การบูร เป็นไม้ยืนต้น ขนาดกลางถึงใหญ่ สูง 15-30 เมตร ใบดกทึบ ใบเดี่ยว สีเขียว ยาว 7-10 เซนติเมตร รูปรีปลายแหลม ดอกช่อ สีขาวอมเขียวหรือเหลือง ขนาดเล็ก ออกเป็นกระจุกตามง่ามใบ ในเดือน มิ.ย.-ก.ค. ผลขนาดเล็กมีเมล็ด ผิวสีชมพูหรือน้ำตาลม่วง เปลือกต้นผิวมันเกลี้ยง สีน้ำตาลอมเขียว เกิดตามป่าดงดิบเขาสูง ขยายพันธ์ด้วยเมล็ดและกิ่งตอน
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cinnamomum camphora (L.) Presl.
ชื่อพ้อง Camphora officinarum Nees, Laurus camphora L.
ชื่อวงศ์ Lauraceae
ชื่ออื่นๆ อบเชยญวน พรมเส็ง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้ยืนต้น ขนาดใหญ่ สูงได้ถึง 30 เมตร ทุกส่วนมีกลิ่นหอม โดยเฉพาะที่ราก และโคนต้น ทรงพุ่มกว้าง ทึบ ลำต้นมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 1.5 เมตร เปลือกต้นสีน้ำตาล ผิวหยาบ เปลือกกิ่งสีเขียว หรือน้ำตาลอ่อน ลำต้นและกิ่งเรียบ ไม่มีขน เนื้อไม้สีน้ำตาลปนแดง
ประโยชน์
เมื่อนำส่วนต่างๆ ของการบูรมากลั่นจะได้น้ำมันระเหยง่าย ซึ่งประกอบด้วยสารต่างๆ เช่น camphor, safrol, cineole, pinene, camphene, phellandrene และ limonene สำหรับ camphor จะเป็นผลึกแยกออกมาเรียกว่า การบูร ใช้เป็นยาระงับเชื้ออย่างอ่อน ยากระตุ้นหัวใจ ขับลม ขับเสมหะ ขับปัสสาวะ แก้ปวด ทำยาทาถูนวดแก้ปวดตามข้อ
ผงการบูร เป็นเกล็ดกลมเล็กๆสีขาวแห้ง อาจจับกันเป็นก้อนร่วนๆแตกง่าย ทิ้งไว้ในอากาศ จะระเหิดไปหมด รสร้อนปร่าเมา บำรุงธาตุ แก้ปวดท้องจุกเสียด ขับลมในลำไส้ แก้ไอ ขับเสมหะ ขับน้ำเหลืองเสีย ใช้เป็นยาทาเพื่อถอนพิษอักเสบชนิดเรื้อรัง ขับเหงื่อ แก้ปวดตามเส้น เกลื่อนฝี แก้เคล็ดขัดยอก บวม แก้กระตุก แก้ปวดข้อ แก้ปวดเส้นประสาท แก้รอยผิวหนังแตก แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย เป็นยาชาเฉพาะที่ ใช้ปรุงกลิ่นรสในยาอื่น ถ้าวางไว้ในห้องจะไล่แมลงรบกวน เช่น ยุง
สรรพคุณ
ตำรายาไทย เนื้อไม้ นำมากลั่นจะได้ การบูร รสร้อนปร่าเมา ใช้ทาถูนวดแก้ปวด แก้เคล็ดบวม ขัดยอก แพลง แก้กระตุก แก้ปวดข้อ แก้ปวดเส้นประสาท แก้รอยผิวหนังแตก แก้พิษแมลงต่อย และโรคผิวหนังเรื้อรัง เป็นยาระงับเชื้ออย่างอ่อน ขับเหงื่อ ขับเสมหะ ขับปัสสาวะ แก้ไข้หวัด และขับลม บำรุงธาตุ บำรุงกำหนัด ยากระตุ้นหัวใจ บำรุงหัวใจ เป็นยาชาเฉพาะที่ เป็นยาระงับประสาท แก้อาการชักบางประเภท ใช้ผสมเป็นยาเพื่อป้องกันแมลงบางชนิด เปลือกและราก กลั่นได้การบูร ใช้ 1-2 เกรน แก้ปวดขัดตามเส้นประสาท ข้อบวมเป็นพิษ แก้เคล็ดบวม เส้นสะดุ้ง กระตุก ขัดยอกแพลง แก้ปวดท้อง ท้องร่วง ขับน้ำเหลือง แก้เลือดลม บำรุงกำหนัด ขับเหงื่อ ขับเสมะหะ บำรุงธาตุ แก้โรคตา กระจายลม ขับผายลม นำมาผสมเป็นขี้ผึ้ง เป็นยาร้อน ใช้ทาแก้เพื่อถอนพิษอักเสบเรื้อรัง ปวดยอกตามกล้ามเนื้อ สะบักจม ทรวงอก ปวดร้าวตามเส้นเอ็น โรคปวดผิวหนัง รอยผิวแตกในช่วงฤดูหนาว แก้พิษสัตว์กัดต่อย
ได้จาก การกลั่นลำต้น ราก หรือใบของการบูร
องค์ประกอบทางเคมี
เนื้อไม้ เมื่อนำมากลั่นด้วยไอน้ำ จะได้การบูรและน้ำมันหอมระเหย รวมกันประมาณ 1% ประกอบด้วย limonene, p-cymol, orthodene, salvene, caryophyllen, linalool, cineole, eugenol, acetaldehyde และ betelphenol ราก มีน้ำมันหอมระเหย 3% ประกอบด้วย camphor, safrole, carvacrol, phellandene, limonene, pinene, camphene, fenochen, cadinene, azulene, citronellol, piperonylic acid, cineol, terpineol, piperiton, citronellic acid ใบ พบ camphor และ camperol
ป้ายคำ : ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง, สุขภาพ