เห็ดเข็มทอง (Flammulina velutipes (Curt, ex Fr.) Sing.) พบขึ้น ทั่วไปในเขตหนาว เช่น จีน ญี่ปุ่น อเมริกา และออสเตรเลีย ชอบขึ้นกับไม้ที่ตายแล้วและออกดอกในช่วงฤดูหนาว ชาวบ้านจึงนิยมเรียกเห็ดชนิดนี้ว่า เห็ดเหมันต์ (Winter mushroom) ดอกเห็ดใน ธรรมชาติมีสีเหลือง ส้ม น้ำตาล แดง หมวกเล็ก
เห็ดเข็มทอง
ลำต้นสั้น การเพาะเห็ด ชาวญี่ปุ่นรู้จักรับประทานเห็ดชนิดนี้มานานหลายศตวรรษ จนสามารถเพาะเห็ดจากท่อนไม้แทนการเก็บเห็ดจากป่า และได้รับการศึกษาค้นคว้าต่อจนถึงปี พ.ศ. 2471 Morimoto ก็พบวิธี การเพาะเห็ด จากขี้เลื่อย และพัฒนาเรื่อยมาจนสามารถเพาะเห็ดเข็มทองได้ตลอดทั้งปี ภายใต้การควบคุมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม พร้อมกันนี้ก็ได้ผสมพันธุ์ใหม่ๆ เพื่อคัดเลือกสายพันธุ์ที่มีลักษณะดีตามต้องการ เช่น ดอกเห็ดสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน เจริญเติบโตดี ออกดอกง่าย ผลผลิตสูง มีอายุการตลาดอยู่ได้นาน ดังเช่นสายพันธุ์ที่ใช้เพาะกันอยู่ทุกวันนี้
ความเป็นมาของเห็ดเข็มทอง และ การเพาะเห็ด ในประเทศไทย
อัจฉรา และสุภาวดี (2535) รายงานว่า กองโรคพืชและจุลชีววิทยา กรมวิชาการเกษตร โดยอาจารย์ดารา พวงสุวรรณ อดีตผู้เชี่ยวชาญพิเศษกรมวิชาการเกษตร ซึ่งได้เดินทางไปดูงาน การเพาะเห็ด เข็มเงินที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนกันยายน
พ.ศ. 2534 พร้อมกับนำเชื้อพันธุ์เห็ดเข็มเงินเข้ามา ได้ดําเนินการเพาะเลี้ยง ณ กองโรคพืชและจุลชีววิทยา กรมวิชาการเกษตร ผลการทดลองมีแนวโน้มที่มีความเป็นไปได้ที่จะเพาะเลี้ยงเห็ดชนิดนี้ได้ใน ประเทศไทย หากได้มีการพัฒนาวิธีการเพาะและห้องเพาะเลี้ยง ให้มีสภาพเหมาะสมคุ้มค่ากับการลงทุน
การจําแนกเห็ดเข็มทอง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Flammulina velutipes Karst.
ชื่อสามัญ เห็ดเข็มเงิน , เห็ดเข็มทอง (Golden needle mushroom, Velvet stem collybia,Velvet agaric, Winter mushroom, Enoki, Enokitake หรือ The Golden Mushroom)
เห็ดเข็มทอง
ชื่อวิทยาศาสตร์ (Flammulina velutipes (Curt, ex Fr.) Sing.)
ชื่อสามัญ (ไทย) เห็ดเข็มทอง (อังกฤษ) Enokitake หรือ Golden Mushroom
เชื้อที่บริการ เห็ดเข็มทอง เบอร์ 1 มีลักษณะเส้นใยสีขาว บางส่วนเปลี่ยนเป็นสีเหลือง-น้ำตาล เมื่ออายุมากกว่า 45 วัน เจริญได้ดีที่อุณหภูมิ 22-26 องศาเซลเซียส ดอกเป็นกลุ่ม ก้านยาว 6-12ซม. หมวกดอกมีขนาดเล็ก 0.5-1.5 ซม. สีของก้านส่วนล่างจะมีสีน้ำตาลดำและอ่อนลงเป็นสีเหลืองจนถึงหมวกดอก ให้ผลผลิตได้ดีที่อุณหภูมิ 8-18 องศาเซลเซียส
ลักษณะประจำพันธุ์ ดอกเห็ดมี ลักษณะเป็นกลุ่ม หมวกดอกโค้งนูนลง สีเหลืองทอง
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1-5 ซม. ก้านดอกสีเหลือง โคนก้านสีน้ำตาลเข้มดำ ก้านยาว 3-12 ซม. พิมพ์สปอร์ (Spore print) สีขาว สปอร์รูปไข่ปลายมนสีขาว ขนาด 5-8 X 3-4 ไมครอน
ข้อแตกต่างของเห็ดเข็มเงินและเข็มทอง
เห็ดเข็มเงิน มีก้านดอกและหมวกดอกสีขาว เป็นเห็ดที่ นิยมรับประทานกันมานานหลายศตวรรษ โดยประเทศญี่ ปุ่นได้พัฒนาการเพาะเลี้ยงจากขอนไม้มาเพาะลงในถุงอาหารขี้เลื่อย จนกลายเป็นเห็ดเศรษฐกิจที่รู้จักกันดีในปัจจุบัน เห็ดเข็มทอง เป็นเห็ดตระกูลเดียวกันกับเห็ดเข็มเงิน มีก้านดอกและหมวกดอกสีเหลืองทอง ส่วนบริเวณ โคนก้านมีสีนํ้ าตาลดำ นิยมเพาะเลี้ยงในประเทศจีน เพื่อสกัดเป็นเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ
การเพาะเห็ด – ลักษณะการเจริญเติบโต
ขั้นตอนการเพาะเลี้ยงเห็ด การเพาะเห็ด ให้ได้ผลผลิต
1.โรงเพาะ
โรงเรือนสำหรับ การเพาะเห็ด เข็มทองที่ดีจะต้องสร้างแบบห้องเย็น ภายใต้หลังคา สามารถ ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น อากาศและแสงสว่างได้ดี มีพื้นที่สำหรับกองขี้เลื่อย และติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องผลิตไอน้ำ ตู้อบฆ่าเชื้อ เครื่องมือต่างๆ และควรมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองในกรณีไฟฟ้าดับด้วย
2.การเตรียมเชื้อสำหรับ การเพาะเห็ด
เชื้อเห็ดสายพันธุ์ที่ตลาดนิยม เลี้ยงเชื้อบริสุทธิ์ในอาหารวุ้น PDA หรือ PDYA ที่อุณหภูมิ 20 25 องศาเซลเซียส แล้วจึงขยายเชื้อลงในเมล็ดข้าวฟ่างหรือขี้เลื่อยผสมรำ 10 เปอร์เซ็นต์ ใช้เป็นหัวเชื้อ
3.การเตรียมวัสดุสำหรับ การเพาะเห็ด
วัสดุเพาะที่ใช้กันโดยทั่วไปคือ ขี้เลื่อยผสมรำละเอียด 10 20 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้อาจจะผสมแกลบ 5 10 เปอร์เซ็นต์ และอาหารเสริมอื่นๆ ตามความเหมาะสมของเชื้อเห็ดแต่ละสายพันธุ์ ขี้เลื่อยควรรดน้ำกองทิ้งไว้จนน้ำที่ไหลซึมออกมามีใส ในระหว่างกองหมักน้ำควรกลับกองเพื่อความสม่ำเสมอในการชะล้างยางไม้ออกจากขี้ เลื่อย เสร็จแล้วกองให้สะเด็ดน้ำเพื่อเตรียมใช้งานต่อไป ส่วนผสมของวัสดุเพาะควรมีความชื้นอยู่ระหว่าง 58 62 เปอร์เซ็นต์
การเตรียมอาหารวัสดุ ที่ใช้ผสมเป็นอาหารสำหรับ การเพาะเห็ด เข็มเงินประกอบด้วย
วัสดุทั้งหมดนี้นำมาคลุกให้เข้ากันอย่างดีจะมี ความชื้น 60-65 % นำอาหารที่เตรียมแล้วนำไปบรรจุในถุงพลาสติกทนร้อน ขนาด 7 x 12 นิ้ว อาจบรรจุในพลาสติกได้อัดให้แน่นจะได้ปริมาณอาหารถุงละ 600 กรัม (วิธีบรรจุ เช่น เดียวกับการเตรียมถุงอาหารเห็ดโดยทั่วไป) ใส่คอขวด (พลาสติก) ปิดจุกสำลี แล้วหุ้มด้วยกระดาษป้องกันสำลีเปียก
4.ภาชนะที่ใช้ใน การเพาะเห็ด
นิยมใช้ขวดพลาสติกทนความร้อนสูง มีลักษณะทั่วไปโดยประมาณดังนี้
ความจุ 1 ลิตร ปากกว้าง 6 เซนติเมตร ใส่วัสดุเพาะหมัก 750 กรัม บรรจุขี้เลื่อยด้วยเครื่องบรรจุ พร้อมทั้งอัดและเจาะรูตรงกลางโดยอัตโนมัติ ปิดปากขวดด้วยฝาพลาสติกแบบมีที่กรองอากาศ
5.การอบฆ่าเชื้อใน การเพาะเห็ด
อบฆ่าเชื้อขวดขี้เลื่อยที่อุณหภูมิ 95 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 4 ชั่วโมง จากนั้นจึงเพิ่มอุณหภูมิเป็น 120 องศาเซลเซียส หรือจะอบที่อุณหภูมิ 121 องศาเซลเซียส เป็นเวลานาน 2 ชั่วโมง ก็ได้ ระหว่างที่อบฆ่าเชื้อต้องระวังอย่างให้น้ำไหลเข้าไปในขวดขี้เลื่อย จะทำให้ความชื้นสูงเกินไป เชื้อเห็ดจะเจริญเติบโตได้ไม่ดี หรือเรียกอีกอย่างว่าการนึ่งอาหาร ถุงอาหารขี้เลื่อยผสมที่เตรียมไว้แล้วนี้ นําไปผ่านการฆ่าเชื้อ โดยนึ่งในหม้อนึ่งไม่อัดความดัน อุณหภูมิประมาณ 100 ํC เป็นเวลา 3 ชั่วโมง หรือนึ่งด้วยหม้อนึ่งอัดความดัน อุณหภูมิประมาณ 121 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง
6.การใส่เชื้อ
เมื่ออบฆ่าเชื้อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทิ้งขวดขี้เลื่อยให้เย็นประมาณ 20 องศาเซลเซียส จึงจะใส่เชื้อ การเพาะเห็ด แบบอุตสาหกรรมจะต้องใช้เครื่องมือเป็นส่วนใหญ่ การใส่เชื้อก็เช่นกันจะใส่ด้วยเครื่องโดยใช้เชื้อที่ทำจากขี้เลื่อย ใส่ในอัตราส่วนประมาณ 15 กรัมต่อขวด หรือเชื้อ 1 ขวด ต่อวัสดุเพาะ 50 ขวด หรือใส่เชื้อเห็ดที่เจริญในเมล็ดข้าวฟ่างถุงละ 15-20 เมล็ด
7.การบ่มเชื้อ
นำขวดเพาะที่ใส่เชื้อเห็ดไปตั้งไว้ในห้องที่อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 18 20 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิภายในขวดขี้เลื่อยเหมาะต่อการเจริญเติบโตของเส้นใยเห็ด ใช้เวลา 25 30 วัน เชื้อก็เจริญเต็มขวด
8.การสร้างตุ่มดอก
เมื่อเชื้อเจริญเต็มขวด ให้เปิดฝาออกแล้วใช้เหล็กปลายแบนงอเหมือนช้อนขุดเอาส่วนหน้าหรือส่วนที่เป็น เชื้อขี้เลื่อยออกให้หน้าเรียบ (ฟาร์มเห็ดใหญ่ๆ จะใช้เครื่องแคะ) นำไปไว้ หรือลดอุณหภูมิห้องลงมาที่ 10 15 องศาเซลเซียส (แล้วแต่สายพันธุ์เห็ด) ความชื้น 80 85 เปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องใช้แสงสว่าง รักษาอุณหภูมิและความชื้นให้สม่ำเสมอ ใช้เวลา 5 10 วัน ก็จะสร้างตุ่มดอก แล้วเลี้ยงต่อจนดอกเห็ดโผล่พ้นปากขวด 2 3 เซนติเมตร
เอกสารอ้างอิง
ประเสริฐ สองเมือง 2540. เห็ดเข็มเงินที่คนญี่ปุ่น ชอบรับประทาน. น.ส.พ. กสิกร.70(2) : 178-174
สำเภา ภัทรเกษวิทย์. การเพาะเห็ดเข็มทองแบบอุตสาหกรรม, น. 155 118. ในเห็ดไทย 2539.
ชมรมถ่ายทอดเทคโนโลยีก ารเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพฯ
ป้ายคำ : เพาะเห็ด