ภายหลังก่อสร้างและเปิดใช้งานสนามบินสุโขทัยได้สักระยะ พื้นที่รอบนอกบางส่วนยังเป็นแค่ทุ่งโล่ง ไม่ได้ถูกใช้งานตามศักยภาพของผืนดินอย่างที่ควรจะเป็น เมื่อผนวกรวมกับความตั้งใจที่สร้างประโยชน์ให้แก่สังคม เราจึงพลิกฟื้นขึ้นเป็นพื้นที่เกษตรกรรมซึ่งเป็นมิตรต่อผู้ผลิต ผู้บริโภค และสภาพแวดล้อม
โดยเริ่มจากการลองปลูกข้าวไม่ใช้สารเคมีในพื้นที่ 3 ไร่เมื่อปี 2542 แล้วค่อยๆ ขยายเป็นแปลงนามากกว่า 200 ไร่ในอีก 6 ปีถัดมา บทเรียนจากการลงมือปฏิบัติทำให้เรามั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อพร้อมสำหรับเส้นทางเกษตรกรรมที่ยั่งยืน เราจึงได้ก้าวเข้าสู่ระบบเกษตรอินทรีย์อย่างเต็มรูปแบบในปี 2549 ภายใต้ชื่อ โครงการเกษตรอินทรีย์สนามบินสุโขทัย
เราบรรจงแต้มสีเขียวบนผืนดินควบคู่กับการทุ่มเทศึกษาวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าว เพื่อให้ได้ผลผลิตข้าวที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเป็นสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพตามธรรมชาติของพื้นที่โครงการฯ
จากที่เคยปลูกข้าวเพียงอย่างเดียวในผืนนาขนาดเล็ก วันนี้พื้นที่กว่า 800 ไร่หลากหลายไปด้วยนาข้าว แปลงผัก และสวนผลไม้
จากที่เคยผลิตได้เพียงแค่จำหน่ายให้ครัวสายการบินกรุงเทพและพนักงานบริษัทในเครือ
วันนี้ผลผลิตอินทรีย์ออกดอกผลงอกงาม กระทั่งมีปริมาณมากพอสำหรับการจำหน่ายแก่ผู้บริโภคทั่วไป
ความสำเร็จก้าวแรกไม่เพียงนำมาซึ่งความภูมิใจ แต่ยังช่วยยืนยันว่า วิถีเกษตรอินทรีย์ที่ดำเนินควบคู่ไปกับหลักแห่งความพอเพียงนั้นสามารถอยู่รอดได้ในระบบเศรษฐกิจของโลก
ปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ของประเทศไทย
เราปลูกพืชทุกต้นโดยพึ่งพาธรรมชาติ บำรุงดินอย่างอ่อนน้อมคำนึงถึงคุณภาพของผลผลิตเช่นเดียวกับอาหารที่เราบริโภคเอง
และใส่ใจพื้นที่สีเขียวทั้งหมดอย่างทั่วถึง
เราปล่อยให้โครงการฯ เติบโตอย่างช้าๆโดยไม่คิดจะปรับเปลี่ยนไปสู่ระบบเกษตรเชิงอุตสาหกรรม เพราะการเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์จนกว้างใหญ่เกินกำลังอาจทำให้เราไม่สามารถดูแลพื้นที่สีเขียวได้ถ้วนถี่เช่นเดิมเราจึงเลือกเดินบนเส้นทางเกษตรกรรมที่ยั่งยืนในวิถีพอเพียงด้วยรู้ดีว่าสิ่งที่ลงมือทำสามารถสร้างรอยยิ้มมหาศาลแก่ทุกชีวิตที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นทางการผลิต ไปจนสิ้นสุดปลายทางที่การบริโภค
นี่จึงเป็นมากกว่าความศรัทธาและคงไม่เกินเลยนักหากจะกล่าวว่า…เกษตรอินทรีย์คือชีวิตของเรา
การทำนาโดยไม่พึ่งพาสารเคมีเป็นเจตนารมณ์ของนายแพทย์ปราเสริฐและคุณวัลลีย์ ปราสาททองโอสถ ที่ริเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อประมาณสิบปีที่แล้ว
กระทั่งเติบโตขึ้นเป็นโครงการเกษตรอินทรีย์สนามบินสุโขทัย บุคคลทั้งสองยังให้การสนับสนุนโครงการฯ ด้วยดีเสมอมา โดยมีคุณศุทธาวดี เจริญรัถ เป็นผู้จัดการโครงการฯ และอาจารย์สมเดช อิ่มมาก เป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาสายพันธุ์
ข้าว พร้อมด้วยทีมงานแข็งขันอีกมากกว่า 40 ชีวิต
ทุกคนต่างมีส่วนสำคัญที่ทำให้ดินแดนเกษตรอินทรีย์แห่งนี้เดินมาถึงความสำเร็จก้าวแรก และจะเดินหน้าร่วมกันอย่างมั่นคงสู่ก้าวต่อๆ ไป
ห้องเรียนกลางแจ้ง
สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสวิถีเกษตรอินทรีย์อย่างใกล้ชิด คุณสามารถเข้าร่วมกิจกรรม ห้องเรียนกลางแจ้ง เพื่อเรียนรู้และลงมือปฏิบัติงานส่วนต่างๆ ภายในโครงการฯ โดยมีเกษตรกรอินทรีย์ตัวจริงเป็นพี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำ
เรามีโปรแกรมห้องเรียนกลางแจ้ง 3 รูปแบบให้เลือกตามระดับความสนใจ
รายละเอียดดังนี้
กิจกรรมห้องเรียนกลางแจ้ง ชาวนาสมัครเล่น 1.5 ชั่วโมง
ห้องเรียนกลางแจ้งแบบครึ่งวัน (Outdoor Classroom)
เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดม่อฮ่อมเป็นชาวนาอย่างเต็มตัว
ห้องเรียนกลางแจ้งแบบเต็มวัน (Seeding Till Cooking)
เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดม่อฮ่อมเป็นชาวนาอย่างเต็มตัว
ห้องเรียนกลางแจ้ง หลักสูตรมืออาชีพ 3วัน 2 คืน
สนุกกับการเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์แบบเจาะลึกในทุกขั้นตอน
เราจัดเตรียมชุดชาวนาและรองเท้ายางไว้สำหรับผู้ร่วมกิจกรรมห้องเรียนกลางแจ้งที่ต้องลงดำนาหรือเกี่ยวข้าว
ทั้งยังมีที่พัก 3 รูปแบบ คือ โฮมสเตย์ บังกะโล “ไร่สบายสบาย” และสุโขทัยเฮอริเทจ รีสอร์ท ไว้รองรับการพักแรม
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดค่าใช้จ่าย สำรองที่นั่งสำหรับกิจกรรมห้องเรียนกลางแจ้งและที่พักได้ที่ บริษัท สุโขทัยทราเวิลเซอร์วิส จำกัด โทร. 055-613-075-6
http://www.kaohomsukhothai.in.th
ป้ายคำ : ศูนย์เรียนรู้