กระทิง เป็นไม้ดอกหอมที่พบได้ทั่วไป ตามชายหาดกับป่าบก ทำให้สามารถทนทานต่อไอเกลือและลมทะเลที่พัดรุนแรงได้เป็นอย่างดี กระทิงเป็นไม้ต้น แตกกิ่งจำนวนมาก ทรงพุ่มกลม แผ่กว้าง
ชื่อวิยาศาสตร์ Calophyllum inophyllum L.
ชื่อวงศ์ CLUSIACEAE (GUTTIFERAE)
ชื่ออื่นๆ : กากะทิง (ภาคกลาง) ทิง (กระบี่) เนาวกาน (น่าน) สารภีทะเล (ระยอง ประจวบคีรีขันธ์) สารภีแนน (ภาคเหนือ)
ลักษณะ
ไม้ต้นขนาดกลางถึงใหญ่ สูง ๑๕ – ๓๐ เมตร ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปรีหรือแกมรูปไข่กลับ ยาว ๘ – ๑๕ เซนติเมตร ปลายใบกลมหรือเว้าตื้น โคนใบรูปลิ่มกว้างหรือกลม แผ่นใบค่อนข้างหนา เกลี้ยง เป็นมันวาวทั้งสองด้าน เส้นแขนงใบจำนวนมาก ดอกสีขาว ออกเป็นกระจุกแยกแขนงสั้นๆ ตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง เกสรเพศผู้ สีเหลือง จำนวนมาก ผลสดมีเมล็ดเดียว ทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๒.๕ เซนติเมตร ผลสุกสีเหลือง เมล็ดขนาดใหญ่
การกระจายพันธุ์
พบตั้งแต่ประเทศแอฟริกา อินเดีย ศรีลังกา พม่า จีนตอนใต้ ไต้หวัน ญี่ปุ่น กัมพูชา เวียดนาม ภูมิภาคมาเลเซีย หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิค จนถึงออสเตรเลีย ในประเทศไทยพบขึ้นตามชายหาด ที่โล่งชายป่าใกล้ชายฝั่งทะเล ระดับความสูงไม่เกิน ๒๐๐ เมตร ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคใต้
ประโยชน์
เนื้อไม้ใช้ในการก่อสร้าง ทำเครื่องเรือน และกระดูกงูเรือ น้ำมันใช้ในอุตสาหกรรมสบู่ ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม และใช้ผสมทำเป็นน้ำมันไบโอดีเซลจากเมล็ด
ฤทธิ์ทางชีวภาพ
สารสกัดชั้นน้ำและชั้นเมทานอลยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อ HIV-1 และยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ HIV-1 reverse transcriptase (Kashman et al., 1992) ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย สารสกัดจากเปลือกรากของกระทิงมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ฤทธิ์ต้านการอักเสบ สาร Calophyllolide ซึ่งเป็นสารจำพวก lactone ที่แยกได้จากต้นกระทิงมีฤทธิ์ในการลดการอักเสบ ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส สารสกัดและสารที่แยกได้จากเปลือกรากของกระทิง มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียจำพวกแกรมบวก และสารจำพวก coumarin ที่ได้จากต้นกระทิงมีฤทธิ์ในการยับยั้งretrovirus หลายชนิด ฤทธิ์ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน สารจากต้นกระทิงมีฤทธิ์ในการกระตุ้นการทำงานของ phagocyte ฤทธิ์ในการต้านเชื้อ HIV สารคูมารินส์ 2 ชนิด ที่พบในใบและกิ่งของต้นกระทิง คือ inophyllum B และ P มีฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์ reverse transcriptase ของ HIV-1
การขยายพันธุ์
เพาะเมล็ด ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ต้นที่ได้จากการเพาะเมล็ด มีข้อดีที่ รูปทรงสวยงาม ดูแลง่าย แต่ต้องใช้เวลานานในการปลูก ประมาณ 3 ปีจึงจะออกดอก
การตอนกิ่ง ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนจึงออกราก ต้นที่ได้จากการตอนมีข้อดีที่ออกดอกเร็วภายใน 3 – 6 เดือนหลังตัดกิ่งตอนปลูก
ข้อดีของพันธุ์ไม้ : ใบไม่ร่วงง่ายและเป็นมันเงา ทนดินเค็ม แดดจัด และลมแรงได้ดี ไม่ค่อยมีโรคและแมลงรบกวน ปลูกได้ตั้งแต่ชายทะเลถึงบนเขาสูง ควบคุมการออกดอกได้ด้วยการควบคุมการให้น้ำและการใส่ปุ๋ยที่ถูกต้อง
ข้อแนะนำ :
ป้ายคำ : ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง