ชามะขามป้อม

มะขาม ป้อมมีรสเปรี้ยว ฝาด ขม เช่นเดียวกับสมอไทย จึงสามารถแก้โรคต่างๆ ได้มากเช่นเดียวกันสมอไทย ตำรายาอินเดียยกย่องมะขามป้อมไว้มากว่า เป็นผลไม้บำรุงร่างกายที่ดีมาก ตำราบางเล่มถึงกับกล่าวว่า ถ้าคนอินเดียไม่มองข้ามมะขามป้อม คือเอามะขามป้อมมากินเป็นประจำวันละ 1 ลูก ทุกวัน เขาเชื่อว่าคนอินเดียจะมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงกว่านี้มากนัก ทั้งนี้เพราะมะขามป้อมบำรุงอวัยวะแทบทุกส่วนของร่างกาย คือ บำรุงผม สมอง ดวงตา คอ หลอดลม ปอด หัวใจ กระเพาะ ฯลฯ แก้น้ำเหลืองเสีย ปรับประจำเดือนให้มาปกติ บำรุงเลือด บำรุงกำลัง ช่วยลดความดันเลือดสูง

charmakampompol

ปัจจุบันในต่างประเทศมีผลิตภัณฑ์มะขามป้อมมากมายจำหน่ายในรูปของชา อาหารสุขภาพ เครื่องสำอาง ซึ่งเป็นตำรับบำรุงสุขภาพ ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ เพิ่มภูมิคุ้มกัน และต่อสู้กับการหลุดร่วงของเส้นผม ลบรอยจุดด่างดำ ซึ่งในประเทศไทยโรง-พยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้ริเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์จากมะขามป้อม โดยพัฒนาเป็นยาแก้ไอ น้ำมันหมักผมมะขามป้อมสมอไทยเพื่อบำรุงผม น้ำมะขามป้อมเพื่อบำรุงสุขภาพและอยู่ระหว่างการทำเป็นครีมลบรอยด่างดำบนใบหน้า ซึ่งตำรับต่างๆ สามารถทำได้ง่ายๆ

ผลสดถ้าเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง (๒๙-๓๗ องศา-เซลเซียส) นาน ๓๖๕ วัน จะเสียวิตามินซีไปร้อยละ ๖๗
เนื้อผลตากแดดให้แห้ง จะเสียวิตามินซีไปประมาณร้อยละ ๖๐ ถ้าทำให้แห้งที่อุณหภูมิห้อง จะเสียวิตามินซีไปไม่มากนัก เนื้อผลแห้งเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องจะเสียวิตามินซีไปร้อยละ ๒๕ ในเวลา ๒ สัปดาห์ เสียวิตามินซีไปร้อยละ ๕๐ ในเวลา ๔ สัปดาห์ และเสียไปร้อยละ ๖๐ ในเวลา ๔๘ สัปดาห์

วิธีทำชามะขามป้อม

มะขามป้อมหั่นบางๆส่วนที่เสียจุดดำทิ้งไป หั่นชิ้นบางให้เท่าๆกัน

charmakampoms
มะขามป้อมสดหั่นบางๆ

charmakampompa
คั่วไฟอ่อนๆให้สุกจะหอม

charmakampomhun
คั่วพอสุก ตากเพียงครึ่งแดด(ครึ่งวัน)

charmakampomdad
มะขามป้อมที่คั่วสุกแล้วตากแห้ง ที่ยังไม่แห้งมากนัก

charmakampomhangs
ควรตากให้แห้งมากๆหรือจะนำไปคั่วหรืออบอีกครั้งก่อนเก็บใส่ภาชนะหรือใส่ซอง
จะได้เก็บไว้ได้นานปีได้

charmakampomtang
ชามะขามป้อม (ที่ยังไม่แห้งมาก) น้ำชามีรสเปรี้ยวและหอม
น้ำคั้นจากผล ใส่ขวดเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องนาน ๒ สัปดาห์ จะเสียวิตามินซีไปมากกว่าร้อยละ ๕๐ แต่ถ้าเก็บในตู้เย็นนาน ๙ สัปดาห์ จะเสียวิตามินซีไปน้อย กว่าร้อยละ ๕๐ ในน้ำคั้นจากผลที่ใส่ขวดเก็บไว้ จะมี ความเป็นกรดเพิ่มขึ้นและมีความเป็นกรดคงที่ ที่ pH2
แต่อย่างไรก็ตาม ผลมะขามป้อมยังมีสารในกลุ่ม แทนนินชื่อว่า emblicanins A และ B ที่มีฤทธิ์เป็นเช่นเดียวกับวิตามินซี แต่มีฤทธิ์แรงกว่าและไม่สลายตัวง่ายเช่นเดียวกับวิตามินซี สารดังกล่าวมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านมะเร็ง เพิ่มภูมิคุ้มกัน กำจัดพิษโลหะหนัก รักษาโรคลักปิดลักเปิด ทั้งยังช่วยเสริมฤทธิ์วิตามินซี ดังนั้น ท่านจึงไม่ต้องกังวลว่า การกินมะขามป้อมแปรรูปหรือมะขามป้อมแห้งจะไม่ได้ประโยชน์

ปัจจุบันมีการศึกษาพบประโยชน์มากมายของมะขามป้อมในการลดความดัน ลดน้ำตาลและลดไขมันในเลือด การกินมะขามป้อมช่วยควบคุมโรคเบาหวาน ทางอายุรเวท พบว่าการดื่มน้ำมะขามป้อมคั้นสด 1 ช้อนโต๊ะ (15 ซีซี) กับน้ำมะระขี้นกคั้นสด 1 ถ้วย ทุกวันเป็นเวลาสองเดือนสามารถกระตุ้นให้ตับอ่อนหลั่งอินซูลินและลดระดับ น้ำตาลในเลือดได้ การกินยาตำรับนี้ต้องมีการควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด และยาตำรับนี้ยังลดอาการแทรกซ้อนทางตาจากโรคเบาหวาน

makhaam

ผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของ สรรพคุณมะขามป้อม

  1. พบว่าสารสกัดด้วยน้ำของผลมะขามป้อม ช่วยยับยั้งความเป็นพิษต่อตับและไต ซึ่งพบว่าป้องกันพิษที่เนื่องมาจากตะกั่ว และอะลูมิเนียม ในเนื้อเยื่อตับและไตของหนู ได้ดีเมื่อเทียบกับวิตามินซี แต่สารสกัด จากผลมะขามป้อมมีประสิทธิภาพดีกว่า
    – ฤทธิ์ต้านการกลายพันธุ์ พบว่าให้ผลเช่นเดียวกับวิตามินซีในปริมาณเท่ากัน ในการลดความถี่ของการเกิดโครโมโซมผิดปกติและการแตกหักของโครโมโซม
    – ฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส สามารถยับยั้งเอนไซม์ HIV-1 REVERSE TRANSCRIPTASE ได้ดี
    – ฤทธิ์ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร โดยมีฤทธิ์ต้านปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่มีบทบาทสำคัญในการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร และเพิ่มการหลั่งเยื่อเมือกในกระเพาะอาหาร
  2. สารสกัดของมะขามป้อม สามารถยับยั้งการเกิดมะเร็งต่อตับได้ดีเมื่อทดสอบในสัตว์ทดลอง โดยประสิทธิภาพในการต้านการเกิดมะเร็งของสารสกัดนี้แปรผันตรงกับความเข้มข้น
  3. น้ำคั้นผลสดเมื่อป้อนให้กระต่ายที่มีภาวะหลอดเลือดตีบแข็ง สามารถลดระดับคอเลสเตอรอล triglyceride phospholipids และ LDL ในซีรั่มลงถึง 82% 66% 77% และ 90% ตามลำดับ รวมทั้งยังขับถ่ายคอเลสเตอรอลและไขมันได้มากขึ้น
  4. สารสกัดจากผลใบ และลำต้นของมะขามป้อมมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและสารสกัดจากเปลือกลำต้นมีฤทธิ์ต้านเชื้อรา

ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด
สารสกัดจากผลมะขามป้อมยังมีฤทธิ์ป้องกันกล้ามเนื้อหัวใจตายบางส่วน โดยทดลองให้หนูใหญ่ที่ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตาย (โดยการฉีด isoproterenol เข้าใต้ผิวหนัง ขนาด ๘๕ มก.ต่อน้ำหนักตัว ๑ กก. ติดต่อกัน ๒ วัน) และกินสารสกัดด้วยแอลกอฮอล์จากผล ในขนาด ๑ กรัมต่อน้ำหนักตัว ๑ กก. ติดต่อกัน ๒ วัน ตรวจดูผลหลังจากฉีด isoproterenol เข็มแรกแล้ว ๔๘ ชั่วโมง หนูใหญ่กลุ่มที่ฉีด isoproterenol อย่างเดียว มี cardiac glycogen ลดลง และระดับของ SUOT, SGPT และ LDH เพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัด ส่วนกลุ่มที่ฉีด isoproterenol และให้กินสารสกัดจากผลจะมีระดับของ cardiac glycogen เพิ่มขึ้น ระดับของเอนไซม์ SGOT, SGPT และ LDH ลดลงอย่างเด่นชัด
นอกจากนี้ ยังมีการทดลองพบว่าสารสกัดของมะขามป้อมมีฤทธิ์ลดไขมันในเลือดทั้งในสัตว์ทดลองและคน มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง มีฤทธิ์ต้านไวรัส มีฤทธิ์ลดการอักเสบ มีฤทธิ์ เพิ่มภูมิคุ้มกัน

charmakampomap

ที่มา
https://www.gotoknow.org/posts/560209
www.abhaithaiherb.com
นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่: 309

ป้ายคำ :

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับหมวด อาหารเพื่อสุขภาพ

แสดงความคิดเห็น