วย

ส่วนคุณค่าทางโภชนาการของโสนประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอาซิน วิตามินซี และสารพวกแคโรทีนอยด์ โดยส่วนของโสนที่มีประโยชน์ คือดอก ใบ และต้น ซึ่งดอกนั้นมีรสชาติจืดเย็นจึงมีสรรพคุณในการแก้พิษร้อน ถอนพิษแมลงสัตว์กัดต่อย ปรุงเป็นยาพอกแผลได้ นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณใช้แก้ปวดมวนท้องด้วย ส่วนใบโสนมีสรรพคุณใช้ตำยาพอกแผลได้ และต้นโสนสามารถนำมาเผาไฟให้เกรียมแล้วเอามาต้มชงเอาน้ำดื่มใช้เป็นยาขับปัสสาวะได้ดีทีเดียว

sanodoks

ดอกโสนมีรสจืด มัน อมขมเล็กน้อย ดอกโสน 100 กรัม ให้พลังงานต่อร่างกาย 40 กิโลแคลอรี่ มี

  • เส้นใย 3.9 กรัม
  • แคลเซียม 51 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 56 มิลลิกรัม
  • เหล็ก 8.2 มิลลิกรัม
  • วิตามินเอ 3336 IU
  • วิตามินบีหนึ่ง 0.26 มิลลิกรัม
  • วิตามินบีสอง 0.40 มิลลิกรัม
  • ไนอาซิน 2.8 มิลลิกรัม
  • วิตามินซี 24 มิลลิกรัม

รสและสรรพคุณยาไทย : เอาต้นโสนมาเผาไฟให้เกรียม แล้วเอามาต้มชงเอาน้ำดื่มเป็นยาขับปัสสวะได้ดีทีเดียว หากปวดมวนท้องไส้ก็เอาดอกโสนมาผัดน้ำมันเล็กน้อย หรือเอามาลวกแล้วจิ้มน้ำพริกรับประทานเป็นอาหารได้เลย เป็นยาแก้ปวดมวนท้องได้ดีอย่างหนึ่งด้วย ได้ประโยชน์ ดอกโสนมองเห็นได้ง่ายไปไหนมาไหน ริมทาง ริมถนน บางทีเราก็เห็นดอกโสนมากมาย เก็บเอามาใช้ประโชน์ได้ดี ทำขนมดอกโสนก็ได้ตามแบบคนสมัยเก่า นิยมทำขนมดอกโสนกัน.

ป้ายคำ :

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับหมวด ไม้น้ำ

แสดงความคิดเห็น