ขี้แดดนาเกลือ คือ สาหร่ายและตะใคร่น้ำที่จับตัวกันเป็นแผ่นในนาเกลือ และตกตะกอนแห้งสนิทในนาเกลือ หลังพักการทำนาเกลือในฤดูฝน ขี้แดดนาเกลือชาวนาเกลือเรียกว่า ดินหนังหมา ชาวนาเกลือจะเก็บขี้แดดปีละครั้ง ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ของทุกปีก่อนบดนาทำนาเกลือ ขี้แดดนาเกลือเกิดจาก การทำนาเกลือในช่วงปลายฤดูฝนก่อนการทำนาเกลือของปีถัดไปขี้แดดนาเกลือเกิดจากสาหร่าย ตะไคร่น้ำ และจุลินทรีย์เล็กๆ ในน้ำ ในอันนนาเกลือ หลังจากหมดฤดูฝนน้ำในนาเกลือจะแห้ง สาหร่าย ตะไคร่น้ำ และจุลินทรีย์เล็กๆ เหล่านั้นจะหมดตัวในนาเกลือ และแห้งเป็นแผ่นตกสะเก็ดในอันนาเกลือ เรียกว่า ขี้แดดนาเกลือ หรือ ดินหนังหมา
คุณสมบัติของขี้แดดนาเกลือแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
การใช้ประโยชน์จากขี้แดดนาเกลือ
ผศ.ดร.ณรงค์ ฉิมพาลี เป็นผู้วิเคราะห์ ได้ผลวิเคราะห์ออกมาว่า การใช้ประโยชน์จากขี้แดดนาเกลือ จากการศึกษาและวิจัยของคณะผู้วิจัย พบว่า มีชาวนาเกลือนำเมล็ด
แตงโม แตงไทย โยนทิ้งไว้ในกองขี้แดดนาเกลือ ปรากฏว่า เมล็ดแตงโมและแตงไทยแตกยอดออกช่อ เจริญงอกงามเติบโต และติดดอกผลได้ดี ที่สำคัญคุณภาพของผลแตงโมเนื้อจะแน่น สีแดงสด รสชาติหวาน ส่วนผลแตงไทยจะผลใหญ่ เนื้อนุ่ม มีรสหวาน ทานแล้วอร่อยมาก ชาวนาเกลือบางรายนำขี้แดดนาเกลือค้างปีไปใช้ในการปลูกละมุด
พุทรา กล้วยน้ำว้า ทับทิม และผักบางชนิด เช่น บวบ มะเขือ พริก ผลไม้ต่างๆ รวมทั้งผักเกือบทุกชนิด เจริญเติบโตดีมาก และผลผลิตออกมามีคุณภาพที่ดี
จากการศึกษาทดลองนำขี้แดดนาเกลือเก่าเกิน 6 เดือน ไปใช้กับผลไม้ใหญ่ ได้แก่ ส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่ แก้วมังกร ชมพู่ ขนุน ฝรั่ง ปรากฏว่าทำให้ส้มโอมีรสชาติหวานน้ำหนักดี เปลือกบาง เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคอย่างมาก และมีเกษตรกรผู้สนใจนำขี้แดดนาเกลือไปใช้พัฒนาคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรอีกหลายชนิด ก็ได้ผลดีเช่นกัน
และจากข้อมูลของกลุ่มเยาวชนเกษตร ซึ่งมีคุณบุญปรอด เจริญฤทธิ์ ไปสอบถามจากกลุ่มสมาชิกปรากฏว่า พบการประโยชน์ได้ดังนี้ ใช้ขี้แดดนาเกลือในการปลูกกะเพรา และใบโหระพา งอกงามดีมาก และยังใช้ขี้แดดนาเกลือในการเลี้ยงนก ให้ไก่ชนและไก่พื้นบ้านกิน ทำให้ไก่ไม่จิกกันเอง และไก่ก็เจริญเติบโตดีมาก และใช้ขี้แดดนาเกลือใน
การปลูกแตงโม และแตงไทย เนื้อแตงโมจะสีแดงสด และรสชาติหวานจัด แตงไทยจะมีเนื้อดี หอมหวานน่ารับทาน นอกจากนี้ ขี้แดดนาเกลือ ยังทำปุ๋ยอินทรีย์ ใช้สำหรับบำรุงดิน ทำให้ดินร่วนซุย เหมาะแก่การเจริญเติบโตของต้นพืชอย่างดี
แต่ข้อควรระวัง ในการใช้ปุ๋ยขี้แดดนาเกลือ เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร คือ
คุณสมบัติทางเคมี สำหรับการค้นหาคุณสมบัติทางเคมี ผู้วิจัยและผู้ร่วมวิจัยได้นำขี้แดดนาเกลือส่งไปภาคเคมีคณะวิทยาศาสตร์ มหาลัยศิลปากร ดำเนินการวิเคราะห์ให้โดย ผศ.ดร.ณรงค์ฉิมพาฉี เป็นผู้วิเคราะห์ มีธาตุอาหารดังนี้ P2O5 = 0.13% K2O = 2%
จากขี้แดดนาเกลือมีคุณสมบัติทางเคมี มีธาตุอาหารฟอสฟอรัสและโปรแทสเซียม สามารถนำไปใช้เป็ยปุ๋ยชีวภาพเพิ่มความหวนแก่ผลไม้ได้ดี การนำขี้แดดนาเกลือใส่เป็นปุ๋ยของผลไม้ ควรใส่ก่อนเก็บผลผลิต 1-2 เดือน อัตราการใช้ขี้แดดนาเกลือกับใช้ไม้ผลใช้ 1-3กก./ต้น ใส่รอบทรางพุ่ม หรือจะใช้ขี้แดดนาเกลือ ผสมปุ๋ยหมักก็ได้ ถ้าใช้กับพืชผักควรเป็นขี้แดดเก่าหลังจากเก็บมาแล้ว 5-6 เดือน
ข้อมูลของขี้แดดนาเกลือ แต่ยังขาดผลวิเคราะห์พวกจุลธาตุอาหารและสารฮิวมิก
คำแนะนำสำหรับการใช้ขี้แดดนาเกลือเพิ่มรสหวานให้ไม้ผล
ขี้แดดนาเกลือ หรือ ชาวบ้านเรียกกันว่า หนังหมา คือ สาหร่ายตะไคร่น้ำที่จับตัวกันเป็นแผ่นในนาเกลือ และตกตะกอนแห้งสนิทในนาเกลือ โดยในขี้แดดนาเกลือมีคุณสมบัติทางเคมี มีธาตุอาหารฟอสฟอรัสและโปรแทสเซียม สามารถนำไปใช้เป็นปุ๋ยชีวภาพ จากคุณสมบัติดังกล่าว ผู้ช่วยศาสตราจารย์ฐิตยา ศรขวัญ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี นำมาคิดค้นสูตรและผลิตเป็นปุ๋ยชีวภาพ โดยใช้เชื้อราปฏิปักษ์อัดเม็ด Trichoderma เป็นตัวเร่ง
ปุ๋ยชีวภาพขี้แดดนาเกลือที่ย่อยสลายด้วยหัวเชื้อราปฏิปักษ์อัดเม็ด Trichoderma จะเกิดสารอินทรีย์ที่มีลักษณะคล้ายฮิวมัส โดยใช้ระยะเวลาในการย่อยสลายวัสดุด้วยการหมักเพียง 20-30 วัน ส่งผลให้ค่าปริมาณคาร์บอนต่อไนโตรเจน (C/N) มีค่าเท่ากับ 10.14 เนื่องจากปริมาณอินทรียวัตถุ และอัตราส่วนของคาร์บอนต่อไนโตรเจนเป็นดัชนีชี้วัดในการแสดงถึงการย่อยสลายที่สมบูรณ์ของวัตถุอินทรีย์ เกิดการย่อยสลายยังที่สมบูรณ์ ใช้ปริมาณตัวเร่งที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้การย่อยสลายเกิดได้ดีขึ้น ดังนั้นในงานวิจัยได้เลือกใช้ตัวเร่งในการผลิตปุ๋ยชีวภาพจากขี้แดดนาเกลือโดยใช้เชื้อราปฏิปักษ์ Trichoderma 1 % ต่อน้ำหนักของวัสดุหมัก
ส่วนผสมในการผลิตปุ๋ยขี้แดดนาเกลือประกอบด้วย ขี้แดดนาเกลือ หัวเชื้อราปฏิปักษ์ มูลสัตว์แห้ง แกลบดิบ และรำละเอียด ขั้นตอนเริ่มจากนำขี้แดดนาเกลือมาบด จากนั้นนำมูลสัตว์ แกลบดิบ รำละเอียดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ผสมหัวเชื้อราปฏิปักษ์อัดเม็ด Trichoderma กับกากน้ำตาล และน้ำสะอาด
พักไว้ 2-3 ชั่วโมง เพื่อขยายเชื้อ (เรียกว่า น้ำหัวเชื้อ) จากนั้นนำมาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้งในระดับความชื้นปริมาณ 60 % ทดสอบโดยใช้มือกำเป็นก้อนแล้วไม่แตก หมักปุ๋ยชีวภาพต่อเป็นเวลา 20 30 วันและต้องคอยกลับกองปุ๋ยทุกๆ 3 วัน จะได้ปุ๋ยชีวภาพขี้แดดนาเกลือที่พร้อมใช้งาน
จากผลการวิจัยพบว่า ปริมาณร้อยละของธาตุไนโตรเจน (N) 1.6 ฟอสฟอรัส(P) 1.88 และโพแทสเซียม(K) 2.42 ข้อดีของปุ๋ยชีวภาพขี้แดดนาเกลือ คือ ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบจากการใช้สารเคมีต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค ต่อดิน และสภาพแวดล้อม โดยนายเสน่ห์ พุทธา เกษตรกรบ้านหนองบวบหอม ตำบลหนองบวบหอม อำเภอสอสงพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ได้นำปุ๋ยชีวภาพขี้แดดนาเกลือไปใช้กับผักสวนครัว ชาวนาตำบลทุ่งคอก อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี นำไปใช้ในนาข้าว นอกจากนี้ยังทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ของดินดีขึ้นในระยะยาว การผลิตปุ๋ยชีวภาพขี้แดดนาเกลือใช้เอง เป็นการผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากวัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น ซึ่งส่งผลในมีการลดต้นทุนในการผลิต เพราะปุ๋ยเคมีมีราคาแพง และเกษตรกรก็จะได้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น และสามารถสร้างชุมชนให้เข้มแข็งที่สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยอาจารย์ได้นำมาถ่ายทอดให้แก่ชุมชนสหกรณ์หมู่ 3 ตำบลโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เป็นการสร้างรายได้และสร้างอาชีพให้กับชาวบ้านในชุมชน เป็นการพัฒนาด้านเศรษฐกิจแบบยั่งยืนและพัฒนาชุมชนด้วยเทคโนโลยีแบบบูรณาการ
นอกจากนี้ผู้ช่วยศาสตราจารย์ฐิตยายังได้นำการผลิตปุ๋ยชีวภาพขี้แดดนาเกลือไปถ่ายทอดให้กับแหล่งชุมชนต่างๆ เช่น หมู่บ้านแสนสุขสกัดห้า ตำบลคลองสิบ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อทอง อำเภอบ่อทอง จังหวัดปราจีนบุรี ชุมชนใดสนใจสามารถขอปุ๋ยไปทดลองได้ที่ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี หรือจะติดต่ออาจารย์เป็นวิทยากรพิเศษ อาจารย์ยินดีบริการให้ข้อมูล สอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ฐิตยา ศรขวัญ โทร.02-5494181-2 , 084-1279460
ป้ายคำ : ปุ๋ยหมักชีวภาพ