การเลี้ยงกบในบ่อพลาสติก ดัดแปลงมาจากการเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก ที่กำลังนิยมเลี้ยงเป็นจำนวนมากใน และกำลังประสบปัญหาเรื่องปลาดุกล้นตลาด ทั้งที่มีส่งเสริมการแปรรูป เช่น การทำปลาดุกย่าง การทำปลาดุกย่าง การทำปลาดุกร้า เป็นต้น ทางสำนักงานประมง พยายามหาเทคโนโลยีใหม่เพื่อพัฒนาเกษตรกรที่สนใจและได้ทำการทดลองแล้ว ปรากฏว่า การเลี้ยงกบในบ่อพลาสติกนี้ จะมีผลตอบแทนมากกว่า การเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก เพราะสามารถเพิ่มจำนวนกบที่เลี้ยงและขยายพื้นที่เลี้ยงได้ และเลี้ยงได้หลายรุ่นและขยายจำนวนบ่อของเกษตรกรได้
สถานที่ที่เหมาะสมในการเลี้ยงกบ
พันธุ์กบที่นำมาเลี้ยง
กบที่เหมาะสมจะนำมาทำการเพาะเลี้ยงนี้ ได้แก่ กบนา ซึ่งถ้าเลี้ยงอย่างถูกต้องตามวิธีการจะใช้เวลาเลี้ยงเพียง 4-5 เดือน จะได้กบขนาด 4-5 ตัว / กก. เป็นกบที่มีความเจริญเติบโตเร็ว
การสังเกตเพศ กบนาตัวผู้มีขนาดเล็กกว่าตัวเมีย และส่วนที่เห็นได้ชัดคือ กบนาตัวผู้เมื่อจับพลิกหงายขึ้นจะเห็นมีกล่องเสียงอยู่ใต้คางแถวๆ มุมปากล่างทั้งสองข้าง ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ กบนาตัวผู้จะส่งเสียงร้องและในขณะที่ร้องนั้นส่วนของกล่องเสียงจะพองโตและใส
อัตราการปล่อย
50-100 ตัว / ตร.ม. การเลี้ยงกบ จำเป็นต้องคอยคัดขนาดของกบให้มีขนาดเท่าๆ กัน ลงเลี้ยงในบ่อเดียวกัน มิฉะนั้น กบใหญ่จะรังแกและกินกบเล็ก
การให้อาหาร
อาหารที่นิยมเลี้ยงกบมีด้วยกัน 2 แบบ คือ
การให้อาหาร ควรให้วันละ 2 ครั้ง คือเช้าและเย็น พยายามอย่าให้อาหารเหลือในบ่อมากเพราะจะทำให้น้ำในบ่อเน่าเสียได้
วัสดุอุปกรณ์ต่อ 1 บ่อ
โรคและการป้องกันรักษา
ปัญหาโรคของกบที่เกิดขึ้น มักเกิดจากความผิดพลาดของการเลี้ยงและการจัดการ โรคที่พบบ่อยๆ ได้แก่
หากไม่อยากให้เกิดโรค ไม่ควรเลี้ยงกบหนาแน่นเกินไป หรือ ถ้าพบกบตัวใดมีอาการผิดปกติควรจับแยกออกเลี้ยงต่างหาก และควรดูแลเรื่องระบบน้ำในบ่อให้ดีอยู่เสมอ
ผลตอบแทน
รายได้จากการจำหน่ายกบ ปล่อยกบ 100 ตัว อัตรารอด 80% คงเหลือ 80 ตัว เลี้ยงประมาณ 4 เดือน ได้กบขนาด 5 ตัว/ กิโลกรัม การเลี้ยงรุ่นที่ 2 ไม่ต้องลงทุน ผ้าปูบ่อพลาสติก และมุ้งเขียว
ป้ายคำ : สัตว์น้ำ