สบู่ธรรมชาติ คือ สบู่ที่เกิดจากกระบวนการ Saponification ของไขมันหรือน้ำมัน จากพืชและสัตว์ ที่ทำปฏิกิริยา กับ สารละลายด่าง (โซเดียมไฮดรอกไซด์) จะได้ผลิตภัณฑ์เป็นของแข็ง ลื่น มีฟอง สามารถละลาย และล้างออกด้วยน้ำ สบู่ธรรมชาติไม่ถูกสกัดเอากลีเซอรีนออก ไม่มีการเติมสารเคมี และไม่มีการเติม สารทำให้เกิดฟอง (detergent) แต่อาจเติม สมุนไพร หรือ น้ำมันหอมระเหย ลงไปเท่านั้น
ความเป็นมาของสบู่
สบู่ธรรมชาติ (soap) เกิดจากการทำปฏิกิริยาทางเคมี ระหว่างสารละลายด่างโซเดียมไฮดรอกไซด์ (โซดาไฟ) กับน้ำมัน ซึ่งอาจเป็นน้ำมันพืชหรือน้ำมันสัตว์ก็ได้ กระบวนการนี้เรียกว่า saponification ซึ่งทำให้ผลผลิตที่ได้กลายเป็นของแข็งลื่น มีฟอง ใช้ทำความสะอาดขจัดคราบสกปรกได้ดี
การผลิตสบู่ธรรมชาติ (Natural Soap Making)
หลักการพื้นฐานในการผลิตสบู่ธรรมชาติ
สบู่ผลิตขึ้นจากส่วนผสมพื้นฐาน 3 อย่าง คือ น้ำ ด่าง(โซดาไฟ) และไขมัน เมื่อด่างผสมกับน้ำ เป็นสารละลายด่างถูกนำไปผสมกับไขมัน ได้ผลผลิตเป็นสบู่ธรรมชาติซึ่งเป็นส่วนผสมของ สบู่ 5 ส่วนและกลีเซอรีน 1 ส่วน ในสบู่ธรรมชาติ กลีเซอรีนที่เกิดขึ้นจะยังคงอยู่ในสบู่ มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้น และทำให้ผิวพรรณนุ่มนวล ซึ่งกระบวนการที่จะแนะนำในการผลิตสบู่ธรรมชาติในที่นี้ เป็นกระบวนการผลิตแบบเย็น (cold process method ) ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานในการผลิตสบู่
คุณสมบัติของสบู่ คือ ใช้ทำความสะอาด ชำระล้างสิ่งสกปรก หรือช่วยลดแรงตึงผิว (surfactant)
ปฏิกิริยาการเกิดสบู่…
|
ส่วนผสมในการผลิตสบู่
อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตสบู่
ข้อควรระวังในการผลิตสบู่
การตั้งสูตรสบู่
ก่อนการลงมือทำสบู่ เราต้องออกแบบสบู่หรือตั้งสูตรสบู่ขึ้นมาก่อน ว่าสบู่ที่เราต้องการผลิตขึ้นจะให้มีคุณสมบัติทั้งทางกายภาพและประสิทธิภาพในการใช้เป็นอย่างไร โดยพิจารณาจากประเด็นต่อไปนี้
1. ชนิดของน้ำมันกับคุณสมบัติทางกายภาพและประสิทธิภาพของสบู่
ชนิดน้ำมัน เนื้อสบู่ สี ความคงทน ปริมาณฟอง ลักษณะฟอง การทำความสะอาด ความนุ่มนวลต่อผิว ความชุ่มชื้นต่อผิว
ชนิดน้ำมัน | เนื้อสบู่ | สี | ความคงทน | ปริมาณฟอง | ลักษณะฟอง | การทำความสะอาด | ความนุ่มนวลต่อผิว | ความชุ่มชื้นต่อผิว |
มะพร้าว | แข็งกรอบ | ขาว | ทนนาน | มาก | โต อยู่นาน | ดีมาก | น้อย | น้อย |
ปาล์ม | แข็ง | ขาวนวล | ทนนาน | มาก | อยู่นาน | ดีมาก | น้อย | น้อย |
มะกอก | นิ่ม | เหลือง | ละลายเร็ว | พอสมควร | ละเอียดเป็นครีม | ดี | มาก | มาก |
งา | นิ่ม | ขาวนวล | ละลายเร็ว | พอสมควร | ละเอียด | ดี | มาก | มาก |
ถั่วเหลือง | นิ่ม | ขาวอมเหลือง | ปานกลาง | พอควร | ละเอียด | พอใช้ | พอควร | พอควร |
รำข้าว | นิ่ม | ขาวอมเหลือง | ปานกลาง | พอควร | ละเอียด | พอใช้ | พอควร | พอควร |
ทานตะวัน | นิ่ม | ขาวอมเหลือง | ปานกลาง | พอควร | ละเอียด | พอใช้ | พอควร | พอควร |
ข้าวโพด | นิ่ม | ขาวอมเหลือง | ปานกลาง | พอควร | ละเอียด | พอใช้ | พอควร | พอควร |
ละหุ่ง | นิ่มมาก | ขาวอมเหลือง | ละลายเร็ว | มาก | ละเอียด | พอใช้ | มาก | มาก |
คุณสมบัติต่างๆของสบู่นี้ ส่วนใหญ่จะขึ้นกับการเลือกชนิดของน้ำมันที่นำมาใช้ผลิตสบู่ ดังนั้นในการทำสบู่ก้อนหนึ่ง เราอาจเลือกใช้น้ำมันเพียงชนิดเดียวหรือใช้น้ำมัน 2-3 ชนิด หรือมากกว่ารวมกันได้ เพื่อให้ได้สบู่ที่มีคุณสมบัติตามที่เราต้องการ แล้วจึงกำหนดสัดส่วนของน้ำมันแต่ละชนิด โดยมีข้อแนะนำดังนี้
สำหรับปริมาณของน้ำมันที่ใช้ทำสบู่ขึ้นอยู่กับปริมาณสบู่ที่ต้องการ โดยน้ำมันที่ใช้ทำสบู่ 1 ส่วน เมื่อนำไปผสมกับน้ำด่าง จะได้เนื้อสบู่ 1.5 ส่วนโดยน้ำหนัก
2. ด่างและการคำนวณน้ำหนักด่าง
หลังจากได้ชนิดของน้ำมันที่จะใช้ทำสบู่แล้วกำหนดปริมาณและสัดส่วนของน้ำมันแต่ละชนิดแล้วจึงนำไปคำนวณหาปริมาณด่างและน้ำที่ต้องใช้ในการทำปฏิกิริยาตามขั้นตอนของการคำนวณสูตรสบู่ โดยด่างที่จะใช้นั้นคือโซดาไฟ (โซเดียมไฮดรอกไซด์) ส่วนปริมาณของด่างที่จะใช้นั้น ขึ้นอยู่กับค่า Saponification ของน้ำมันแต่ละชนิด Saponification คือปริมาณของด่างที่ทำปฏิกิริยาพอดีกับไขมัน (หนัก 1 กรัม)
ตารางค่า Saponification หรือปริมาณของด่าง (NaOH)
ที่ทำปฏิกิริยาพอดีกับไขมันชนิดต่างๆ (ไขมันหนัก 1 กรัม)
ไขมัน หรือ น้ำมัน หนัก 1 กรัม โซเดียมไฮดรอกไซด์ (โซดาไฟ) กรัม
ไขมันวัว | 0.1292 |
ไขมันหมู | 0.1276 |
น้ำมันมะพร้าว | 0.1692 |
น้ำมันปาล์ม | 0.1306 |
น้ำมันมะกอก | 0.1246 |
น้ำมันงา | 0.1266 |
น้ำมันรำข้าว | 0.1233 |
น้ำมันเมล็ดทานตะวัน | 0.1256 |
น้ำมันถั่วเหลือง | 0.1246 |
น้ำมันข้าวโพด | 0.126 |
น้ำมันละหุ่ง | 0.1183 |
ขี้ผึ้ง | 0.0617 |
ตัวอย่าง
สมมุติว่ากำหนดสูตรสบู่ ประกอบด้วยน้ำมันชนิดต่าง คือ น้ำมันมะพร้าว 300 กรัม + น้ำมันปาล์ม 300 กรัม + น้ำมันงา 400 กรัม จะคำนวณหาน้ำหนักด่างได้ ดังนี้
ดังนั้นน้ำมันทั้ง 3 ชนิด(มะพร้าว 300 กรัม + ปาล์ม 300 กรัม + งา 400 กรัม)รวมกันเป็นน้ำมันทั้งหมด 1000 กรัม จะต้องใช้โซดาไฟเท่ากับ 50.76 + 39.18 + 50.64 = 140.58 กรัม
3.น้ำและการคำนวณหาปริมาณ
ปริมาณของน้ำที่ใช้ในการละลายด่าง หาได้จากสูตรดังต่อไปนี้
น้ำหนักน้ำ = ( น้ำหนักด่าง x 2.33 )
จากตัวอย่าง น้ำหนักด่างที่หาได้ = 140.58 กรัม
น้ำหนักน้ำ = ( 140.58 x 2.33 )
= 327.5514 หรือประมาณ 327.55 กรัม
ขั้นตอนการผลิตสบู่ธรรมชาติ
ตัวอย่างสูตรพื้นฐานสำหรับการผลิตสบู่ธรรมชาติ
สูตรที่ 1
สบู่สูตรนี้เป็นสบู่สีขาวขุ่น แข็ง ให้ฟองมาก สามารถนำไปปรับปรุงเป็นสบู่ล้างหน้า สบู่อาบน้ำถูตัว สบู่สมุนไพร โดยการเติมส่วนผสมอื่นๆลงๆไป หลังจากนำออกจากพิมพ์ ตั้งทิ้งไว้ 1-2 สัปดาห์จึงนำไปใช้
สูตรที่ 2
สบู่สูตรนี้เหมาะสำหรับผิวที่แพ้ง่าย จึงเหมาะสมที่จะนำไปปรับปรุงเป็นสบู่บำรุงผิวพรรณ เพิ่มความชุ่มชื้น สบู่ล้างหน้า หรือสบู่เด็ก สบู่สูตรนี้ให้ฟองมาก นุ่มนวลเป็นครีม มีสีเหลืองอ่อน หลังจากนำออกจากพิมพ์ ตั้งทิ้งไว้ 2 – 4 สัปดาห์จึงนำไปใช้
สูตรที่ 3
สบู่ที่ได้จากสูตรนี้จะเป็นสบู่แข็ง มีสีขาวและให้ฟองมาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีผิวธรรมดาและผิวมัน หลังจากนำออกจากพิมพ์ ตั้งทิ้งไว้ 1-2 สัปดาห์จึงนำไปใช้
การผลิตสบู่นมแพะ Goat milk Soap
น้ำนมแพะนั้นอุดมสมบูรณ์ไปด้วยโปรตีน วิตามินและเกลือแร่ ซึ่งช่วยบำรุงหล่อเลี้ยงร่างกายของเราได้ทั้งภายนอกและภายใน น้ำนมแพะถูกใช้ในการบำรุงรักษาผิวพรรณให้ชุ่มชื้น สดใส สวยงามมานานแล้ว
ในวงการเครื่องสำอางจะถือว่า น้ำนมแพะเป็นไลโปโซมธรรมชาติ ( Natural Liposomes) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยนำเอาความชุ่มชื้น โปรตีน วิตามิน และเกลือแร่ซึมสู่ชั้นผิวหนังชั้นล่างได้ง่ายและดีขึ้น น้ำนมแพะจึงเป็นสารจากธรรมชาติชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมนำมาเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณ เช่น สบู่ ครีม โลชั่น เป็นต้น
สบู่น้ำนมแพะ จึงเป็นสบู่ที่อุดมด้วยโปรตีนให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เป็นสบู่ที่อ่อนละมุน นุ่มนวลต่อผิว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย เนื่องจากกรด caprytic ในน้ำนมแพะจะช่วยให้สบู่มีค่า pH ที่ต่ำ จึงเป็นสบู่ที่อ่อนโยนต่อผิว
สบู่น้ำนมแพะเป็นการใช้น้ำนมแพะเป็นตัวทำละลายด่างแทนน้ำในกรรมวิธีการทำสบู่ธรรมชาติ เมื่อนำมาผสมกับน้ำมันพืช จำได้สบู่ที่มีสีขาวขุ่นหรือสีเหลืองอมน้ำตาล เป็นสบู่ที่น่าใช้ อุดมด้วยฟองครีมและมีฟองคงทน
ส่วนผสม
วิธีทำ
สบู่สูตรนี้จะเป็นสีขาวขุ่นออกสีน้ำตาล ให้ฟองที่นุ่มนวลทนนาน สบู่สูตรนี้ใช้นมแพะแทนน้ำในการละลายด่าง ให้คอยสังเกตสีของส่วนผสมขณะที่จะจับตัวเป็นสบู่ ช่วงแรกจะมีสีขาวขุ่น จากนั้นจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสีส้ม
รวบรวมโดย วรพจน์ คงแก้ว ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ ทุ่งสง
แหล่งข้อมูล
หนังสือ “สะอาดและสวยด้วย สบู่ธรรมชาติ”โดยคมสัน หุตะแพทย์ สำนักพิมพ์เกษตรกรรมธรรมชาติ
ป้ายคำ : ทำเองได้, สุขภาพพึ่งตน
ขอบพระคุณค่ะ ได้ความรู้เยอะเลย และขออนุญาตแชร์บทความนะคะ