ผักกาดฮ่องเต้เล็ก

24 มิถุนายน 2559 พืชผัก 0

ผักกาดฮ่องเต้เล็กคือ ผักกาดฮ่องเต้ที่เก็บเกี่ยวหลังจากการย้ายกล้า 20 วัน ผักกาดฮ่องเต้เล้กจัดเป็นพืชตระกูล Brassicaceae (Crucifereae – Mustard family) มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน ญี่ปุ่นและเอเชียกลาง นำเข้ามาปลูกในไทยเป็นระยะเวลานาน เป็นพืช 2 ฤดู แต่ปลูกเป็นพืชฤดูเดียว ก้านใบมีสีเขียวอ่อน ลักษณะแบน ส่วนโคนก้านใบจะขยายกว้างมาก และหนา เนื้อกรอบ ปลายใบมน ไม่ห่อหัว เป็นผักที่มีรสหวาน และกรอบ ตามภัตตาคารนิยมนำมาผัดน้ำมันหอย ต้ม หรือตุ๋น มีผลผลิตตลอดทั้งปี

ชื่อวิทยาศาสตร์ Brassica chinensis var. chinensis
ชื่อสามัญ Baby Pak choi, Green leaf patio

อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตอยู่ระหว่าง 20 25 องศาเซลเซียส แต่สามารถทนต่อสภาพอุณหภูมิสูงได้ดีกว่ากลุ่มผักกาดหัว ดังนั้นจึงสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี ผักกาดฮ่องเต้สามารถเจริญเติบโตในดินแทบทุกชนิด แต่เจริญเติบโตได้ดีที่สุดในสภาพดินร่วนปนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์ และอินทรีย์วัตถุสูง ค่าความเป็นกรด ด่างอยู่ระหว่าง 6.0 6.8 ถึงแม้ผักกาดฮ่องเต้จะทนต่ออุณหภูมิสูงได้ดี แต่ก็ไม่ทนทานต่อความแห้งแล้ง เนื่องจากเป็นพืชอายุสั้น และเจริญเติบโตเร็ว ดังนั้นแปลงปลูกควรต้องมีความชื้นสูงประมาณ 60 80 % เป็นอย่างน้อย และต้องการแสงแดดเต็มที่ตลอดทั้งวัน เพื่อการสังเคราะห์อาหาร

pagkadhongtaeleks

ผักกาดฮ่องเต้เป็นผักที่มีวิตามินสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินเอ วิตามินซี นอกจากนี้ยังมีธาตุอาหารพวกแคลเซียม และฟอสฟอรัสสูง นิยมนำมาผัดกับเนื้อสัตว์ ผัดน้ำมันหอย หรือต้มเป็นแกงจืด รสชาติหวาน และกรอบ

การเตรียมกล้า
เพาะกล้าแบบประณีต ในถาดหลุม อายุกล้า 15 20 วัน

การเตรียมดิน
ไถดินลึกประมาณ 15 20 ซม. หรือขุดดินตากแดดอย่างน้อย 14 วัน เพื่อกำจัดโรคแมลงและวัชพืช คลุกปูนขาวอัตรา 0 100 กรัม/ตร.ม. เก็บเศษวัชพืชออกจากแปลง

การปลูก

  • ใส่ปุ๋ยคอกอัตรา 1 กก./ตร.ม. ลงในดิน พรวนดินให้ละเอียด ขึ้นแปลงกว้าง 100 120 ซม.ให้ร่องห่าง 50 ซม.ปรับหน้าแปลงให้เรียบ
  • หากใช้วิธีหยอดเม็ดโดยตรง ให้ใช้นิ้วกดหลุมลึก 0.5 ซม. หยอดเมล็ด 5 เมล็ดต่อหลุม ระยะปลูกแล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละฤดู กลบเมล็ด รดน้ำให้ชุม ฉีดพ่น เซฟวิน 85 ป้องกันมดเข้าทำลาย
  • หากย้ายปลูกระยะปลูก
    : ฤดูฝนและฤดูหนาว 25 x 20 ซม.
    : ฤดูร้อน 20 x 20 ซม.

ข้อควรระวัง
1. หากใช้วิธีการหยอดเมล็ดอย่าใช้ในปริมาณที่มากเกินไป
2. ฉีดพ่นธาตุอาการเสริมให้สม่ำเสมอ

การให้น้ำ
ให้น้ำแบบสปริงเกอร์ หรือระบบน้ำหยด

การให้ปุ๋ย
ปลูกซ่อมต้นที่เสียหายภายใน 7 วันหลังย้ายปลูก กำจัดวัชพืชทุก 15 20 วัน หลังย้ายปลูกหรือเมล็ดงอก และทำการถอนแยกให้เหลือ 2 3 ต้น ขีดร่องลึก 2 ซม.ระหว่างแถวปลูกโรยปุ๋ย 46 0 0 ลงไปแล้วกลบดิน แล้วรดน้ำ และฉีดพ่นธาตุอาหารเสริม รดน้ำให้สม่ำเสมอ

การเก็บเกี่ยว
ควรเก็บเกี่ยวก่อนออกดอก (อายุประมาณ 35 45 วัน หลังปลูก) อย่าปล่อยให้ต้นแก่เกินไป คุณภาพจะต่ำลง ตัดต้นเหนือระดับดินเล็กน้อย เด็ดใบเสียหรือใบเหลืองออก ควรเหลือใบนอกไว้ 2 3 ใบป้องกันความเสียหายระหว่างการขนส่ง หากผลผลิตเปียกควรผึ่งให้แห้งก่อนบรรจุส่ง ไม่ควรล้างผลผลิตเพราะจะทำให้เน่าเสียหายได้ง่าย

ที่มา หนังสือเรื่องการปลูกผักบนพื้นที่สูง

ป้ายคำ :

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับหมวด พืชผัก

แสดงความคิดเห็น