ผงฟู หรือ baking powder เป็นสารที่ทำให้เกิดการขึ้นฟูมีส่วนผสมระหว่างเบกกิ้งโซดากับกรดและแป้ง (ทำหน้าที่ดูดความชื้นไม่ทำให้ผงฟูจับกันเป็นก้อน) ซึ่งระหว่างปฏิกิริยาจะทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งส่วนนี้จะทำให้ขนมฟู และเนื้อนุ่ม
ผงฟูแบ่งเป็น 2 แบบ คือ
- ผงฟูที่ให้ปฏิกิริยารวดเร็ว หรือผงฟูกำลังหนึ่ง หรือ single acting ผงฟูชนิดนี้จะผลิตแก๊สอย่างรวดเร็วในระหว่างที่ผลิตภัณฑ์รอการเข้าอบ ดังนั้นการใช้ผงฟูประเภทนี้ต้องผสมส่วนผสมอย่างรวดเร็ว และนำเข้าอบทันทีที่ผสมเสร็จ ไม่เช่นนั้นจะเกิดการสูญเสียก๊าซที่จะเกิดขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาจะขึ้นฟูไม่ดี
- ผงฟูที่ใช้ปฏิกิริยาช้า หรือผงฟูกำลังสอง หรือ double acting จะประกอบด้วยสองส่วนคือ ส่วนที่ให้ปฏิกิริยาช้า กับเร็ว (เกิดก๊าซทั้งตอนผสม และตอนเมื่อได้รับความร้อนจากตู้อบ) โดยส่วนมาผูประกอบการจะนิยมใช้ตัวนี้ เพราะไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเหมือนแบบผงฟูกำลังหนึ่ง
สรุป
เบคกิ้งโซดา = baking soda + nothing
แต่
ผงฟู = baking soda + cream of tartar +corn starch
เบคกิ้งโซดา โดดๆตัวเดียว ใช้แทนผงฟูไม่ได้ ต้องเพิ่มสารกรด(เช่น cream of tartar และแป้งข้าวโพดเข้าไปด้วย)
ประโยชน์ของกับร่างกาย
- บรรเทาอาการผิวไหม้แดด ผสมเบคกิ้งโซดาลงในน้ำอุ่นสำหรับอาบจะช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนที่เกิดจากผิวไหม้จากแดดได้
- แก้เจ็บคอ ผสมเบคกิ้งโซดาครึ่งช้อนชาลงในน้ำเปล่าใช้กลั้วคอทุก ๆ 4 ชั่วโมง จะช่วยลดอาการเจ็บคออันเกิดจากกรด รวมทั้งยังช่วยรักษาแผลในช่องปากได้ดีอีกด้วย
- น้ำยาดับกลิ่นปาก
– ผสมเบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนโต๊ะ ในน้ำ 1 แก้ว สามารถดับกลิ่นหอม ,กระเทียม ได้ ถ้าใช้เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำอุ่น 1 แก้ว และผสมเกลือใช้เป็นน้ำยาบ้วนปากได้
– ผสมเบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำอุ่น 1 ถ้วย ใช้บ้วนปากจะช่วยดับกลิ่นปากได้
- ขัดฟันให้ขาว นำเบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา ใช้แปรงสีฟันจุ่มแล้วขัดฟันเบา ๆ บ้วนน้ำเปล่าจนสะอาดคราบชา กาแฟ จะหายไป (ห้ามทำเวลาป่วยเพราะมะนาวมีกรดสูงอาจทำลายเคลือบฟันได้)
- ทำสครับขัดหน้า
– นำเบคกิ้งโซดา 3 ส่วน น้ำเปล่า 1 ส่วน ผสมกันให้พอเปียก ๆ แล้วขัดหน้าเบา ๆ จนรู้สึกว่าหน้าสะอาดแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า
– นำเบคกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ ข้าวโอ๊ต 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำ 2 ช้อนตวง นำมาผสมให้เข้ากันแล้วนำมาขัดหน้าเบา ๆ เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นจะรู้สึกว่าหน้าสะอาดและนุ่ม
- ทำสครับขัดผิว นำเบคกิ้งโซดา 1/2 ถ้วย เกลือ 1/2 ถ้วย มะนาว 1 ลูก น้ำมันทาผิว 2 ช้อนโต๊ะ นำมาผสมกันก่อนจะใช้แล้วนำมาขัดผิวกายระหว่างอาบน้ำ
- สปาเท้า นำเบคกิ้งโซดา 1/2 ถ้วย เกลือทะเล 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอมระเหยกลิ่นมินต์ และนำน้ำอุ่นใส่ในกะละมังแช่เท้า จะช่วยฆ่าเชื้อโรค ดับกลิ่นเท้า รวมทั้งความร้อนจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเท้าได้
- เส้นผม เพียงแค่นำผงฟูหนึ่งช้อนชามาผสมแชมพู แล้วนำไปสระผมตามปกติ สูตรนี้จะช่วยขจัดสารตกค้างจากผลิตภัณฑ์แต่งผม และขอบอกอีกสักนิดว่าสูตรนี้เหมาะสมกับผมเส้นเล็กนะจ๊ะ
- ขัดหน้า ผสมผงฟูครึ่งช้อนชากับ cleanser ที่น้องๆ ใช้อยู่ เมื่อหน้าเปียกหมาดๆ ให้นำส่วนผสมที่เตรียมไว้แล้วมานวดให้ทั่วใบหน้า และล้างออกด้วยน้ำสะอาด แต่ถ้าน้องๆ มีปัญหาสิว ให้เพิ่มยาแอสไพรินหนึ่งเม็ดที่บดเรียบร้อยแล้วเข้าไปด้วย เพราะในยาชนิดนี้มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก ที่จะเป็นตัวช่วยกำราบแบคทีเรียได้
- หวีและแปรง เทน้ำอุ่นเทลงในภาชนะที่เตรียมไว้ แล้วเติมผงฟูลงไป 2-3 ช้อนโต๊ะ แช่หวีและแปรงทิ้งไวั้ประมาณ 2-3 นาที หลังจากนั้นนำไปล้างด้วยน้ำสะอาด และพึ่งแดดให้แห้ง ซึ่งวิธีจะเป็นการขจัดสารที่ตกค้างอยู่ให้ออกไป
- ผิว ผิวจะนุ่มน่าสัมผัสมากขึ้น ถ้าน้องๆ ลองนำผงฟูประมาณหนึ่งหยิบมือเติมลงในน้ำอุ่น แล้วแช่มือไว้ประมาณ 2-3 นาที หลังจากนั้นล้างมือด้วยน้ำสะอาด
เบกกิ้งโซดา (Baking Soda) ที่บางคนเรียกว่า ผงฟู มีชื่อทางเคมีว่า โซเดียมไบคาร์บอเนต มีประโยชน์มากมาย
- ซักผ้า ไม่ว่าจะซักมือหรือซักเครื่อง ก็แค่ใส่ผงฟู แทน ผงซักฟอก น่ะแหละ ข้อดีคือ ซักเสื้อผ้าสะอาด หมดกลิ่นเหม็นอับ อ่อนโยนต่อผิวบอบบาง แพ้ง่าย แม้แต่ผิวเด็ก น้ำ ที่ซักแล้วก็ไม่ทำลายระบบนิเวศน์ด้วย แถมราคาก็ประหยัดกว่าผงซักฟอกทั่วๆ ไป สำหรับคราบ อาจใช้ผงฟูผสมน้ำป้ายๆ แล้วขยี้ค่ะ
- ล้างจาน นอกจากซักผ้าแล้ว ใช้ล้างจานก็ได้ เพราะผงฟู ขจัดคราบมันและกลิ่นได้ดี เอาผงฟูเทแล้วใช้ฟองน้ำขัดล้าง หรือผสมผงฟูกับน้ำ แล้วเอาฟองน้ำจุ่มล้างจาน ก็ได้ แล้วแต่สะดวก แต่ถ้าจานมันมากๆ คงต้องใช้ตัวช่วยเช่น เอาทิชชูเช็ดปากแล้วปาดคราบมันออกก่อนล้าง ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ก็ยังได้
- ล้างห้องน้ำ ใช้ผงฟูเป็นผงขัด-ล้าง แทนการใช้น้ำยาล้างห้องน้ำกรดกัดกร่อนรุนแรง ถนอมสุขภาพคนล้างค่ะ ถึงห้องน้ำจะไม่ขาวจั๊วะใสปิ๊งแบบน้ำยาล้างห้องน้ำทั่วไปให้คุณได้ แต่คุณได้ช่วยสิ่งแวดล้อม อนุรักษ์น้ำค่ะ ถ้าอยากใช้ขัดหัวก๊อกน้ำ หรือวัสดุที่ต้องการความแวววาว อาจบีบน้ำมะนาว หรือใช้น้ำส้มสายชูผสมกับผงฟู แล้วขัดๆ ค่ะ วาว แน่นอน
- ล้างผัก เป็นวิธีที่สะอาดและปลอดภัยที่สุด ง่ายๆ แค่ผสมผงฟู ซัก 2 ช้อนโต๊ะหรือมากกว่า น้ำเยอะใช้เยอะหน่อย ละลายน้ำธรรมดา หรือน้ำอุ่นนิดๆ ใช้แช่ผัก ผลไม้ ขจัดสิ่งสกปรกและสารพิษได้ดีมาก ปลอดภัย เพราะผงฟูกินได้
- ขจัดกลิ่นอับ กลิ่นเหม็น เช่น ตู้เย็น ตู้รองเท้า ในรองเท้า ห้องที่ทาสีใหม่ ฯลฯ ก็เอาผงฟู เทใส่จาน ถาด กระป๋อง หรือโปรยๆ ลงไป ณ บริเวณที่อับ เหม็น แต่ต้องปิดตู้ ปิดห้อง ให้มิดชิดนะคะ ทิ้งให้มันดูด ซักวัน สองวัน หรือวางไว้ตลอด ช่วยดูดกลิ่นเหม็นได้ดี พอๆ กับใช้ คาร์บอน (ถ่าน) เลยค่ะ
- แปรงฟัน ลดหินปูน กลิ่นปาก และช่วยให้ฟันขาวได้น่าทึ่ง
- ช่วยเรอ ฺBaking Soda ผสมน้ำดื่ม ช่วยให้เรอแก้อาการท้องอืดได้
เนื่องจาก Baking Soda มีอนุภาคเล็กเป็นรูปทรงผลึกที่อ่อนนุ่ม จึงช่วยในการขัดถู ยังมีสรรพคุณในการดูดกลิ่นเหม็น ดูดความชื่น ปรับค่าความเป็นกรดด่าง ฆ่าเชื้อโรค ไม่กัดกร่อนผิวภาชนะ จึงสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในบ้านเรือนได้อย่างมีประสิทธิภาพตามตำรับและสูตรต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ขจัดคราบสกปรกบนขอบและบานหน้าต่าง ด้วยฟองน้ำเปียกๆ ที่โรยด้วยผงฟูเล็กน้อยใช้ล้างด้วยฟองน้ำและเช็ดแห้ง
- ล้างหน้าต่างบานเกล็ดด้วยน้ำอุ่นที่ผสมผงฟู3/4 ถ้วยตวงราดน้ำให้เปียกทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมง ก่อนใช้แปลงขัดออก
- ล้างหน้าต่างอลูมิเนียมและ Door Sereens โดยใช้แปลงเปียกๆ จิ้มผงฟูขัดออกใช้ฟองน้ำหรือผ้านุ่มๆ ล้างให้สะอาดทำความสะอาดงานไม้
- ทำความสะอาดงานจากไม้ฝาผนังหรืออุปกรณ์เครื่องใช้ โดยการผสม น้ำส้มสายชู ถ้วยตวง ผงฟู ถ้วยตวง น้ำอุ่น 4.5 ลิตร
- ถ้าพื้นผิวผนังสกปรกมีคราบเหนียวเหนะหนะให้ใช้ แอมโมเนีย 1 ถ้วยตวง นำไปเช็ดให้ทั่วฝาผนังด้วยฟองน้ำหมาดๆ อย่าใช้ผ้าขนหนูเปียก ทิ้งไว้สัก 2-3 นาที ก่อนที่จะเช็ดคราบสกปรกออก (ควรจำไว้เสมอว่าเครื่องเรือนไม้มีลักษณะแตกต่างกันดังนั้นถ้าไม่แน่ใจให้ทดลองเฉพาะพื้นที่เล้กๆ ก่อน)
- รอยด่างเป็นวงหรือรอยจุดบนเฟอร์นิเจอร์ไม้ หากเกิดความร้อนบางครั้งก็อาจขัดออกได้ด้วยการผสมยาสีฟัน และผงฟูในสัดส่วนเท่าๆ กันใช้ผ้านุ่มเช็ดออกเบาๆ ใช้ผลิตภัณฑ์ขัดเงาด้วยก็ได้หากจำเป็น
- ขจัดคราบหยดน้ำบนพื้นไม้โดยการใช้ผงฟูกับกับผ้าขี้ริ้วหมาดๆ เช็ดออกจำไว้ว่าเครื่องเรือนที่ทำจากไม้ไม่ควรทำให้เปียก
ความสะอาดพื้นผิว
- ใช้ฟองน้ำเปียกๆ เช็ดผงฟูเพื่อเช้ดคราบสีเทียนที่ติดบนผนังชนิดล้างๆด้ เช็ดถูเบาๆ วิธีนี้จะช่วยทำความสะอาดคราบสกปรกส่วนใหญ่อื่นๆ รวมทั้ง คราบน้ำมัน ดินสอ และปากกา มาร์คเกอร์ได้ด้วย
- ใช้ผงฟูผสมน้ำเปียกๆ ข้นๆ เพื่อเช็ดถูคราบสกปรกที่เกิดจากการรอยลากไปมาบนพื้นเสื่อน้ำมัน
- ขจัดคราบหรือหยดน้ำหมึกออกจากพื้น เสื่อน้ำมันโดยการใช้ผงฟูข้นๆ ป้ายบริเวณสกปรกทิ้งไว้จนแห้งสักครู่ก่อนจะเช้ดออกและใช้ผงฟูใหม่ๆ ขัดออกอีกครั้ง
เบ็ดเตล็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับเกี่ยวกับการดูแลรักษา
- Baking Soda สัก 1 ถ้วยตวงลงในโถส้วมหรือท่อน้ำทิ้งเป็นประจำสัปดาห์ละครั้งจะช่วยคงสภาพความเป็นกรด-ด่าง ระบบของถังบำบัดของเสีย สภาพความเป็นกรดด่างในระดับทที่เหมาะสมจะช่วยให้แบ็คทีเรียแตกตัวทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยป้องกันการอุดตันและตกค้างในแทงค์และท่อน้ำทิ้ง การใช้ผงฟูสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันไม่ให้แทงค์คอนกรีตหรือแทงค์ที่ทำจากโลหะผุกร่อนง่าย โดยเฉพาะบริเวณฝาแทงคีที่ต้องสัมผัสกับไอระเหยที่ทำให้ผุกร่อนง่าย
- ผสมผงฟูกับน้ำเล็กน้อยให้เปียกๆ ข้นๆ เพื่ออุดรูตามผนังที่มีรอยปูนแตกร้าว เพื่อซ่อมแซมเป็นการชั่วคราว เมื่อมันแห้งแล้วจะดูกลมกลืนเข้ากับฝาผนังปูนพลาสเตอร์ขาว เมื่อต้องการซ่อมแซมอย่างถาวรให้ผสมมผลฟูกับกาว (ลาเท็กซ์) ซ่อมแซมสีขาวที่ใช้ตามบ้านเรือน
- ทำความสะอาดผนังที่มีคราบดำขงอเขม่าควัน ด้วยการใช้เศษผ้าชื่นๆ และผงฟูละลายเข้มข้น
- ทำความสะอาดอุปกรณ์ตกแต่งเครื่องเรือนโดยการโรยผงฟูให้ทั่วเครื่องตกแต่ง ทิ้งไว้สักครู่จากนั้นจึงดูดออก กลิ่นเขม่าควันจะถูกกำจัดออกจนหมอจด
- ใช้ผงฟูทำความสะอาดเครื่องประดับลวดลายลูกไม้ประเภทต่างๆ
- ทำความสะอาดแป้นพิมพ์ดีด ด้วยแปลงสีฟันขนอ่อนๆ ขัดโดยใช้ผงฟู 4 ชอนโต๊ะละลายกับน้ำ 1 ถ้วยตวง จากนั้นใช้กระดาษชำระเช็ดออก
- แช่ไม้ถูพื้นหรือไม้กวาดในน้ำ 1ถัง ละลายผงฟู 4 ช้อนชา แต่ให้แช่หลังจากที่ชำระสิ่งสกปรกออกไปแล้ววิธีนี้จะเป็นการกำจัดกลิ่นเหม็นอับตกค้างบนไม้ถูพื้นตากให้แห้ง
เนื่องจากผงฟูมีอนุภาคเล็กเป็นรูปทรงผลึกที่อ่อนนุ่ม จึงช่วยในการขัดถู ยังมีสรรพคุณในการดูดกลิ่นเหม็น ดูดความชื้น ปรับค่าความเป็นกรดด่าง ฆ่าเชื้อโรค จึงสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในบ้านเรือนได้อย่างมีประสิทธิภาพตามตำรับและสูตรต่างๆ ดังต่อไปนี้
หน้าต่าง
- ขจัดคราบสกปรกบนขอบและบานหน้าต่าง ด้วยฟองน้ำเปียกๆ ที่โรยด้วยผงฟูเล็กน้อยใช้ล้างด้วยฟองน้ำและเช็ดแห้ง
- ล้างหน้าต่างบานเกล็ดด้วยน้ำอุ่นที่ผสมผงฟู 3/4 ถ้วยตวง ราดน้ำให้เปียกทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมง ก่อนใช้แปรงขัดออก
- ล้างหน้าต่างอลูมิเนียม โดยใช้แปรงเปียกๆ จิ้มผงฟูขัดออกใช้ฟองน้ำหรือผ้านุ่มๆ ล้างให้สะอาดทำความสะอาดงานไม้
- ทำความสะอาดงานจากไม้ฝาผนังหรืออุปกรณ์เครื่องใช้ โดยการผสมน้ำส้มสายชู ผงฟู และน้ำอุ่น
- ถ้าพื้นผิวผนังสกปรกมีคราบเหนียวเหนอะหนะให้ใช้แอมโมเนีย 1 ถ้วยตวง นำไปเช็ดให้ทั่วฝาผนังด้วยฟองน้ำหมาดๆ อย่าใช้ผ้าขนหนูเปียก ทิ้งไว้สัก 2-3 นาที ก่อนที่จะเช็ดคราบสกปรกออก (ควรจำไว้เสมอว่าเครื่องเรือนไม้มีลักษณะแตกต่างกัน ดังนั้น ถ้าไม่แน่ใจให้ทดลองเฉพาะพื้นที่เล็กๆ ก่อน)
- รอยด่างเป็นวงหรือรอยจุดบนเฟอร์นิเจอร์ไม้ หากเกิดความร้อนบางครั้งก็อาจขัดออกได้ด้วยการผสมยาสีฟัน และผงฟูในสัดส่วนเท่าๆ กันใช้ผ้านุ่มเช็ดออกเบาๆ ใช้ผลิตภัณฑ์ขัดเงาด้วยก็ได้หากจำเป็น
- ขจัดคราบหยดน้ำบนพื้นไม้โดยการใช้ผงฟูกับกับผ้าขี้ริ้วหมาดๆ เช็ดออก จำไว้ว่าเครื่องเรือนที่ทำจากไม้ไม่ควรทำให้เปียก
ทำความสะอาดพื้นผิว
- ใช้ฟองน้ำเปียกๆ เช็ดผงฟูเพื่อเช็ดคราบสีเทียนที่ติดบนผนัง เช็ดถูเบาๆ วิธีนี้จะช่วยทำความสะอาดคราบสกปรกส่วนใหญ่อื่นๆ รวมทั้งคราบน้ำมัน ดินสอ และปากกามาร์คเกอร์ได้ด้วย
- ใช้ผงฟูผสมน้ำเปียกๆ ข้นๆ เพื่อเช็ดถูคราบสกปรกที่เกิดจากรอยลากไปมาบนพื้นเสื่อน้ำมัน
- ขจัดคราบหรือหยดน้ำหมึกออกจากพื้นเสื่อน้ำมันโดยการใช้ผงฟูข้นๆ ป้ายบริเวณสกปรกทิ้งไว้จนแห้งสักครู่ก่อนจะเช็ดออก และใช้ผงฟูใหม่ๆ ขัดออกอีกครั้ง
ทำความสะอาดพรม
- ซักพรมโดยใช้เครื่องโดยการเติมผงฟูผสมกับน้ำอุ่น 1 แกลลอน หรือจะซักในถุงน้ำก็ได้ ถ้าคุณจะทำความสะอาดเฉพาะบริเวณที่มีคราบสกปรกโดยการแปรงด้วยมือ ให้โรยผงฟูเล็กน้อยลงบนรอยสกปรก ทิ้งไว้สักครู่ก่อนที่จะเช็ดออกด้วยฟองน้ำหรือผ้าโดยเฉพาะนั้นด้วยฟองน้ำหรือผ้าขนหนู (ทดลองทำก่อนเพราะระวังเรื่องสีตก)
- ขจัดคราบไวน์หรือคราบสกปรกมันบนพรม โดยการโรยผงฟูบางๆ ทันทีที่มีรอยเปื้อนทำซ้ำหรือค่อยๆ เติมผงฟูใหม่อีกครั้งหากจำเป็น ควรทิ้งไว้สักครู่จนกว่าผงฟูจะดูดซับคราบสกปรก จากนั้นให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออกให้หมด
น้ำมันหอมระเหย
ทำกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับครอบครัวด้วยตัวคุณเอง โดยใช้ผงฟูประมาณ 1 กล่อง ผสมกับน้ำมันกลิ่นบุหงาที่คุณชื่นชอบ หรือกลิ่นน้ำมันอบเชยสักเล็กน้อย จากนั้นโรยไปทั่วพรมแล้วดูดออกให้เกลี้ยง
กลิ่นสะอาดสำหรับทางเข้า
- โปรยผงฟูลงบนพรมหน้าบ้าน ซึ่งจะช่วยได้ทั้งการทำความสะอาดและดูดซับกลิ่นเหม็นอับ จากนั้นจึงค่อยดูดออก
- ขัดถูผงฟูลงบนพรมเช็ดเท้าด้านนอกด้วยไม้กวาดแข็ง จากนั้นใช้สายยางฉีดน้ำฉีดออก หรือคุณจะรอจนกระทั่งฝนตกแล้วชะมันออกไปเองก็ได้
บ้านสุขภาพดี
- ป้องกันไม่ให้ภาชนะกระเป๋าเดินทางของคุณมีกลิ่นเหม็นอับเหม็นชื้นจากเชื้อรา โดยการโรยผงฟูลงบนภาชนะข้าวของเครื่องใช้ก่อนที่จะเก็บเข้าที่เข้าทางอย่างมิดชิด
- โรยผงฟูในโถส้วม อ่างล้างหน้า อ่างล้างจานชาม อ่างอาบน้ำ หรือโรยลงบนฟักบัวทิ้งไว้ ก่อนที่คุณจะหยุดใช้ชั่วคราว เพื่อไปพักร้อน วิธีนี้จะช่วยป้องกันกลิ่นเหม็นอับ กลิ่นเก่าเก็บตกค้าง
- ขจัดกลิ่นเหม็นอับอกจากผ้านวม ผ้าห่ม หลังจากที่คุณเก็บไว้นานๆ โรยผงฟูลงบนผ้านั้น ม้วนเก็บไว้สัก 2 ชั่วโมง จากนั้นสะบัดออกและตบให้ฟูหรือใช้ไดร์เป่าลมให้ฟูโดยไม่ใช้ความร้อนเป่า
- นำผงปิดฝากล่องตั้งทิ้งไว้ในห้องที่โรงงาน เพื่อขจัดกลิ่นสี หรือกลิ่นสารระเหย หรือกลิ่นน้ำยาขัดเคลือบวัสดุต่างๆ
- ช่วยลดกลิ่นตกค้างกันของบุหรี่ โดยการโรยผงฟูสักเล็กน้อยลงบนถาดเขี่ยบุหรี่
- ขจัดกลิ่นตกค้างบนผ้าปูโต๊ะโดยการแช่ผ้าในน้ำละลายผงฟู
กำจัดกลิ่นรองเท้าด้วยผงฟู
- วางถุงหรือซองผงฟู ไว้ในรองเท้าผ้าใบหุ้มส้น เพื่อไม่ให้รองเท้ามีกลิ่นเหม็นอับหลังการใส่และมีกลิ่นเหม็นตกค้างอยู่ในตู้รองเท้า วิธีนี้คุณอาจจะใช้ผงฟูผสมกับแป้งหอมกลิ่นที่คุณชอบผสมรวมกันไว้ในซองตามที่ต้องการ
- โรยผงฟูในรองเท้าผงฟูจะช่วยดูดซับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกไป ทิ้งไว้ข้ามคืน รุ่งขึ้นคุณแค่เคาะผงฟูออก
เบ็ดเตล็ดเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับการดูแลรักษา
- ล้างผงฟูสัก 1 ถ้วยตวง ลงในโถส้วมหรือท่อน้ำทิ้งเป็นประจำสัปดาห์ละครั้ง จะช่วยคงสภาพความเป็นกรด-ด่าง ระบบของถังบำบัดของเสีย สภาพความเป็นกรดด่างในระดับที่เหมาะสมจะช่วยให้แบคทีเรียแตกตัวทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยป้องกันการอุดตันและตกค้างในแทงค์และท่อน้ำทิ้ง การใช้ผงฟูสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันไม่ให้แทงค์คอนกรีตหรือแทงค์ที่ทำจากโลหะผุกร่อนง่าย โดยเฉพาะบริเวณฝาแทงค์ที่ต้องสัมผัสกับไอระเหยที่ทำให้ผุกร่อนง่าย
- ผสมผงฟูกับน้ำเล็กน้อยให้เปียกๆ ข้นๆ เพื่ออุดรูตามผนังที่มีรอยปูนแตกร้าว เพื่อซ่อมแซมเป็นการชั่วคราว เมื่อมันแห้งแล้วจะดูกลมกลืนเข้ากับฝาผนังปูนพลาสเตอร์ขาว เมื่อต้องการซ่อมแซมอย่างถาวรให้ผสมมผงฟูกับกาว (ลาเท็กซ์) ซ่อมแซมสีขาวที่ใช้ตามบ้านเรือน
- ทำความสะอาดผนังที่มีคราบดำของเขม่าควัน ด้วยการใช้เศษผ้าชื่นๆ และผงฟูละลายเข้มข้น
- ทำความสะอาดอุปกรณ์ตกแต่งเครื่องเรือนโดยการโรยผงฟูให้ทั่วเครื่องตกแต่ง ทิ้งไว้สักครู่จากนั้นจึงดูดออก กลิ่นเขม่าควันจะถูกกำจัดออกจนหมดจด
- ใช้ผงฟูทำความสะอาดเครื่องประดับลวดลายลูกไม้ประเภทต่างๆ
- ทำความสะอาดแป้นพิมพ์ดีด ด้วยแปรงสีฟันขนอ่อนๆ ขัดโดยใช้ผงฟู 4 ช้อนโต๊ะละลายกับน้ำ 1 ถ้วยตวง จากนั้นใช้กระดาษชำระเช็ดออก
- แช่ไม้ถูพื้นหรือไม้กวาดในน้ำ 1 ถัง ละลายผงฟู 4 ช้อนชา แต่ให้แช่หลังจากที่ชำระสิ่งสกปรกออกไปแล้ว วิธีนี้จะเป็นการกำจัดกลิ่นเหม็นอับตกค้างบนไม้ถูพื้น หลังแช่ตากให้แห้ง
ความรู้เกี่ยวกับผงฟู
ในการใช้ผงฟูแต่ละครั้งมักจะใช้ไม่หมดผงฟูที่เหลือควรเก็บใส่กระป๋องปิดฝาให้สนิท วิธีทดสอบว่าผงฟูนั้นยังมีคุณภาพดีหรือไม่ให้เอาน้ำใส่ถ้วยแก้วไว้เล็กน้อย แล้วตักผงฟูเทลงไปนิดหน่อยในน้ำ ถ้าน้ำเดือดเป็นฟองก็แสดงว่าคุณภาพของผงฟูนั้นยังดีอยู่ ผงฟูเมื่อใช้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรปิดกระป๋องให้สนิท ถ้าปิดไม่สนิทความชื้นภายนอกจะเข้าไปทำปฏิกิริยา ทำให้ผงฟูชื้นและเสื่อมคุณภาพ