อินทนิล ไม้ริมทางดอกสวยงาม

4 กุมภาพันธ์ 2558 ไม้ยืนต้น 0

อินทนิลน้ำเป็นพันธุ์ไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย พบขึ้นตามที่ราบลุ่มที่ชื้นแฉะทั่วไป และบริเวณริมฝั่งแม่น้ำ ลำห้วย ในป่าเบญจพรรณชื้นและป่าดงดิบทางภาคเหนือ ภาคตะวันออก ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคใต้ แต่พบมีมากตามป่าดงดิบในภาคใต้ นอกจากนี้ยังพบในป่าพรุหรือป่าบึงน้ำจืดในภาคใต้

ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Lagerstroemia speciosa (L.) Pers.
ชื่อโดยทั่วไป: Queens crape myrtle , Pride of India (ชื่อนี้บอกถิ่นที่มาของพืชชนิดนี้ได้เป็นอย่างดี)
ชื่อวงศ์ : LYTHRACEAE
ชื่อตามภูมิภาค : ฉ่วงมู ฉ่องพนา (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี) ตะแบกดำ (กรุงเทพฯ) บางอบะซา (มลายู-ยะลา, นราธิวาส) บาเย บาเอ (มลายู-ปัตตานี) อินทนิล (ภาคกลาง, ใต้)

อินทนิลน้ำ [Lagerstroemia speciosa (Linn.) Pers.] เปลือกลำต้นสีเทาหรือน้ำตาลอ่อน ค่อนข้างเรียบ อาจจะตกสะเก็ดเป็นแผ่นบาง ๆ บ้างเล็กน้อย ใบเกลี้ยงปลายใบเรียวแหลม ผลิใบอ่อนเต็มต้นพร้อมช่อดอก สังเกตได้ง่ายที่ตำแหน่งช่อดอกเป็นพุ่มทรงเจดีย์ชูตั้งขึ้นเหนือเรือนยอดโดยรอบขนาดของดอกบานกว้าง ๕-๘ เซนติเมตร ออกชิดกันเป็นกลุ่ม สีม่วงสด ม่วงอมชมพูจนถึงชมพู และสีจะซีดจางลงเล็กน้อยเมื่อดอกโรย ผลมีผิวขรุขระ สีคล้ายเนื้อไม้ ออกดอกช่วงฤดูร้อน (มีนาคม-พฤษภาคม)

inthanins

อินทนิลบก (L. macrocarpa Wall. ex Kurz) ลักษณะคล้ายอินทนิลน้ำมาก แต่ใบ ดอก และผลมีขนาดใหญ่กว่า ใบป้อมและกว้างกว่าใบอินทนิลน้ำ ปลายใบมนกว้างหรือแหลมเป็นติ่งสั้น ๆ ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ช่อดอกไม่ชูตั้งขึ้นเหนือเรือนยอด ขนาดของดอกบานกว้าง ๑๐-๑๓ เซนติเมตร แต่ละดอกจะชิดกันเป็นกลุ่ม ดอกสีม่วงอมชมพู และสีจะจางซีดลงเป็นสีขาวอมชมพู ออกดอกช่วงฤดูร้อน มีชื่ออื่น ๆ ว่า กาเสลา, จ้อล่อ, จะล่อ

ลักษณะของต้นอินทนิล
ลำต้น เป็นไม้ยืนต้น ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 5-20 เมตร ลำต้น ต้นเล็กมักคดงอ แต่พอใหญ่ขึ้นจะค่อยๆตรง โคนต้นไม้ไม่ค่อยพบพูพอน มักจะมีกิ่งใหญ่แตกจากลำต้นสูงเหนือพื้นดินขึ้นมาไม่มากนัก ดังนั้น เรือนยอดจึงแผ่กว้าง พุ่มแบบรูปร่มและคลุมส่วนโคนต้นเล็กน้อยเท่านั้น ผิวเปลือกนอกสีเทาหรือน้ำตาลอ่อน และมักจะมีรอยด่างเป็นดวงสีขาวๆ ทั่วไป ผิวของเปลือกค่อนข้างเรียบ ไม่แตกเป็นร่องหรือเป็นรอยแผลเป็น เปลือกหนาประมาณ 1 ซม. เปลือกในออกสีม่วง

  • ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามหรือเยื้องกันเล็กน้อย ทรงใบรูปขอบขนานหรือบางทีเป้นรูปขอบขนานแกมรูปหอก กว้าง 5-10 ซม. ยาว 11-26 ซม. เนื้อใบค่อนข้างหนา เกลี้ยง เป็นมันทั้งสองด้าน โคนใบมนหรือเบี้ยวเยื้องกันเล็กน้อย ปลายใบเรียวและเป็นติ่งแหลม เส้นแขนงใบ มี 9-17 คู่ เส้นโค้งอ่อนและจะจรดกับเส้นถัดไปบริเวณใกล้ๆ ขอบใบเส้นใบย่อยเห็นไม่เด่นชัดนัก ขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่นบ้างเล็กน้อย ก้านใบยาวประมาณ 1 ซม. เกลี้ยง ไม่มีขน
  • ดอก ดอกของอินทนิลจะมีสีต่างๆ กัน เช่น สีม่วงสด ม่วงอมชมพู หรือม่วงล้วนๆ ออกรวมกันเป็นช่อโต มีความสวยงามตามธรรมชาติ ยาวถึง 30 ซม. ตามปลายกิ่งหรือตามง่ามใบตอนใกล้ๆ ปลายกิ่ง ตรงส่วนบนสุดของดอกตูมจะมีตุ่มกลมเล็กๆ ตั้งอยู่ตรงกลาง ผิวนอกของกลีบฐานดอกซึ่งติดกันเป็นรูปถ้วยหรือรูปกรวยหงายจะมีสันนูนตามยาวปรากฎชัด และมีขนสั้นปกคลุมประปราย กลีบดอกบาง รูปช้อนที่มีโคนกลีบเป็นก้านเรียว ผิวกลีบเป็นคลื่นๆ บ้างเล็กน้อย เมื่อบานเต็มที่จะมีรัศมีกว้างถึง 5 ซม. รังไข่ กลม เกลี้ยง ผล รูปไข่เกลี้ยงๆ ยาว 2-2.5 ซม. เมื่อแก่จะแยกออกเป็น 6 เสี่ยง เผยให้เห็นเมล็ดเล็กๆ ที่มีปีกเป็นครีบบางๆ ทางด้านบน
  • ผล มีขนาดใหญ่ กลมรี กว้าง 1.5 2.0 ซม. ยาว 2.2 2.6 ซม. ผิวเรียบ ไม่มีขนปกคลุม สีน้ำตาลแดง ผลเป็นผลแห้งที่เมื่อแก่แล้วจะแห้งและแตก เรียกว่า loculicida capsule (แตกตรงกึ่งกลาง carpel, cell, locule หรือ chamber) ถ้วยกลีบเลี้ยงหุ้มโคนผลเช่นเดียวกับอินทนิลบก ผลแข็ง ผลแก่จะแตกเมล็ดมีจำนวนมาก มีปีกเมล็ดสีน้ำตาลเข้ม

inthaninbai inthaninchor inthanindok inthaninking

ระยะการเป็นดอก ผล ไม้อินทนิลน้ำจะเริ่มผลัดใบในปลายฤดูหนาว หรือต้นฤดูร้อน ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม ก่อนที่ใบจะร่วงหล่นจากต้นมันจะเปลี่ยนเป็นสีแดง สีเหลือง หรือสีแดงปนเหลืองเสียก่อน บางต้นก็ทิ้งใบจนหมดเหลือแต่กิ่งก้าน แต่ส่วนมากต้นที่พบขึ้นตามธรรมชาติ ใบอ่อนจะเริ่มผลิออกมาในขณะที่ใบแก่ยังร่วงไม่หมด ใบอ่อนจะผลิออกมาทดแทน ระหว่างเดือนมีนาคม พฤษภาคม ระยะนี้เองที่ช่อดอกเริ่มเต็มไปด้วยดอกสีม่วงสด ดอกจะบานติดต่อกันเรื่อยไปจนถึงเดือนมิถุนายน ผลจะแก่ในราวเดือนตุลาคมจนถึงธันวาคม พอผลแก่เต็มที่จึงแตกออกเพื่อโปรยเมล็ดในระหว่างพฤศจิกายนถึงมกราคม หรืออาจจะเลยไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ก็ได้

ลักษณะเนื้อไม้
เมื่อยังใหม่อยู่เป็นสีแดงเรื่อ ๆ หรือชมพูอ่อน พอนานเข้าเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอมแดง เสี้ยนตรง เนื้อค่อนข้างละเอียด เป็นมันเลื่อม แข็งปานกลาง เหนียว ทนทาน โดยเฉพาะการใช้ในน้ำ แห้งได้ดี เลื่อย ไสกบ ตบแต่งง่าย ขัดเงาได้งาม ความถ่วงจำเพาะ ประมาณ 0.64 (13%) เนื้อไม้มีความแข็ง ประมาณ 474 กก. ความแข็งแรงประมาณ 875 กก./ตร.ซม. ความเหนียวประมาณ 1.70 กม.-ม.

สรรพคุณทางด้านสมุนไพรไทย

  • ใบอินทนิล มีรสจืด-ขมฝาดเย็น ใช้ต้มหรือชงกับน้ำร้อน ใช้ลดระดับน้ำตาลในเลือด บรรเทาอาการเบาหวาน ขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต
  • เปลือก มีรสฝาดขม ต้มกับน้ำรับประทานแก้ไข้และแก้ท้องเสีย
  • เมล็ด มีรสขม แก้ดรคเบาหวาน ช่วยให้นอนหลับสบาย
  • แก่น มีรสขมใช้ต้มดื่ม รักาาโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ
  • ราก มีรสขม ใช้รักาาโรคแผลในปาก

การขยายพันธุ์
การขยายพันธุ์ที่นิยมปฏิบัติกันคือ การขยายพันธุ์โดยเมล็ด ส่วนการขยายพันธุ์ด้วยวิธีอื่นยังไม่มีการนำมาใช้ปฏิบัติกัน

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเก็บเมล็ดคือ ช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงมกราคม วิธีการเก็บผลใช้ตะขอตัดช่อผลลงมาก่อนที่จะแตก นำมาผึ่งแดดผลก็จะแตกและเมล็ดจะหลุดร่วงออกมา

inthaninkla

คุณภาพของเมล็ด เมล็ดมีอัตราการงอกประมาณร้อยละ 60 80 % เมล็ดเก็บไว้ได้นาน โดยอัตราการงอกจะเพิ่มขึ้นตามลำดับตามระยะเวลาที่เก็บรักษา การเก็บรักษาเมล็ดควรคลุกยาฆ่าแมลงและเก็บไว้ในที่ปิดมิดชิด

การปฏิบัติต่อเมล็ดและการเพาะเมล็ด แช่เมล็ดในน้ำเย็น 2 4 ชม. เพาะโดยการหว่านเมล็ดลงแปลงเพาะใช้ดินร่วนกลบหนาประมาณ 0.5 ซม. เมล็ดจะงอกภายใน 10 20 วัน ขนาดของกล้าย้ายชำควรมีความสูง 4 6 ซม. ขนาดของกล้าย้ายปลูกสูงตั้งแต่ 30 ซม. อายุ 3 4 เดือน

inthanindoks

การปลูก การเจริญเติบโตและการปรับปรุงพันธุ์

ไม้อินทนิลน้ำเป็นไม้ที่ค่อนข้างโตเร็วถ้าปลูกในที่เหมาะสม ถ้าปลูกในที่ชุ่มชื้นมากจะไม่ผลัดใบ ปัจจุบันนิยมปลูกกันทั่วไป จะออกดอกเมื่ออายุประมาณ 4 6 ปี การปลูกไม้อินทนิลน้ำส่วนมากจะปลูกเป็นไม้ริมทางและไม้ประดับเนื่องจากมีใบและดอกที่สวยงาม ข้อมูลเกี่ยวกับการปลูก การเจริญเติบโตและการปรับปรุงพันธุ์ยังมีน้อยมาก

ที่มา : จดหมายข่าวราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๑๒, ธันวาคม ๒๕๓๒

ป้ายคำ :

เรื่องที่เกี่ยวข้องกับหมวด ไม้ยืนต้น

แสดงความคิดเห็น