แยม เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากจากผลไม้ ซึ่งอาจเป็นผลไม้ทั้งผล ผลไม้เป็นชิ้น เนื้อผลไม้ หรือผลไม้ปั่น ผสมกับน้ำตาลหรือ สารให้ความหวานชนิดอื่น จะผสมน้ำผลไม้หรือน้ำผลไม้เข้มข้นด้วยก็ได้ ที่มีลักษณะเป็นเจล แยมมีลักษณะกึ่งเหลวมีความข้นเหนียวพอเหมาะ สามารถปาดหรือทาบนขนมปังได้ ส่วนมาร์มาเลด คือ แยม ที่ทำจากผลไม้ตระกูลส้มซึ่งอาจเป็นผลไม้ทั้งผล ผลไม้เป็นชิ้น เนื้อผลไม้ หรือผลไม้ปั่นผสมกับเปลือกหรือเนื้อผลไม้ชิ้นบาง ๆ และน้ำตาล หรือจะผสม น้ำผลไม้ตระกูลส้มด้วยก็ได้
มะม่วงเป็นผลไม้เมืองร้อนที่ในบ้านเรามีให้กินกันเกือบทั้งปี และมีมากในช่วงหน้าร้อน-หน้าฝน การนำมาแปรรูปเป็นแยมช่วยให้เรามีมะม่วงกินได้ทั้งปี
แยมมะม่วง สูตร 1
ส่วนผสม
- เนื้อมะม่วงสุกบดละเอียด 1,000 กรัม
- กรดมะนาว 10 กรัม
- น้ำตาลทราย 1,000 กรัม
- น้ำ 250 กรัม
วิธีทำ
- เติมกรดมะนาว น้ำในเนื้อมะม่วง ต้มโดยใช้ไฟอ่อนจนเกือบเดือดคนตลอดเวลาจนเนื้อมะม่วงข้น
- เติมน้ำตาลทรายทีละน้อย คนส่วนผสมอยู่ตลอดเวลาจนน้ำตาลละลายหมด เพิ่มไฟให้แรงขึ้นจนส่วนผสมเดือด วัดปริมาณสารละลายทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 65 องศาบริกซ์ดูการเกิดเจลโดยใช้พายตักขึ้นดูลักษณะการไหลเป็นแผ่น ช้อนฟองทิ้ง
- บรรจุแยมลงในขวดที่ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์แล้ว
แยมมะม่วง สูตร 2
ส่วนผสม
- มะม่วงสุกบดละเอียด 3 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- ผสมมะม่วงสุก น้ำมะนาว เกลือ ในสัดส่วนดังกล่าว คนให้เข้ากัน เติมน้ำตาลทรายทีละน้อย คนส่วนผสมอยู่ตลอดเวลาจนน้ำตาลละลายหมด
- ตั้งไฟปานกลาง เพิ่มไฟให้แรงขึ้นจนส่วนผสมเดือด ช้อนฟองทิ้ง คนตลอดเวลา ระวังอย่าให้ติดกระทะ หรี่ไฟลง คนจนข้นยกลง
- บรรจุแยมลงในขวดปากกว้างที่ล้างและต้มในน้ำเดือดประมาณ 15 – 20 นาที ปิดฝาให้แน่น
แยมมะม่วง สูตร 3
ส่วนผสม
- มะม่วงสุก หั่นเอาแต่เนื้อ
- น้ำตาลทราย (ปริมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณมะม่วงค่ะ)
- น้ำมะนาว ตามชอบค่ะ ให้แยมของเราไม่หวานจนเกินไป
- น้ำเปล่า เล็กน้อย
วิธีปรุง
- มะม่วงสุก หั่นเอาแต่เนื้อ
- น้ำตาลทราย (ปริมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณมะม่วงค่ะ)
- น้ำมะนาว ตามชอบค่ะ ให้แยมของเราไม่หวานจนเกินไป
- น้ำเปล่า เล็กน้อย
เคล็ดลับน่ารู้
– ก่อนบรรจุแยมลงขวดแก้ว ควรฆ่าเชื้อขวดด้วยการนำไปนึ่งหรือต้มก่อน
ที่มา : www.foodnetworksolution.com