ได้นำเอาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงอย่างเต็มรูปแบบมาใช้เมื่อประมาณ ปี 2542 หลังจากได้พบกับ นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร ซึ่งเป็นประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ โดยที่ก่อนหน้านี้ เมื่อประมาณ ปี 2530 ได้ทำการเลิกเหล้า – บุหรี่ เนื่องจากให้ความสำคัญกับเรื่องเศรษฐกิจครัวเรือน และให้ความสำคัญกับการศึกษาของลูก ๆ และตั้งใจทำมาหากินประกอบอาชีพจนกระทั้งสามารถส่งลูกเรียนจนจบชั้นปริญญาทุกคน
องค์ความรู้ ( Knowledge Base )
ที่มาขององค์ความรู้ทางด้านการเกษตรที่สำคัญของ ดต. นิรันดร์ ประกอบด้วย
- จากการอบรมกับมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติของอาจารย์วิวัฒน์ ศัลยกำธร ที่สำคัญได้แก่ เศรษฐกิจพอเพียง /การคืนชีวิตให้แผ่นดิน/ การปลูกหญ้าแฝก/การทำปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ
- จากการฝึกอบรม นพค. (หน่วยทหารพัฒนาเคลื่อนที่) ที่สำคัญได้แก่ การเลี้ยงสัตว์/การประมง
- จากประสบการณ์ การใช้สมุนไพรต่าง ๆจากการเป็น ตชด. ซึ่งได้ปฏิบัติงานและอาศัยอยู่ในป่าเป็นเวลานาน
- จากการถ่ายทอดความรู้เรื่องสมุนไพรจากบรรพบุรุษ ซึ่งเป็นหมอสมุนไพร
ความชำนาญพิเศษ
- เศรษฐกิจพอเพียง
- โรคพืช และการใช้สมุนไพรโรคพืช
- การทำปุ๋ยชีวภาพ
ที่อยู่ 204/26 27 ถนนทุ่งสง สุราษฎร์ธานี ตำบลชะมาย อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติทุ่งสง
ที่ตั้งศูนย์ : 282 หมู่ 4 ตำบลนาโพธิ์ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ก่อนหน้าที่จะตั้งศูนย์ ฯ ดต.นิรันดร์ ก็ได้ทำการให้การฝึกอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรในเรื่องการทำปุ๋ยชีวภาพ โรคพืช การใช้สมุนไพรแก้ปัญหา โรคพืช ต่อมาประมาณ ปี 2548 ได้มีผู้บริจาคที่ดิน จำนวน 21 ไร่ โดยได้ทำสัญญาให้ใช้ประโยชน์ 25 ปี เพื่อใช้เป็นศูนย์เรียนรู้ พร้อมทั้งบริจาคเงินสร้างสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ในศูนย์ ฯ ซึ่งศูนย์เห็นให้บริการอย่างเป็นทางการ เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2549โดยที่ศูนย์ฯได้ดำเนินการอบบรมโดยยึดแนวเศรษฐกิจพอเพียง ที่ได้รับการถ่ายทอดจากมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติของอาจารย์วิวัฒน์ ศัลยกำธร
แนวคิดในการสร้างศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ คือ บริเวณพื้นที่ที่เป็นไม้ใหญ่หรือป่าจะสงวนเอาไว้ให้เป็นป่าธรรมชาติ เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม้ทุกชนิดจะอาศัยพึ่งพาซึ่งกันและกัน ผลผลิตที่ได้จากแปลงสาธิตจะไม่เน้นในเชิงพาณิชย์ เพื่อเป็นการปลูกฝังและแก้จิตสำนึกคน เพื่อให้รู้จักการให้และเสียสละ
วิสัยทัศน์ เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงของภาคใต้ ซึ่งทุก ๆคนสามารถเข้ามาเรียนรู้ได้
เป้าหมาย เน้นให้ผู้เข้ารับการอบรมที่จบออกไปต้องมีคุณภาพสามารถนำความรู้ไปขยายผลได้
กลยุทธ์ การให้ทั้งความรู้ โดยไม่หวังผลตอบแทนและใช้ความจริงใจ
จุดเด่นของศูนย์เรียนรู้ ฯ
- เป็นฐานการเรียนรู้ฝึกอบรมเรื่องเกษตรอินทรีย์
- โรคพืช
- การปลูก / ดูแลรักษาปาล์มน้ำมัน ยางพารา และทุเรียน
เนื้อหาหลักสูตรที่ได้เปิดทำการฝึกอบรม
- ) เศรษฐกิจพอเพียง
- ) การแก้ปัญหาโรคพืช
- ) สมุนไพรสำหรับใช้ในการเกษตร
- ) ปุ๋ยชีวภาพ (ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยน้ำ ปุ๋ยอัดเม็ด)
- ) ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน เช่น น้ำยาทำความสะอาด น้ำยาล้างจาน
- ) น้ำมันไบโอดีเซล
แนวทาง/ที่ใช้ในการจัดการอบรม
พยายามปลูกฝังให้ผู้เข้ารับการอบรมทุกคนมีความรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงโดยเน้น
- การพึ่งพาตนเอง โดยเฉพาะเรื่องการปลูกข้าวเพื่อให้เลี้ยงตัวเองได้ โดยกรณีที่เป็นปาล์มน้ำมัน หรือยางพารา ในปีแรก ๆ ที่ยังไม่ได้รับผลก็ให้ปลูกข้าวไร่ในระหว่างร่องอกที่ปลูก เพื่อให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้
- การชี้ให้เห็นถึงโทษ พิษภัยของสารเคมีและให้หันมาใช้สารอินทรีย์ชีวภาพ
- การปลูกหญ้าแฝก
- การปลูกพืชเพื่อให้ครอบคลุมรายได้ 4 แบบ คือ
– รายได้ประจำวัน
– รายได้ประจำสัปดาห์
– รายได้ประจำเดือน
– รายได้ประจำปี
- การประยุกต์ใช้วัสดุที่เหมาะสม และมีในท้องถิ่น เช่น การใช้ต้นอ้อ ต้นสาคู แทนการใช้แกลบซึ่งเป็นวัตถุดิบ
- การตรวจวิเคราะห์สภาพดินในที่ของตนเอง เพื่อจะได้ทราบว่าที่ดินของตนเองมีลักษณะเป็นอย่างไร ขาดธาตุอาหารอะไร หรือมีธาตุอาหารอะไรมาก เพื่อจะได้ปรับปรุงที่ดินให้เหมาะสมต่อไป
- การจดบันทึก / การทำบัญชีครัวเรือน เพื่อจะได้ทราบว่าที่ผ่านมาผลการดำเนินงานของตนเองเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อจะได้นำมาใช้ในการปรับปรุงแก้ไขต่อไป
แนวทางการดำเนินงานอบรมของศูนย์ฯ (Knowledge Management)
- เมื่อจะมีการฝึกอบรมจะเชิญวิทยากรที่เกี่ยวข้องมาเพื่อชี้แจง และซักซ้อมความเข้าใจโดยการฝึกอบรมแต่ละรุ่นจะยึดผู้เข้ารับการอบรมเป็นศูนย์กลาง และเน้นการมีส่วนร่วมในการฝึกปฏิบัติของผู้เข้ารับการอบรม
- ช่วงอบรมจะมีทั้งส่วนที่เป็นภาคบรรยายที่เป็นทฤษฎีและมีการแบ่งกลุ่มลงมือฝึกปฏิบัติ และในตอนกลางคืนจะแบ่งกลุ่มย่อยและให้ตัวแทนออกมาสรุปบทเรียนและปัญหาที่พบในแต่ละวัน
- สำหรับวิทยากรจะมีการสรุปประเมินผลการฝึกอบรมเพื่อหาส่วนที่บกพร่องเพื่อจะให้ทำการปรับปรุงแก้ไขต่อไป (โดยในการประชุมของวิทยากรจะเป็นการพูดถึงสิ่งไม่ดีหรือข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น เพื่อได้ทำการปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้นต่อไป)
การเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายของศูนย์ฯ
- การช่วยเหลือด้านบุคคลากร โดยที่หากศูนย์เรียนรู้ในเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติใดขาดวิทยากร หรือมีวิทยากรเรื่องใดไม่เพียงพอ ก็อาจจะให้วิทยากรของอีกศูนย์ในเครือข่ายมาช่วยบรรยายให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการอบรมในศูนย์นั้น
- การแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันและเสริมองค์ความรู้ใหม่ ๆ ของวิทยากรและผู้สนใจ โดยเฉพาะการประชุมที่จัดขึ้นอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ณ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง ตำบลหนองบอนแดง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี