การถอนพิษแบบกัวซา

15 กันยายน 2555 สุขภาพพึ่งตน 0

การถอนพิษแบบกัวซาคือ การขูดผิวหนังเพื่อกระตุ้นระบบหมุนเวียนโลหิต ส่งเสริมการไหลเวียนของพลังปราณในร่างกาย และเป็นการถอนพิษที่ไม่ถูกจำกัดทั้งเวลา และสถานที่ สามารถทำได้ทุกเวลาที่ต้องการ เพียงแต่เจียดเวลาวันละไม่กี่นาที ขูดจากศีรษะจนถึงเท้า ก็สามารถกระตุ้นให้เลือดหมุนเวียนได้ดีขึ้น กระตุ้นระบบเมตาโบลึซึ่ม ของร่างกาย ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ สุขภาพที่แข็งแรง

กัวซา เป็นวิชาของ ชาว เอเซียตะวันออก โดยเฉพาะคำว่ากั๋ว (กัว) แปล ว่า เกา ขูด คำว่า ซา,ชา แปลว่าชาด, สี แดง แผ่นปื้นสีแดงที่เกิดขึ้นจากการขูดนี้บ่งถึง การที่ร่างกายมีเลือดคั่งอยุ่ภายในทำให้เลือดลมไหลเวียนไม่สะดวกในบริเวณนั้น ซึ่งหลังจากมันได้พัฒนากลายเป็นจุดเลือดออกใต้ผิวหนัง ก็หมายถึง เนื้อเยื่อ ได้รับการชำระให้สอาดสดชื่นขึ้น ของเสียและพิษที่เป็นต้นเหตุเหล่านั้นได้พากันถูกขจัดออกมาตามผิวชั้นนอก ซึ่งปื้นนูนสีแดงเหล่านั้นจะเปลี่ยนสี เป็นสีม่วงช้ำและกลายสภาพเป็นสีผิวปกติภายใน 4-5 วัน กัวซา มีชื่อเรียก เป็นภาษาเวียตนามว่า เกา เหยียว ภาษาอินโดนีเซีย คือเคอ ริ กัน และ ภาษาลาว คือ ขูด ลำ

guasa

ภูมิปัญญาชาวบ้านของชาวจีน ชาวเขา กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษจวบจนปัจจุบัน มีประสิทธิภาพโดดเด่นในการเอาพิษออกจากร่างกายทางผิวหนัง ปัจจุบันนี้ สังคมเจริญก้าวหน้า เศรษฐกิจรุ่งเรือง แต่สุขภาพของผู้คนกลับถดถอยลง ยิ่งเมื่อประสบภาวะความกดดันและการทำงานที่รีบเร่ง ทำให้ผู้คนมีเวลาออกกำลังกายน้อยลง เป็นผลให้เซลล์ในร่างกายไม่สามารถทำงานหมุนเวียนได้ราบรื่น ทำให้เกิดโรคเรื้อรังหลายชนิด และโรคร้ายแรงจากความเจริญก้าวหน้า ยิ่งกว่านั้นโรคที่เกิดจากเซลล์ทำงานผิดปรกติ ล้วนเป็นโรคที่การแพทย์แผนปัจจุบัน ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้น การถอนพิษแบบกัวซา จึงได้รับความนิยมขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และยังสามารถพึ่งตนเองได้อีกด้วย

วัตถุประสงค์ของการทำกัวซา คือ เพื่อการตรวจเช็กสุขภาพ และบำบัดรักษาโรค บรรเทาอาการเจ็บป่วย เพื่อผ่อนคลายหรือเพื่อสุขภาพทำให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยให้เลือดลมภายในไหลเวียนดีขึ้น ผิวพรรณเปล่งปลั่ง

กัวซา เป็นวิธีการบำบัดด้วย การกระตุ้นจุดเส้นลมปราณ คล้ายการฝังเข็ม การนวด และการทายารักษาที่ผิวภายนอก รวมกันไปในคราวเดียวกัน เพื่อประโยชน์ในการขับพิษ การบำบัดด้วยกัวซาจะช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของโลหิตภายใต้ผิวหนัง ขยายรูขุมขนให้เปิดกว้าง ทำให้ร่างกายผลัดเซลล์เก่าสร้างเซลล์ใหม่ และขับพิษออกทางต่อมเหงื่อ อวัยวะภายในได้รับการบำรุงเลี้ยงจากโลหิตอย่างเต็มที่ ทำให้ร่างกายมีการปรับสมดุล ช่วยฟื้นฟูสมรรถนะของระบบภูมิต้านทานโรคให้แข็งแรง ซึ่งโรคที่บำบัดด้วยกัวซาทีได้ผลดีที่สุด คืออาการเป็นไข้ตัวร้อน ปวดเมื่อ หรือชาตามร่างกาย ปวดประจำเดือน อวัยวะภายในทำงานไม่ปกติ”

ประโยชน์ของกัวซา

  • ช่วยกระตุ้นเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกมา ทำให้ผิวกระจ่างใส อ่อนนุ่มมีชีวิตชีวา
  • ช่วยในการไหลเวียนของโลหิตไปเลี้ยงสมอง และอวัยวะภายใน และส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น
  • ช่วยในระบบการเผาผลาญของร่างกายดีขึ้น และลดอาการบวมของไขมันได้ดี
  • ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายดีขึ้นเป็นปกติ
  • ช่วยคลายกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นที่แข็งตึงให้อ่อนนุ่ม หายจากอาการปวดเมื่อย
  • ช่วยรักษาสมดุล ของฮอร์โมน และกระตุ้นความเสื่อมของสมรรถภาพทางเพศให้กลับคืน
  • สามารถบอกตำแหน่งของโรคที่เกิดขึ้นในร่างกายได้ และบำบัดโรคได้ร้อยกว่าโรค
  • ทำให้สุขภาพดีขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งยาทั้งชีิวิต
  • ช่วยชลอความแก่ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย ทำให้รอยตีนกาหายไป
  • ทำให้ร่างกายกินได้ นอนหลับ ถ่ายคล่อง ผิวพรรณสดใส จิตใจเบิกบาน กระชุ่มกระชวย จิตใจสดชื่น มีชีิวิตชีวาขึ้น

อาการอย่างไรถึงต้องรักษาด้วยกัวซา

  • หากท่านมีอาการต่อไปนี้ มีอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัว หัวหนัก บางครั้งมึนงง ขี้หลงขี้ลืม ความจำเสื่อม ปวดเมื่อยท้ายทอย ปวดเมื่อย คอ ปวดเมื่อยบ่า มือชา ตาพร่ามัว บางครั้ง หูอื้อ ลมออกหูวี้ๆ หรือดังหึ่งๆ เป็นๆ หายๆ บางครั้งนั่งนานๆ แล้วลุกขึ้นเร็วจะรู้สึกหวิวๆ บางครั้งใจสั่นๆ หัวใจเต้นเร็ว และหายใจได้ไม่ลึกยาว คือหายใจได้ไม่เต็มปอด นอนหลับได้ไม่ลึกยาว คือนอนไม่รู้จักพอ ปวดศีรษะ ปวดหว่างคิ้ว รู้สึกหนักหนังตา ในลูกตา บางครั้งเหมือนมีเส้นใยอยู่ในลูกนัยตา มองดูที่ตรงที่จุดหัวตา หัวตาจะเป็นสีคล้ำ ดำ หรือสีน้ำตาล ทำให้สายตาเสื่อมลงเร็วกว่าปกติ และเป็นสาเหตุของโรคตาตอนอายุมากขึ้น
  • นี่เป็นสาเหตุของโลหิตไหลไปเลี้ยงสมองได้ไม่เพียงพอ เพราะมีการอุดตันของระบบการไหลเวียนของเลือดระหว่างแกนกลางกระดูกสันหลัง และมัดกล้ามเนื้อ ถ้าหากกล้ามเนื้อส่วนหนึ่งส่วนใดแข็งเกร็ง เนื่องจากการทำงานหรือความเครียด ก็จะทำให้กล้ามเนื้อเกร็ง ทำให้โลหิตไปเลี้ยงส่วนต่างๆไม่สะดวก ทำให้มือเท้าชา ขาหนัก ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัว ปวดหลัง ปวดเอว ปวดเมื่อยสะโพก ปวดข้อ ปวดเข่า เนื่องจากเส้นเอ็นตึง ทำให้โลหิตไหลเวียนได้ไม่สะดวก ก็ทำให้เกิดความเสื่อมของระบบอวัยวะภายในร่างกายขึ้นมา เรียกว่าธาตุทั้ง 4 ไม่สมดุลย์ ทำให้ร่างกายขาดความสมดุลย์ ถ้าร่างกายขาดความสมดุลย์ ก้็ทำให้เกิดโรคต่างๆขึ้นได้ เช่น ถ้าธาตุลมเสีย ก็ทำให้จุกเสียด ท้องอืด เฟ้อ เรอเปรี้ยว จุกเสียดตรงลิ้นปี่ที่หมอบอกว่าเป็นกรดไหลย้อน ก็มาจากความเสื่อมของธาตุน้ำ คือน้ำดี ถ้าน้ำดีกับตับทำงานไม่ปกติ ก็ทำให้ท้องอืด แน่นตรงชายโครงข้างขวา ถ้าน้ำดีย่อยอาหารไม่หมด ระบบขับถ่ายผิดปกติ ก็เกิดแผลในกระเพาะทั้งตด ทั้งเรอ จุกเสียดไปหมด

เทคนิค การกัวซา

  1. จัดกัวซาบอร์ด ทำมุม 45 องศา ด้านหน้าคว่ำลง
  2. ที่ตำแหน่งของกระดูกข้อต่อ ให้ขูดด้วยด้านมุมของ กัวซาบอร์ด
  3. พยายามขูดให้ได้พื้นที่ยาว (ส่วนหน้าอก ส่วนท้อง ส่วนใบหน้า ส่วนไหล่ จากนอก เข้าใน ส่วนอื่นๆ จากบนลงล่าง

บำบัดด้วยกัวซาอย่างไรให้ถูกวิธี

  1. ไม่ว่าเป็นโรค อะไรก้ตามควรเริ่มขูดที่ชีพจรหลักก่อน จากนั้นจึงขูดจุดที่ป่วย (ชีพจรหลักอยู่ที่แนวกระดูกสันหลังทั้งแกน)
  2. การใช้แรงขูดต้องสม่ำเสมอ บนแนวชีพจรที่ขูดควรขูดจนเห็นรอยจุด(ซา)ปรากฏขึ้นมา จากนั้นจึงขูดตำแหน่งอื่นต่อไป
  3. ปกติหลังจากขูด แล้ว 2-3 วัน ตำแหน่งโรคที่ขูดจะมีอาการเจ็บปวดปรากชกขึ้น ซึ่ง ถือเป็นเรื่องปกติหลังขูดจนซาออกหมดแล้ว ต้องรออีก 5-7 วันจึงจะสามารถขูดซ้ำได้อีก การขูดเพื่อสุขภาพสามารถขูดผ่านเสื้อผ้าได้ทุกวัน
  4. ถ้าตำแหน่งที่ ขูดไม่ถูกต้องแม่นยำ หรือ เทคนิคการใช้มือขูดไม่ถูกต้อง ก็ไม่ก่อให้เกิดอาการ แทรกซ้อนแต่อย่างใด สามารถขูดได้อย่างไม่ต้องกังวลใจ
  5. หลังขูดแล้วให้ ดื่มน้ำ แก้วใหญ่เพื่อช่วยระบบเมตาบอลิซึ่มของร่าง กาย
  6. สถานที่ขูดกัวซาจะต้องไม่เป็นที่มีลมแรง เช่นหน้าพัดลม หรือในห้องที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำเนื่องจากจะทำให้เสียสมดุลของหยินและหยาง

หมายเหตุ ควรทานอาหารให้อิ่มก่อนทำการขูด อย่างน้อย 1 ชม. ถ้ายังไม่ได้ทานอาหารไม่ควรมาขูด เพราะเมื่อทำการขูดรักษาเสร็จอาจจะเกิดอาการเป็นลม หรือหน้ามืดได้

การตรวจวินิจฉัยก่อนการรักษาการตรวจจะตรวจวินิจฉัยหลายอย่างประกอบกัน อย่างแรก ตรวจดูจากสีผิว สามารถบอกได้ว่ามีพิษมาก หรือน้อย ขึ้นอยู่กับอาการของโรค ถ้ามีพิษสะสมมาก สีผิวจะดำคล้ำ ถ้าน้ำเหลืองเสีย จะขึ้นเป็นผดผื่นคันตามเนื้อตัว อาการที่มีพิษมาก คนไข้มักจะปวดตามมัดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ หรือหลับไม่ลึก ไม่อิ่ม หลับไม่รู้จักพอ คนไข้มักมีอาการเหมือนเป็นไข้อ่อนๆ เพลียๆ มึนศีรษะ ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว การตรวจจับชีพจร สังเกตุได้จากการเต้นของชีพจรว่า ชีพจรเต้นเร็วหรือช้า เป็นจังหวะ หรือไม่เป็นจังหวะ เต้นลึกหรือตื้น สม่ำเสมอหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับอาการของโรค ถ้าร่างกายมีพิษมาก ชีพจรจะเต้นสบัดสบิ้ง การตรวจด้วย เพนดูลัม (ลูกดิ่ง) ถ้าร่างกายผิดปกติ มีอาการอุดตันของเลือดเนื่องจากมีลมปราบ (ลมเพลมพัด) ลูกดิ่งจะตรวจไม่ได้ หรือคนที่มีเชื้อเอดส์ หรือมีเซลล์มะเร็ง ลูกดิ่งก็ตรวจไม่ได้ เพราะพวกนี้ทำลายระบบการไหลเวียนโลหิต

การขูดรักษาด้วยกัวซา ต้องขูดตำแหน่งที่มีการอุดตันของเลือดก่อน แล้วจึงขูดเส้นหลักของระบบร่างกาย ขูดตั้งแต่ท้ายทอยลงมากลางกระดูกสันหลังจนถึงก้นกบ แล้วจึงขูดกล้ามเนื้อบ่าทั้ง 2 ข้าง แล้วค่อยไล่เส้นข้างกระดูกสันหลัง ทั้งซ้าย – ขวา ทั้งเส้น จนถึงสะโพก เป็นการขูดครั้งแรก หลังจากนั้นก็ตรวจอาการของอวัยวะภายในด้วยลูกดิ่งตรวจที่นิ้วมือทั้ง 5 นิ้ว เพื่อจะได้รู้ว่า อวัยวะภายในมีอะไรเสื่อมลงไปบ้าง ก็จะได้ขูดตามอาการของโรคต่อไป ซึ่งมีอยู่ในตำราอยู่ 131 อาการของโรค การขูดแต่ละครั้งต้องขูดให้ครบจุดของโรคจึงจะหายได้ ข้อควรระวัง

ในการขูดกัวซา ผู้ขูดจะต้องไม่ใช้แรงกด เพราะจะเจ็บมาก และกล้ามเนื้อจะช้ำเขียวหลายวัน การขูดผู้ขูดต้องใช้สมาธิและใช้พลังจิต จึงจะดึงพิษออกมาจากร่างกายได้หมด ถ้าขูดพิษขึ้นไม่หมด ผู้ที่ถูกขูดจะระบมหลายวัน คือเจ็บลึกๆ ไม่โล่ง ไม่สบาย และจะมีอาการคันยิบๆ ถ้าหากพิษขึ้นมาไม่หมด ขูดอย่างไรจึงจะรู้ว่ามีพิษหรือไม่มี

 

ขั้นตอนการกัวซา ทั่วร่างกายขับพิษปรับสมดุล

  1. ผู้รับบริการอยู่ในท่านั่งขูดแนวกระดูกสันหลังกลางลำตัวจากไรผมถึงกระดูกก้นกบ
  2. ขูดแนวแผ่นหลังด้านซ้ายตามแนวกระดูกซี่โครงลงมาถึงเอว
  3. ขูดแนวแผ่นหลังด้านขวาตามแนวกระดูกซี่โครงลงมาถึงเอว
  4. ผู้รับบริการอยู่ในท่านอนคว่ำขูดแนวแขนด้านซ้ายเริ่มจากคอจนถึงปลายนิ้วมือ
  5. ขูดสะโพกด้านซ้ายแนวเฉียงจากก้นกบถึงสลักเพชร
  6. ขูดแนวขาซ้ายด้านหลังถึงปลายเท้า
  7. ขูดสะโพกด้านขวาแนวเฉียงจากก้นกบถึงสลักเพชร
  8. ขูดแนวขาขวาด้านหลังถึงปลายเท้า
  9. ขูดแนวแขนด้านขวาเริ่มจากคอจนถึงปลายนิ้วมือ
  10. ผู้รับบริการอยู่ในท่านอนหงายขูดแนวกลางหน้าอก(สำหรับผู้หญิงพิจารณาปฏิบัติตามความเหมาะสม)
  11. ขูดแนวแขนด้านขวาเริ่มจากคอจนถึงปลายนิ้วมือ
  12. ขูดแนวขาขวาด้านหน้าถึงปลายเท้า
  13. ขูดแนวขาซ้ายด้านหน้าถึงปลายเท้า
  14. ขูดแนวแขนด้านซ้ายเริ่มจากคอจนถึงปลายนิ้วมือ
  15. ขูดศีรษะ หน้าผาก ใบหน้า และ รอบหู
  16. ผู้รับบริการลุกนั่ง ขูดคอ และ ฐานกะโหลก ท้ายทอย ให้ทั่ว


ป้ายคำ :

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับหมวด สุขภาพพึ่งตน

แสดงความคิดเห็น