ปลูกมะนาวบนต้นตอมะขวิด มีผลตลอดปี

2 กุมภาพันธ์ 2556 วิชาเกษตรพึ่งตน 0

มะนาวเป็นพืชที่มีความสำคัญมากชนิดหนึ่งสำหรับคนไทยและเป็นเครื่องปรุงรสที่แทบจะขาดไม่ได้ ทำให้มีความต้องการใช้มะนาวตลอดทั้งปี ในบางฤดูที่ผลผลิตมีน้อยมะนาวจึงมีราคาสูงมาก การผลิตมะนาวนั้นมีผู้ประกอบการหลายคนที่ต้องล้มเลิกการผลิต เนื่องจากมะนาวเป็นพืชตระกูลส้มที่อ่อนแอต่อโรคและจากปัญหาต่าง ๆ ที่พบนั้นน้อยคนนักที่จะพบว่าปัญหานั้นแก้ได้ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถ ในการหาอาหารและน้ำ เพื่อให้มะนาวมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น สามารถต้านทานต่อโรคและแมลง รวมถึงการเพิ่มผลผลิตด้วยเกษตรกรส่วนใหญ่จะนำต้นพันธุ์ที่ได้จากการตอนมาปลูก จึงทำให้มะนาวมีระบบรากไม่แข็งแรงการปรับปรุงระบบรากของมะนาวจำเป็นต้องอาศัยรากของพืชอื่นที่มีความสามารถสูงมาทดแทนซึ่งสอดคล้องกับเทคโนโลยีด้านการผลิตในการนำต้นตอพืชพื้นเมืองที่มีอยู่ชนิดหนึ่งซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่ามะขวิด

มะขวิดเป็นพืชที่ขึ้นได้ดีในเขตภาคกลาง เป็นพืชที่มีความต้านทานต่อโรคและแมลงสูงมาก มีความสามารถในการทนแล้งทนต่อน้ำท่วม อายุยืน นอกจากนี้มะขวิดยังเป็นพืชที่สามารถบริโภคได้ไม่มีความเป็นพิษใด ๆ ซึ่งสามารถนำมะขวิดมารวมกับมะนาวได้โดยใช้เทคโนโลยีเกี่ยวกับการติดตาต่อกิ่งเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งได้ทดสอบมาเป็นระยะเวลานานกว่า 16 ปี ที่ผ่านมา ได้ทดสอบถึงการปลูก การติดตาต่อกิ่ง การให้ผลผลิต การตอบสนอง การต้านทานโรค ปรากฏว่ามีทั้งข้อดีข้อเสีย แต่ข้อดีจะมากกว่าข้อเสีย

มะขวิดเป็นพืชที่ทนความแห้งแล้ง มีใบเล็กและเป็นพืชตระกูลส้ม สามารถติดตาได้กับส้ม มะนาวหรือมะกรูด ในชนบทมะขวิดจะขึ้นในที่ดอนหรือในที่ลุ่มแม้ไม่รดน้ำ ก็ไม่เหี่ยวไม่เฉา เป็นพืชที่ทนแล้ง มะขวิดมีการเจริญเติบโตแบบยั่งยืนทนร้อน หนาวหรือจะเป็นฝนก็ตามไม่มีอิทธิพลทำให้มะขวิดชะงักการเจริญเติบโต ไม่โค่นไม่ล้ม มะขวิดมีส่วนดีสามารถเข้ากับมะนาวได้ดีและให้ผลผลิตดก

พืชที่สามารถอยู่บนต้นตอมะขวิดได้ควรเป็นพืชตระกูลส้ม ทั้งนี้เคยมีการทดลองนำส้มขาวแตงกวาไปเสียบกับต้นตอมะขวิด เจริญเติบโตได้ดีพอสมควรแต่ผลที่ได้จะมีเปลือกหนากลายเป็นส่วนไม่ดี ถือว่าใช้ไม่ได้ นำมาทดสอบกับส้มเขียวหวานจะให้ผลดกมากแต่มีรสเปรี้ยว เป็นสิ่งที่ไม่ดี จากการทดลองพืชหลายชนิดสรุปว่า มะนาวและมะกรูดบนต้นตอมะขวิดจะให้ผลผลิตดีกว่าพืชชนิดอื่น ๆ แต่มีข้อเสียคือการเข้ากันไม่ได้ระหว่างรอยต่อ แต่ไม่ถึงกับทำให้เกิดความเสียหายขนาดต้นมะนาวตาย ส่วนข้อดี คือมะนาวจะมีผลดกมาก มีลูกไม่หยุด ไม่ต้องทำนอกฤดูกาลจึงถือเป็นจุดเด่นที่ประชาชนและผู้ปลูกมะนาวพึงประสงค์

ส่วนมะขวิดกับมะกรูดจะให้ผลผลิตที่ดกมาก ทั้งลูกและใบเพราะฉะนั้นถ้าการปลูกมะขวิดแล้วเสียบด้วยมะกรูดจะมีความพอดีและควรที่จะมีการนำไปพัฒนาต่อ

ดังนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่าการนำมะนาวหรือมะกรูดปลูกบนต้นตอของต้นมะขวิด จุดเด่นก็คือจะได้ผลดก ออกลูกตลอดปีไม่จำกัดว่าเป็นฤดูไหนซึ่งต่อไปก็จะหมดปัญหาซื้อมะนาวแพงในหน้าแล้งอีกต่อไป

การดำเนินงานนั้นไม่ยากนักเพียงนำเมล็ดมะขวิดเพาะไว้ในกระบะทรายผสมขี้เถ้าแกลบเก่า เมื่อเห็นว่ามีใบอย่างน้อย 4 ใบจึงย้ายลงถุงดินดูแลรักษาให้เจริญเติมโต เมื่อมีลำต้นที่แรงแรงแล้ว อย่างน้อย 4 เดือน นำลงแปลงปลูกที่เตรียมแปลงเรียบร้อยแล้วตามสภาพของพื้นที่ การเตรียมหลุมปลูก เช่นเดียวกับไม้ผลทั่วไป หมั้นคอยรดน้ำใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เพื่อให้การเจริญเติบโตที่สมบูรณ์ เมื่อมีลำต้นขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-1.5 เซนติเมตร อายุประมาณ 1-2 ปี นำยอดมะนาวพันธุ์ดีที่ต้องการ และเป็นที่ต้องการของตลาดและต้องเป็นกิ่งพันธุ์ปลอดโรค นำมาเปลี่ยนยอดของมะขวิดเหมือนกับการเปลี่ยนยอดไม้ผลทั่วไป คือตัดยอดเก่าทิ้ง สูงจากระดับพื้นดินประมาณ 1 เมตร ด้วยเลื่อยตัดเหล็กตัดขนานกับพื้นดินควรระวังอย่าให้กิ่งฉีกขาด ใช้การเสียบยอดด้านข้าง ถ้าเป็นต้นตอใหญ่สามารถเสียบได้มากกว่า 1 ยอด พันแผลด้วยพลาสติกใส ใช้ถุงพลาสติกครอบคลุ่มรักษาความชื้นและใช้กระดาษทำเป็นถุงคลุมป้องกันแสงแดด ดูแลรักษาปกติ เมื่อได้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือนสังเกตดูถ้าพบว่ายอดมะนาวแตกใบอ่อนแล้ว นำกระดาษและถุงพลาสติกออก ทิ้งไว้ 7 วันจึงกรีดพลาสติกพันแผลออกด้วยใบมีดคม ควรระวังอย่าให้เกิดบาดแผลเพราะจะเป็นช่องทางของเชื้อรา

เพียงเท่านี้ก็จะได้มะนาวบนต้นตอมะขวิดทนทานต่อโรคและแมลง สามารถให้ผลได้ตลอดปี แต่ต้องให้การดูแลรักษาเช่นเดียวกับไม้ผลทั่วไปคือ ต้องมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ คือให้น้ำเดือนละ 1-2 ครั้ง และควรหาวัสดุมาคลุมดินบริเวณโคนต้น เพื่อช่วยรักษาความชื้น ควรเริ่มงดให้น้ำเมื่อต้องการให้มะนาวออกดอก จนถึงช่วงออกดอกเพื่อให้มะนาวสะสม อาหารให้สูงถึงระดับที่สามารถสร้างตาดอกได้ หลังจากมะนาวออกดอกและกำลังติดผลอ่อนเป็นช่วงที่มะนาวต้องการน้ำมากเพื่อใช้ในการเจริญเติบโตของผล และควรใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักเพื่อปรับปรุงบำรุงดินหลังการตัดแต่งกิ่ง เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วอย่างสม่ำเสมอ การเก็บเกี่ยวควรเก็บในขณะที่ผลเริ่มแก่ โดยสังเกตจากด้านขั้วของผลเริ่มมีสีเหลืองเล็กน้อย ผิวเปลือกจะเรียบบางใส มีสีเขียวอ่อนกว่าผลที่ยังไม่แก่ เมื่อบีบดูจะค่อนข้างนุ่มมือ ไม่ควรเก็บมะนาวที่แก่เกินไปเพราะเปลือกจะบาง

เสียบยอดมะนาวพันธุ์พิจิตร1 โดยใช้ต้นตอมะขวิด โดยมีลำดับขั้นตอนดังนี้
1. ตัดกิ่งมะนาวพันธุ์พิจิตร1 ที่จะนำมาเสียบยอด ยาวประมาณ 6 นิ้ว เป็นกิ่งแก่ที่ยังไม่แตกใบอ่อน
2. ตัดยอดมะขวิดออก โดยให้เหลือลำต้นสูงจากดินในถุง ประมาณ 4 นิ้ว
3. ใช้มีดคม (ใช้ใบมีดคัตเตอร์) ผ่าต้นตอมะขวิดตรงรอยตัด ผ่าลึกลงไปตามลำต้นประมาณ 1 นิ้ว
4. ใช้มีดคม ฝานกิ่งพันธุ์มะนาวทั้ง 2 ด้านเป็นรูปลิ่ม ยาวประมาณ 1 นิ้ว
5. นำกิ่งพันธุ์มะนาวที่ฝานเป็นรูปลิ่มแล้ว มาเสียบตรงรอยผ่าบนต้นตอมะขวิด โดยให้ด้านข้างด้านหนึ่งที่มีเปลือกหุ้มอยู่ชิดกันทั้งของกิ่งพันธุ์และต้นตอ
6. นำพลาสติกใสหรือเชือกฟางมาพันรอบรอยเสียบกิ่งให้แน่น อย่าให้น้ำเข้าไปได้
7. นำต้นมะขวิดที่เสียบกิ่งพันธุ์มะนาวแล้ว ครอบด้วยถุงพลาสติก โดยมัดปากถุงให้แน่น
8. ใช้กระดาษหุ้มครอบถุงพลาสติก แล้วนำไปไว้ในที่ร่มโดยไม่ต้องรดน้ำ ประมาณ 15-20 วัน สังเกตดูว่ากิ่งพันธุ์มะนาวที่เสียบนั้น ถ้ายังเขียวสด มียอดอ่อนเริ่มแตกออกมาแสดงว่า ได้ผล แต่ถ้ากิ่งพันธุ์ที่เสียบนั้นเหี่ยวแห้งใบร่วง แสดงว่า ไม่ได้ผล แล้วนำกิ่งพันธุ์ที่เสียบได้ผล ออกจากถุงอบมาไว้ในที่ร่มมีแสงรำไร รดน้ำให้มะนาวบ้าง เลี้ยงดูไปอีกประมาณ 20 วันก็สามารถนำไปปลูกได้

manowseab1 manowseab2 manowseab3 manowseab4manowseab5manowseab6manowseab7manowseab8manowseab9manowseab10manowseab11manowseab12manowseab13

โดย… นายสำเนาว์ ฤทธิ์นุช
อาจารย์ประจำวิทยาลัยเกษตรกรรมและเทคโนโลยีชัยนาท

ป้ายคำ :

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับหมวด วิชาเกษตรพึ่งตน

แสดงความคิดเห็น